เฌอล์เบลล์ นางเอกคลื่นลูกใหม่ จากค่ายเอ็กแซ็กท์

เป็นอีกหนึ่งสาวที่กำลังมาแรง และถูกจับตามองอยู่ในตอนนี้ สำหรับเฌอล์เบลล์ นางเอกตาคม จากค่ายเอ็กแซ็กท์ เพราะนอกจากจะเป็นสาวที่มีความมั่นใจ และเป็นตัวของตัวเองสูงแล้ว ยังมีความสามารถไม่น้อยไปกว่านักแสดงคนอื่นๆ เลย และครั้งนี้ Slimming ก็ได้มีโอกาสคว้าตัวเฌอล์เบลล์มาถ่ายแฟชั่นปก พร้อมพูดคุยกับเธอเป็นครั้งแรก ว่าแล้วเราไปทำความรู้จักกับสาวหน้าสวยคนนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ

จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง
"หนูรู้จักกับพี่คนหนึ่ง ที่รู้จักกับพี่เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร เค้าก็ทาบทามให้ไปร่วมงานด้วย ตอนแรกตั้งใจจะเรียนอย่างเดียว เพราะกำลังจะเริ่มเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ผู้จัดการส่วนตัวก็ไปคุยกับพี่สาวว่าสนใจจะเล่นมิวสิกวีดิโอมั้ย เพราะใช้เวลาถ่ายทำแค่ 1 วันก็เลยไป ครั้งแรกเลยเล่นมิวสิกวีดีโอ "ต่อให้เธอจะลืม" ของ นัท ทิวไผ่งาม จากนั้นก็เล่นเพลง "เลิฟลี่ เกิร์ล" ของ สิงโต เดอะสตาร์ แล้วทางเอ็กแซ็กท์ก็เรียกเราไปคุยเพื่อขึ้นคอนเสิร์ต "เลิฟไม่กลัว กลัวไม่เลิฟ" ของ บี้ เดอะ สตาร์ ตอนแรกคิดว่าจะให้ไปเป็นแดนเซอร์หรือเปล่า เพราะเราเองก็เต้นได้ แต่กลายเป็นว่าไปเป็นแขกรับเชิญเต้นคู่กับพี่บี้ เพลง กลัวที่ไหน หลังจากนั้นก็มาเซ็นต์สัญญากับเอ็กแซ็กท์ แล้วก็ได้มาเล่นละครเรื่อง "ลิขิตฟ้าชะตาดิน" และ "ดอกโศก" ได้รับบทเป็นนางเอกเลย ก็รู้สึกกดดันตัวเองเหมือนกัน เพราะต้องถ่ายละคร 2 เรื่องในเวลาเดียวกัน ตัวละครก็แตกต่างกัน เราไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อน ได้เรียนแอ็คติ้งนิดเดียวก็ต้องแสดงเลย แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ต้องขอบคุณผู้กำกับที่หนูร่วมงานด้วยทุกคน และพี่บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ ที่เข้าใจ และให้โอกาสหนูมาตลอด"

เป็นตัวของตัวเอง และใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ
"หนูเป็นเด็กผู้หญิงที่มีนิสัยเหมือนผู้ชาย ซนมาก ค่อนข้างจะดื้อพอตัว เพราะโตมากับพี่น้องที่เป็นผู้ชาย และใช้ชีวิตแบบสังคมเมืองนอก แต่หนูเป็นคนไทยนะ ไม่ได้เป็นลูกครึ่งอย่างที่ใครๆ คิด หนูไปโตที่เบลเยียม เพราะมีพ่อบุญธรรมเป็นคนเบลเยียม แต่จริงๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่ของหนูเป็นคนไทยแท้ หนูเป็นคนนิ่งๆ เฉยๆ แต่ก็มีความมั่นใจและเป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบตามใคร ชอบความอิสระ แต่มีลิมิตในการคิด และตัดสินใจ เพราะตั้งแต่เด็กคุณแม่จะสอนเรื่องความถูกต้อง และการคิด อะไรถูกอะไรผิด ควรไม่ควร เราต้องไตร่ตรองให้ดีทุกครั้งก่อนจะลงมือทำ ดูว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต จึงทำให้เราคิดเยอะกว่าเด็กทั่วไป แต่เค้าก็ไม่ตั้งกรอบให้เรา ให้มีอิสระเต็มที่ หนูชอบงานศิลปะเค้าก็ให้ไปเรียน ทุกวันนี้ชอบอยู่กับธรรมชาติ อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ที่บ้าน อยู่กับสัตว์ ที่บ้านจะเลี้ยงแมว กระต่าย หนูแฮมสเตอร์ เลี้ยงหลายอย่าง จริงๆ หนูเป็นคนที่ชอบแมวมาก ตอนนี้มีแมวอยู่ตัวหนึ่ง เจออยู่ข้างถนนเลยเก็บมาเลี้ยง ชื่อ นินจา เพราะว่ามันสามารถรอดตายจากถนนที่มีรถวิ่งผ่านเยอะได้ (หัวเราะ)"

