เราทำบุญโดยเขียนชื่อคู่รักลงในกระดาษจะมีผลหรือเปล่า?

เราทำบุญโดยเขียนชื่อคู่รักลงในกระดาษจะมีผลหรือเปล่า?

เราทำบุญโดยเขียนชื่อคู่รักลงในกระดาษจะมีผลหรือเปล่า?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แล้วหากเลิกกัน ผลบุญนั้นจะไปอยู่ที่ไหน?


การที่เราทำบุญแล้วเขียนชื่อคู่รักของเราใส่ลงไปในกระดาษด้วย มีผลหรือเปล่าคะ?
แล้วหากเลิกกันไป ผลบุญเหล่านั้นจะไปอยู่ที่ไหน?
NuyNui Actually


เมื่อใจเราเป็นกุศล กำลังมีความสุข กำลังเบ่งบานสว่างไสว ก็ย่อมนึกออกแต่เฉพาะสิ่งที่เข้ากันได้ เช่น คนที่ทำให้เรามีความสุขและหัวใจเบ่งบานฟองฟู เป็นต้น หรืออีกที เมื่อใดก็ตามที่ใจเราเป็นกุศล มีความสุข มีความเบ่งบานสว่างไสว แล้วนึกถึงใครคนหนึ่งทุกครั้ง ด้วยความปรารถนาจะให้เขาได้แชร์ความเป็นกุศลอันแสนสุขนั้นร่วมไปกับเราด้วย ใจก็จะจดจำความเป็นเขาควบคู่กับความรู้สึกแสนดีของเราไป นี่เป็นเรื่องของกลไกธรรมชาติทางใจที่ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไร โบราณท่านถึงแนะให้แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้คนที่จองเวรกับเราบ่อยๆ เวรอาจคลี่คลาย หรือกระทั่งกลายเป็นไมตรี เปลี่ยนใจให้เป็นมิตรกันได้

การเขียนชื่อคนรักใส่ลงไปตอนทำบุญ เป็นวิธีการที่จิตของเราจะระลึกถึงคนรักอย่างชัดเจนด้วยการกระตุ้นเตือนจากคำในกระดาษ ผลคือใจเราจะมีความรู้สึกผูกโยงในทางดีกับคนรักมากขึ้นกว่าเดิม พูดง่ายๆว่าเป็นอุปเท่ห์วิธีที่จะแผ่เมตตาถึงกันแบบหนึ่ง

ด้วยฐานะคนรัก บวกกับความรู้สึกดีๆที่บันดาลขึ้นโดยอานุภาพแห่งบุญ ตัวคุณเองจะรู้สึกถึงสายใยผูกพันในทางอ่อนโยน ยิ่งขณะทำบุญเกิดความสุขลึกซึ้งเพียงใด สายใยผูกพันก็จะเหมือนโยงใจเข้ากับอารมณ์ล้ำลึกเพียงนั้น

แต่ถามว่าอีกฝ่ายได้บุญไปกับเราไหม? ต้องตอบว่าไม่ได้ครับ! คิดง่ายๆอย่างนี้ก็แล้วกัน การที่ใครสักคนจะได้บุญ ต้องอาศัยกำลังใจของเจ้าตัวในการทำ อย่างถ้าเราปลุกเขาแล้วชวนตอนงัวเงียว่า ‘ใส่ซองสร้างพระประธานด้วยกันไหม?' แม้ว่ามือเขาจะหยิบเงินใส่ซองให้เราแบบเป็นอัตโนมัติ แต่ใจยังฝืดๆฝืนๆ อย่างนี้ก็ไม่เรียกว่ามี ‘กำลัง' ที่จะทำบุญร่วมกับเรา มีแต่ความเกรงใจเราเท่านั้นที่ผลักดันให้เคลื่อนไหวไป

นี่ขนาดเราชวนต่อหน้า ถ้าไม่มีกำลังใจยังไม่เรียกว่า ‘ร่วมบุญ' กันเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยนะครับ นับประสาอะไรกับการที่เราแค่เขียนชื่อเขาใส่กระดาษ แบบที่เขาไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีกำลังใจมาร่วมไปกับเราด้วย จะเกิดบุญขึ้นในเขาอย่างไรได้?

แต่หากบอกเขาว่าเราทำบุญโดยเขียนชื่อเขาใส่ลงไปด้วย แล้วเขาเกิดความปลาบปลื้มปีติ ราวกับไปช่วยทำอยู่ตรงนั้น ขนาดที่เอ่ยปากว่าเสียดาย น่าจะได้ไปด้วยกัน อยากอยู่ตรงนั้นด้วยจัง อย่างนี้เรียกว่ามีกำลังใจ เป็นอันว่า ‘ร่วมบุญ' ไปกับเรา ไม่ว่าจะจดหรือไม่จดชื่อใส่กระดาษ กรรมก็ถูกจดใส่ความจริงที่เกิดขึ้นไปแล้ว

สมมุติว่าตลอดเวลาที่อยู่กับเขา เราเป็นฝ่ายจดชื่อหรือบอกให้เขาอนุโมทนาด้วย โดยเขาไม่ริเริ่มก่อร่างสร้างบุญให้เรานึกอยากร่วมอนุโมทนาด้วยเลย ผลคือเมื่อเจอกันใหม่ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน เราจะเป็นฝ่ายมีแก่ใจสร้างความสัมพันธ์อันดีมากกว่าเขา รู้สึกรัก ผูกพัน หรือห่วงใยเขามากกว่าที่เขาจะมีให้เรา พูดง่ายๆคือเขามีฐานะเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ เขาอาจหลงเรา ยึดเรา หัวปักหัวปำกับเราด้วยอำนาจบุญที่เราเคย ‘ทำเผื่อ' ให้กับเขา แต่ก็จะเป็นการยึดแบบงงๆว่านี่ตูทำอะไรของตู มากกว่าที่จะออกมาจากความรู้สึกลึกซึ้งชัดเจนเหมือนฝ่ายเรา

ฟังดูไม่แฟร์ใช่ไหมครับ? พระพุทธเจ้าท่านถึงบอกไงว่า ถ้าจะอยู่กันให้ยืดขนาดข้ามภพข้ามชาติไปรักกันอีก ก็ต้องหาคนที่ ‘มีใจเสมอกัน' อย่างเช่นเรื่องของน้ำใจให้กัน ตลอดจนน้ำใจคิดทำบุญทำกุศล ช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่น

เรื่องจารึกชื่อไว้ผูกบุญกันนั้นไม่ต้องไปห่วงมากหรอกครับ มันเบากว่าตอนจารึกชื่อไว้ในทะเบียนสมรสมากนัก!

บทความโดย :ดังตฤณ

Facebook.com/AskDungtrin

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook