ถักเปีย วิธีทำผมทรงถักเปียแสนหวาน

ถักเปีย วิธีทำผมทรงถักเปียแสนหวาน

ถักเปีย วิธีทำผมทรงถักเปียแสนหวาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทรงผม ถักเปีย จะช่วยให้สาวๆ ดูดีขึ้นมา เวลามีงานสำคัญสิ่งที่เป็นกังวลคงไม่พ้นเรื่องของทรงผม ใช่มั๊ยล่ะคะ โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีความยาวผมประบ่า การจัดแต่งทรงผมอาจจะดูแลยาก แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้เก๊ตดี้มี ทรงผมถักเปียสวยๆ ที่จะช่วยให้เราดูขึ้น เหมาะมากที่จะทำออกงาน หรือจะทำเป็นทรงผมรับปริญญา เพราะเป็นแบบเปียผมที่ดูสุภาพ ไม่ดูเยอะเกินไป 

สำหรับสาวๆ ที่เลือกทำ ทรงถักเปีย ในวันรับปริญญา เก๊ตดี้แนะนำให้ศึกษากฎของมหาวิทยาลัยว่ามีข้อกำหนดอะไรบ้าง และควรเก็บผมด้านข้างให้หมด ซึ่งเป็นกฎของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ว่าห้ามปล่อยผมด้านข้าง เวลารับใบปริญญาบัตรต้องโค้ง ผมจะได้ไม่ร่วงมาผิดหน้าผิดตา เดี๋ยวภาพออกมาไม่สวยจะหาว่าเก๊ตดี้ไม่เตือนนะคะ


เรามาดูขั้นตอนการ ถักเปีย ที่สามารถสวยได้มือเราเองกันดีกว่า

ถักเปียถักเปีย

               

  • ม้วนผมด้วยเครื่องม้วนผมไฟฟ้า เพื่อให้ผมลอนสปริงตัวสวยมีวอลลุ่ม จะช่วยให้เปียผมที่ถักดูเป็นธรรมชาติและอยู่ทรงมากขึ้น
  • เมื่อม้วนผมเสร็จแล้ว ใครที่ผมไม่อยู่ทรงจะฉีดสเปร์ยเพื่อให้ผมอยู่ทรงก็ได้นะคะ แต่อย่าฉีดเยอะเกินไป เดี๋ยวผมจะแข็งเกินไปนะคะ
  • เกล้าผมต่ำและปล่อยผมด้านข้าง
  • ใช้มือเบียดเกลียวผมที่เกล้า แล้วม้วนเป็นก้นหอย ติดกิ๊บตัวเล็กให้เรียบร้อย
  • ถักเปีย ผมด้านข้างจนสุดปลายผม
  • ติดกิ๊บซ่อนปลายผมไว้
  • ทำเหมือนกันทั้งสองข้าง
  • ดึงปอยผมด้านหน้า เล็กน้อย จะช่วยให้ใบหน้าดูหวานขึ้นค่ะ

ถ้าเกิดว่าการถักเปียรูปแบบแรกยังรู้สึกว่ายากเกินไปอยู่ งั้นลองมาดูวิธีการเปียรูปแบบที่ 2 คราวนี้มาเป็นแบบวีดีโอ ทำตามได้ไม่ยากแน่นอน ขอแถมเป็นคำอธิบายตามขั้นตอนด้วยตัวหนังสืออีกทีด้านล่าง เผื่อว่าใครยังตามไม่ทัน

