สถิติวัยโจ๋ฆ่าตัวตายพุ่งห่วงนักเรียนเครียดสอบGAT-PATเป็นเหตุ

สถิติวัยโจ๋ฆ่าตัวตายพุ่งห่วงนักเรียนเครียดสอบGAT-PATเป็นเหตุ

สถิติวัยโจ๋ฆ่าตัวตายพุ่งห่วงนักเรียนเครียดสอบGAT-PATเป็นเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุ คนไทยสภาพจิตเสื่อม มีอัตราฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ห่วงกลุ่มเยาวชนหากไม่ดูแลตั้งแต่ตอนนี้ ช่วงสอบ GAT -PAT ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอาจมีเยาวชนฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นอีก

นายแพทย์ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสถานการณ์การฆ่าตัวตายในประเทศไทย ว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 5.98 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน เพิ่มเป็น 6.03 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน หรือมีคน 3,873 ราย ที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในปี 2554

สาเหตุสำคัญเกิดจากป่วยด้วยโรคซึมเศร้า ความไม่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่มาในรูปของวิกฤต ทั้งภัยพิบัติธรรมชาติ วิกฤติเศรษฐกิจ และการเมือง ซึ่งกลุ่มคนที่ฆ่าตัวตายสูงสุดคือ กลุ่มคนอายุ 20-30 ปี รองลงมาคือผู้สูงอายุ และเยาวชนอายุ 15-19 ปี จังหวัดที่คนฆ่าตัวตายมากที่สุด 5 จังหวัด คือ จังหวัดลำพูน ระยอง เชียงใหม่ น่าน และเชียงราย

อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ ทวี แสดงความเป็นห่วงการฆ่าตัวตายในวัยรุ่น วัยเรียน แม้จะเป็นอันดับ 3 แต่ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต เพราะพบมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

จากการติดตามในปี 2550-2554 มีวัยรุ่นฆ่าตัวตายสำเร็จเฉลี่ย 170 คนต่อปี โดยวัยรุ่นชายมากกว่าหญิงถึง 3 เท่า

จึงขอให้ผู้ปกครองสนใจดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงนี้เทศกาลสอบ GAT -PAT จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน การคาดหวังมากเกินไปของผู้ปกครอง และตัวเด็กเอง โดยไม่มองหาทางเลือกอื่นๆ สำรอง หรือไม่ยอมรับความเป็นจริง อาจทำให้เด็กที่พลาดหวังเข้าข่ายเสี่ยงฆ่าตัวตายได้

ทั้งนี้ ประชาชนที่มีปัญหาชีวิต หรือสงสัยอาการคนรอบข้างว่าจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โรคจิต หรือเสี่ยงฆ่าตัวตาย สามารถโทรปรึกษากับจิตแพทย์ของกรมสุขภาพจิตได้โดยตรงทางสายด่วนสุขภาพจิต 1323 บริการฟรี หรือเข้าไปโหลดแบบคัดกรองผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายได้ที่เว็ปไซต์ www.suicidethai.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook