พาชม "บ้านท่านเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส" ประจำประเทศไทย

เมื่อวันศุกร์ (15 ก.พ.) ที่ผ่านมาได้มีพิธีการเฉลิมฉลองการเปิดถนนแบรสต์ (Rue de Brest) บริเวณซอยเจริญกรุง 36 ซึ่งเป็นที่ตั้งของทำเนียบเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสและยังเป็นบ้านของท่านทูตฝรั่งเศสด้วย ซึ่งในโอกาสนี้ทีมข่าวมติชนออนไลน์จึงได้เก็บภาพตัวบ้านและประวัติความเป็นมาของสถานที่นี้มาให้ทุกท่านได้ชมกัน

อาคารอันเป็นที่ตั้งสถานทูตฝรั่งเศสในปัจจุบันนี้จัดเป็นอาคารที่อยู่ในกลุ่มอาคารอนุรักษ์มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2527 ในอดีตบ้านไม้ทรงยูโรคลาสสิคนี้เคยเป็นโรงภาษีเก่ามาก่อน อันเป็นที่มาของชื่อ "ซอยโรงภาษีเก่า" อีกชื่อหนึ่งของถนนแบรสต์ ตัวอาคารก่อสร้างโดยช่างชาวอิตาเลียน เป็นอาคารยกพื้นสูง และมีระเบียงด้านหน้าหันสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ในปี พ.ศ. 2398 มีการร่วมกันลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและการค้า ระหว่างสยามประเทศกับฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระเจ้านโปเลียนที่ 3 และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คอมท์ เดอ เคสเตลเนาผู้แทนฝรั่งเศส ใช้อาคารโรงภาษีเก่านี้เป็นที่ทำการชั่วคราว

โดยโรงภาษีเก่านี้ได้แปรสภาพเป็นทำเนียบของผู้แทนฝรั่งเศสตั้งแต่ปี พ.ศ. 2400 เป็นต้นมา เมื่อนายมองตันยี กงสุลฝรั่งเศสได้ขอเช่าพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2418 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานที่ดินดังกล่าวให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ก่อนที่ฝรั่งเศสจะได้กรรมสิทธิถือครองที่ดินดังกล่าวในอีก 50 ปีให้หลัง โดยทางการไทยได้จัดทำโฉนดที่ดินเพื่อยืนยันกรรมสิทธิ์ของรัฐบาลฝรั่งเศสในการถือครองพื้้นที่ทั้งหมด 4 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวาบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาในปี พ.ศ. 2468 อาคารโรงภาษีเก่าจึงกลายเป็นทำเนียบถาวรของผู้แทนฝรั่งเศสตั้งแต่นั้นมา

ตัวอาคารที่หันหน้าออกไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการคมนาคมทางน้ำในอดีตเมื่อครั้งสมัยยังเป็นโรงภาษี แต่เดิมการคมนาคมติดต่อกับสถานทูตนั้น ต้องใช้การสัญจรทางแม่น้ำเจ้าพระยา จนต่อมาเมื่อมีการตัดถนนเจริญกรุง จึงสามารถเข้า-ออกสถานทูตได้จากทางถนนอีกทางหนึ่ง

อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้น 2 และชั้นล่างใช้เป็นสถานที่รับรองแขกที่มาพบ และเป็นห้องทำงานของท่านเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และในยามพักผ่อนท่านจะใช้เวลาอยู่ที่ชั้น 3

โดยในขณะนี้ อาคารกำลังจะถูกบูรณะและมีแผนที่จะขยายตัวอาคารให้มีพื้นที่กว้างขวางขึ้น โดยอาคารสถานทูตฝรั่งเศสนั้น รับรองหน่วยงานถึง 4 หน่วยงานด้วยกัน ได้แก่ สถานทูตฝรั่งเศสฝ่ายวัฒนธรรม สถานกงสุล สมาคมฝรั่งเศส และโรงเรียนฝรั่งเศส

ทำเนียบเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เมื่อมองจากแม่น้ำเจ้าพระยา

ภาพทิวทัศน์ เมื่อมองออกไปจากตัวบ้าน

นายดิแยรี วีโต เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ขณะกำลังอธิบายประวัติความเป็นมาของบ้าน

โถงรับแขก บริเวณระเบียงชั้นสองของบ้าน

ห้องรับรองบริเวณชั้นสอง ขณะที่ท่านเอกอัครราชทูตกำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

อีกด้านหนึ่งของห้องรับรอง

บริเวณห้องโถงชั้นที่สอง