ขั้นตอนถักเปีย

  • ขั้นแรก ให้แยกผมส่วนด้านบนไว้จับหนึ่งพอประมาณ จากนั้นให้ใช้หนังยางรัดผมรัดเอาไว้
  • ต่อมาให้จับผมที่อยู่ถัดลงมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวาเล็กพอประมาณเป็นจับที่ 2 เสร็จแล้วให้ใช้หนังยางรัดผมรัดทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกัน
  • ให้แยกตรงกลางของจับผมจับแรกให้เกิดช่อง จากนั้นให้นำผมมัดที่ 2 แทรกลงในระหว่างช่องนั้น ดึงและจัดทรงให้สองด้านโค้งสวยงาม
  • จับผมจับที่ 3 ซึ่งอยู่ถัดลงมาจากจับที่ 2 แล้วใช้หนังยางรัดไว้เช่นเดิม แยกตรงกลางของจับผมจับที่ 2 ให้เกิดช่อง จากนั้นให้นำผมมัด 3 แทรกลงในระหว่างช่องนั้น ดึงและจัดทรงให้สองด้านโค้งสวยงามเช่นเดิม ทำเช่นนี้จนกว่าจะครบทั่วทั้งศีรษะ
  • เมื่อทำจนครบ ทั่วทั้งศีรษะแล้ว ให้นำเอาผมที่มัดจับสุดท้ายถักเป็นเปีย 3 ปกติ จับม้วนเข้าให้มีลักษณะเป็นรูปดอกกุหลาบ จัดทรงให้สวยงาม จากนั้นให้ใช้กิ๊บดำเสียบเพื่อล็อคให้ดอกกุหลาบอยู่ทรง เป็นอันเสร็จ

ถักเปีย 4 แบบ 4 สไตล์ไม่ให้น่าเบื่อ

บางครั้งบางมุมเชื่อว่าสาวๆ ก็ต้องมีคิดบ้างล่ะว่าการถักเปียในแบบเดิมๆ รู้สึกน่าเบื่อ หรือการถักเปียในบางแบบก็มีวิธีการทำที่ยากเกินไป วันนี้เราก็เลยนำเอาสไตล์การถักเปีย 4 แบบ ไม่ซ้ำ ไม่น่าเบื่อมาฝาก ตามไปดูกันดีกว่าว่าแบบการถักเปียที่นำมาฝากจะเป็นอย่างไรบ้าง

ถักเปียแบบที่ 1 : Sweet Ribbons Braid

ถักเปีย Sweet Ribbons Braidถักเปีย Sweet Ribbons Braid

การถักเปียในแบบนี้นับได้ว่าเป็นผมเปียที่เหมาะสำหรับสาวหวานและอ่อนโยน มีลักษณะการถักเป็นก้นหอยที่ตรงบริเวณท้ายทอย โดยระหว่างถักเปียก็สอดริบบิ้นสีอ่อนหว่านเข้าไปด้วยโดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นสีชมพูหวานอย่างเดียว สาวๆ อาจจะหยิบเอาริบบิ้นสีพาสเทลอื่นๆ มาใช้บ้างก็ได้ ดูสวยหวานไปอีกแบบ

ถักเปียแบบที่ 2 : Formal Braid with Ribbons

ถักเปีย Formal Braid with Ribbonsถักเปีย Formal Braid with Ribbons

คราวนี้มาถึงอีกหนึ่งแบบ ลองเปลี่ยนลุคการถักเปียมาเป็นแบบทางการดูบ้าง มีลักษณะผมเปียเป็นแบบเนี้ยบๆ เรียงตัวสวย ปิดท้ายเพิ่มความเรียบร้อย แต่เรียบหรูด้วยริบบิ้นสีน้ำตาลที่นำมาคาดผมและผูกเป็นโบว์ได้ในแบบ 2 in 1 แนะนำเพิ่มเติมว่า สาวๆ อาจไม่จำเป็นต้องใช้ริบบิ้นสีน้ำตาลอย่างเดียวก็ได้นะ อาจใช้เป็นริบบิ้นที่มีสีเข้าคู่กับกระโปรงก็ดูดี ดูเก๋ไปอีกแบบ

ถักเปียแบบที่ 3 : Bold the Bohemian’s Braid

ถักเปียแบบที่ 3 : Bold the Bohemian’s Braidถักเปียแบบที่ 3 : Bold the Bohemian’s Braid