รวมมิตรความอินเตอร์ พูดได้ 4 ภาษา
"ตอนนี้หนูดร็อปเรียนที่รามฯ ไปแล้ว เพราะเรียนไม่ทัน แล้วมาลงเรียนด้านศิลปะที่มหาวิทยาลัยรังสิต อยู่ปี 1 จบออกมาอยากเป็นดีไซน์เนอร์ ส่วนภาษาที่พูดได้ ตอนนี้มี 4 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส และเกาหลี เพราะมีเพื่อนเป็นคนเกาหลี แต่คุณพ่อจะพูดได้ 7-8 ภาษาเลย พี่ๆ จะพูดกันได้ 3-4 ภาษา ฉะนั้นถ้าเราพูดได้น้อยกว่าคนอื่นก็จะรู้สึกว่าด้อยกว่า เพราะส่วนมากที่บ้านฝั่งพ่อจะพูดได้หลายภาษา เราจึงต้องพยายามฝึกฝนภาษามากขึ้น ที่พูดได้หลายภาษาแบบนี้ จริงๆ แล้วไม่ได้ไปเรียนเพิ่มเติมอะไรหรอก แต่หนูไปโตที่เมืองนอก ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปเองทีละภาษา ส่วนภาษาไทยยังต้องฝึกพูดอีกเยอะ เพราะคำศัพท์บางคำเรายังไม่รู้ อาจต้องไปเรียนเพิ่มเติมด้วยค่ะ"

ไม่จำเป็นต้องแสดงออกว่ารัก ขอแค่ซื่อสัตย์ต่อกันก็พอ
"หนูยังไม่มีแฟน และไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าเป็นแค่คนสองคนมาเจอกัน คุยกันได้ก็คุย คุยไม่ได้ก็จากกันไป ไม่ค่อยซีเรียส เพราะเค้าไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับพ่อแม่ หรือเพื่อน ทุกวันนี้ก็มีคนมาคุยๆ บ้าง คนไหนไม่โอเคก็ปล่อยผ่านไป เราคุยกันแบบเพื่อนหมด บอกเค้าว่าเรายังไม่พร้อม หนูรู้สึกว่าไม่ว่าเราจะเป็นเพื่อน หรือแฟน เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันได้ เพียงแต่เป็นเพื่อนเราไม่ได้เดินจูงมือกัน แต่หนูก็ไม่ชอบอะไรหวือหวาอยู่แล้ว ไม่ต้องแสดงให้คนอื่นเห็นก็ได้ว่าเราเป็นแฟนกัน รู้กันสองคนก็พอ สำหรับสเปกก็ไม่ได้ตายตัว ขอให้สูงกว่าหนูสัก 180 ซม. กำลังดี ส่วนนิสัยจะให้ความสำคัญที่ความซื่อสัตย์ก่อน บางทีเราไม่ต้องแสดงออกว่ารักกันมากก็ได้ แต่เราซื่อสัตย์ต่อกันดีกว่า ส่วนความเจ้าชู้เป็นของคู่กันกับผู้ชาย เราไม่สามารถห้ามใครได้ มันอยู่ที่ความซื่อสัตย์ของผู้ชายมากกว่าว่า ส่วนตอนนี้เราอายุยังน้อย เราไม่สามารถที่จะเลือกคนใดคนหนึ่งมาเป็นคู่ชีวิตได้เลย ถ้าจะเลือกคงตอนอายุ 25 -30 ปีไปแล้วมั้งคะ (หัวเราะ)"

ชอบออกกำลังกาย และผ่อนคลายความเครียดด้วยการ์ตูน
"หนูจะพยายามหาเวลาออกกำลังกาย ถ้าไม่ได้ไปฟิตเนส ก็จะซิทอัพที่ห้อง เป็นคนชอบออกกำลังกาย และกินพวกวิตามินเสริมด้วย เพราะบางทีกินข้าวไม่ตรงเวลา ขาดสารอาหารไปบ้าง แต่ปกติหนูเป็นคนกินเก่งมาก กินได้ทุกอย่าง ไม่เคยมีช่วงไดเอตเลย เพราะรู้สึกว่าร่างกายคนเราต้องการสารอาหารไปเลี้ยงสมองที่เพียงพอ ถ้าเราอด เราจะรู้สึกโหย ฉะนั้นการกินครบ 3 มื้อเป็นสิ่งสำคัญ เราจะสามารถทำงาน หรือเรียนได้ดี ส่วนวิธีคลายเครียด ง่ายๆ เลยก็คือ การทำในสิ่งที่เราชอบ คือการดูการ์ตูน เพราะเวลาดูเราไม่ต้องคิดอะไร ใช้แค่ตาดู หูฟัง มันก็เพลินไปได้ และรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ถ้าใจเราเป็นเด็กมันก็จะทำให้สดชื่น เพราะเด็กๆ เค้าจะมีความสุข ไม่ต้องคิด หรือตั้งกฎเกณฑ์อะไรมาก บางคนบอกว่าโตแล้วมาดูการ์ตูนทำไม แต่ทุกวันนี้หนูก็ยังดูอยู่ เพราะเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่งด้วยค่ะ (ยิ้ม)"
...............................

Profile's Charebelle
ส่วนสูง 169 ซม.
น้ำหนักปัจจุบัน 48 กก.
น้ำหนักมากสุด 56 กก.
น้ำหนักน้อยสุด 44 กก.
Menu To Slim
เช้า ขนมปัง
เที่ยง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
เย็น สลัดผัก ผลไม้