เปลี่ยนจากสไลต์การถักเปียในแบบที่เรียบร้อย ดูเป็นทางการในแบบที่มา 2 มาลองถักเปียในแบบวุ่นๆ ตามสไตล์สาวมาดเซอร์โบฮีเมียนกันสักหน่อย สาวๆ อาจหยิบเอาริบบิ้นที่เป็นแบบเชือกเส้นเล็ก เลือกให้หลากสีสันสักหน่อยมาพันรวมกัน จากนนั้นก็สอดแทรกเข้าไปตามเส้นผม ไม่ต้องเน้นให้เป๊ะมาก แต่เน้นความเก๋ให้มากๆ บวกกับการแต่งตัวในแบบสาวเซอร์เข้าไปอีกทางจะได้ครบเครื่อง หรือถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะเป็นเซอร์แบบไหนดี ลองหายีนส์ขาสั้น หรือเสื้อกล้ามสีขาว ใส่เข้าคู่กับรองเท้าหนังส้นแบบด้วยก็ทำได้ ถือว่าเป็นการจัดลุคให้เข้ากับทรงผมได้ดีเลยทีเดียว

ถักเปียแบบที่ 4 : Sexy Ribbons Braid

ขอบคุณภาพจาก http://album.sanook.com/albums/844101765 คราวนี้ให้ลองเปลี่ยนการเลือกสีริบบิ้นจากสีหวานๆ มาเป็นสี HOT HOT กันบ้าง โดยเป็นการเติมความร้อนแรงให้กับเส้นผมดู HOTCHA จนถึงขีดสุด อาจเลือกริบบิ้นในสีโทนแดง ส้ม หรือช้อกกิ้งพิ้งมาถักเข้ากับผมเปีย จากนั้นก็ลองเปิดตู้เสื่อผ้าเลือกชุดสีดำที่ดูเซ็กซี่จับมาใส่เข้าคู่กัน รับรองว่าวันธรรมดาๆ ที่ดูจืดชืดจะต้องร้อนแรงและมีอะไรใหม่ๆ มากขึ้นแน่นอน

ผมเปียกับวัฒนธรรมชาวแมนจู

ใครเคยได้ชมภาพยนตร์จีนสงครามทางโทรทัศน์กันบ้าง เชื่อได้ว่าน่าจะมีสิ่งที่หลายๆ คนเกิดความสงสัยแบบชัดๆ อยู่ 1 อย่าง นั่นก็คือเรื่องของทรงผมนั่นเอง เคยทราบกันรึเปล่าว่าทำไมชาวจีนโบราณถึงต้องไว้ผมในแบบที่โกนผมข้างหน้าออกครึ่งหัว หรือบางคนก็โกนออกทั้งหัว แล้วถักเปียไว้ที่ด้านหลังของศีรษะ เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยกันไปมากกว่านี้ เราจึงมีคำตอบดีๆ น่าสนใจมากฝากกันด้วย

สำหรับทรงผมที่เราสงสัยกันอยู่นั้นมีชื่อเรียกในแบบภาษาไทยให้มีความเข้าใจที่ตรงกันว่า ทรงโกนศีรษะหน้าไว้เปียหลัง เป็นลักษณะทางประชากรร่วมกัน หรือทำในลักษณะเดียวกันของพวกชนเผ่าเร่ร่อนในเอเชีย หรือที่จีนเรียกกันว่า คนเถื่อนนอกด่าน ประกอบไปด้วย พวกซยงหนู และตงหู อาศัยอยู่ในแถบภาคเหนือและภาคอีสานของจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณราวๆ 700 ปี ก่อนคริสตกาลเป็นอย่างต่ำ ซึ่งอนุชนรุ่นหลังทุกกลุ่มซยงหนูมักไว้ผมทรงนี้ โดยจะโกนผมด้านหน้าศีรษะ บางครั้งก็โกนครึ่งศีรษะ  บางครั้งก็เหลือแค่หย่อมผมท้ายกระหม่อมแล้วถักเปียเป็นสาย แต่บางกลุ่มก็อาจโกนผมด้านหน้าแล้วเหลือหย่อมผมที่หน้าผาก หรือที่ข้างกระหม่อมเป็นแผงเล็กๆ แล้วไว้เปียที่ด้านหลัง สาเหตุที่มีความนิยมไว้ผมทรงนี้เป็นเพราะว่าเพื่อความสะดวกในการชีวิตที่ส่วนใหญ่อยู่ตามป่า ตามท้องทุ่งเป็นหลัก ช่วยลดอุปสรรคในการควบม้า ยิงธนู ผมจะได้ไม่บังหน้าเวลาที่ลมโกรก

พวกแมนจูก็สามารถนับได้ว่าเป็นพวกนอกด่านเช่นเดียวกันจึงได้ไว้ทรงผมอย่างคนเร่ร่อน พวกแมนจูอีกพวกหนึ่งที่ตั้งราชวงศ์ชิงก็ได้สืบทอดทรงผมแบบนี้มาจากบรรพชนเผ่ารู่เจิน ส่วนพวกหนี่เจินก็ได้รับทรงผมมาจากบรรพชนเผ่ามั่วเหอ ซึ่งก็ไว้ทรงผมถักเปียนี้มากตั้งแต่ดึกดำบรรพ์เพราะอยู่ร่วมสมัยเดียวกันกับตงหู เวลาผ่านไป 500 ปี พวกหม่านจู๋ (แมนจู) สามารถยึดภาคกลางของประเทศจีนเอาไว้ได้ หนำซ้ำยังได้ปกครองจีนทั้งแผ่นดิน  จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการในการกลืนกินวัฒนธรรมฮั่นที่เคยมีอยู่ก่อนอย่างเข้มงวด เพราะพวกแมนจูเคยมีประสบการณ์มาก่อนหน้าที่พยายามจะข่มวัฒนธรรมของฮั่นให้ต่ำลงไปแต่ก็ไม่สำเร็จ เป็นเพราะว่าผู้ปกครองมีจำนวนน้อยกว่าผู้ถูกปกครอง มาครั้งนี้เมื่อสามารถพิชิตจงหงวนได้และสำเร็จราชการ จึงได้มีคำสั่งออกมาให้ชาวฮั่นโกนหัวไว้ผมทรงถักเปียทั้งหมด หากไม่ไว้ตามคำสั่งมีแต่ตายสถานเดียว จนมีคำกล่าวออกมาว่า ไว้ผมไม่ไว้หัว ไว้หัวไม่ไว้ผม หมายความว่า หากคิดจะรักษาหัวของตนเอาไว้ก็ให้โกนผมไว้ผมทรงถักเปีย แต่หากไม่คิดไว้เปียก็เตรียมถูกบั่นศีรษะได้ ในครั้งนั้นมีคนตายการขัดคำสั่งหลายแสนคน ทั่วแผ่นดินเต็มไปด้วยเสียงร่ำไห้ระงมปะปนกับความเคียดแค้นเพราะคำสั่งนี้

พวกแมนจูจัดเป็นคนเถื่อนนอกด่านเช่นกัน จึงไว้ทรงผมอย่างคนเร่ร่อน คือโกนศีรษะหน้าไว้ผมท้ายกระหม่อมแล้วถักเปียยาว พวกแมนจู ที่ตั้งราชวงศ์ชิง สืบทอดทรงผมแบบนี้มาจากบรรพชนเผ่ารู่เจิน (หรือหนฺวี่เจิน) ซึ่งตั้งราชวงศ์จิน (กิมก๊ก) ส่วนพวกหนี่เจินก็รับทรงนีมาจากบรรพชนเผ่ามั่วเหอ ซึ่งก็ไว้ทรงนี้มาแต่ดึกดำบรรพ์ เพราะอยู่ร่วมสมัยกับพวกตงหู

เป็นยังไงกันบ้างกับรูปแบบการถักเปียที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ดูสวย ชิค และทำตามกันได้ง่ายๆ ใครมีการถักแบบไหนเก๋ๆ เพิ่มเติมอีก ก็อย่าลืมนำมาแชร์กันด้วยล่ะ จะได้นำบอกต่อให้เพื่อนๆ ได้ผมทรงสวยทั่วหน้ากัน

ภาพประกอบจาก: leballon.nlpostjung.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook