อึ้ง! พบครูไทยติดพนันงอมแงม พาเหรดข้ามฝั่งเข้า"กาสิโน"โจ๋งครึ่ม

อึ้ง! พบครูไทยติดพนันงอมแงม พาเหรดข้ามฝั่งเข้า"กาสิโน"โจ๋งครึ่ม

อึ้ง! พบครูไทยติดพนันงอมแงม พาเหรดข้ามฝั่งเข้า"กาสิโน"โจ๋งครึ่ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โครงการขับเคลื่อนสังคมและนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน มูลนิธิสดศรี สฤษดิ์วงศ์ ทำผลสำรวจสถานการณ์การเล่นพนันของข้าราชการไทยในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่าข้าราชการไทย โดยเฉพาะข้าราชครูเล่นการพนันเพิ่มขึ้นสูง ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอน และสร้างปัญหาครอบครัวอย่างมาก

เมื่อวันที่ 2 เมษายนนายพงศธร จันทรัศมี ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสังคมกล่าวว่า มีข้าราชการในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านและมีบ่อนกาสิโนข้ามไปเล่นการพนัน และได้รับผลกระทบทั้งเบาและหนัก โดยมีเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า มีข้าราชการครูในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว สุรินทร์ ปราจีนบุรี ติดการพนันโดยเดินทางเข้าไปเล่นพนันในบ่อนประเทศกัมพูชาที่อยู่ทางด่านพรมแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนเกิดปัญหาหนี้สิน ครอบครัวแตกแยก ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนนักเรียนเป็นอย่างมาก และมีถูกลงโทษทางวินัยถึงขั้นถูกถอดถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ไม่มีสิทธิสอนหนังสืออีกต่อไป

"เท่าที่มีตัวเลขอยู่ขณะนี้ พบว่ามีข้าราชการครูที่ถูกร้องเรียนว่า เล่นการพนันและอยู่ระหว่างพิจารณาลงโทษทางวินัยร้ายแรงกว่า 100 คน" นายพงศธรกล่าว

นายพงศธรกล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่าในจังหวัดสุรินทร์ คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนจังหวัดสุรินทร์ มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับมูลเหตุของการกระทำผิดทางวินัยของข้าราชการพลเรือนสามัญ ที่ทำให้ข้าราชการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ส่วนหนึ่งมาจากการเล่นพนันต่าง ๆ อาทิ พนันบอล การเล่นพนันตามบ่อนตามแนวชายแดน เป็นต้น เป็นเหตุต้องถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง จนผู้ว่าราชการจังหวัดต้องสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานให้เฝ้าสังเกตการณ์ และกำชับผู้ใต้บังคับบัญชา พนักงานและลูกจ้างในสังกัดห้ามเดินทางไปเพื่อเล่นการพนันที่กาสิโนโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นจุดผ่านแดนใดๆ ก็ตาม รวมทั้งการพนันบอล และการพนันประเภทต่าง ๆ อีกด้วย

นายพงศธรกล่าวต่อว่า แม้จะมีการปราบปรามการเล่นการพนันอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการยื่นฟ้องคดีนี้ในศาลไม่ได้ลดลง โดยข้อมูลจากศาลยุติธรรมระบุว่า ในปี พ.ศ.2555 มีคดีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 รวม 49,572 ข้อหา คิดเป็นลำดับที่ 3 ของสถิติคดีอาญา รองจากคดียาเสพติดให้โทษ และความผิดจราจรทางบก ซึ่งโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ต่ำสุดสำหรับความผิดในการเล่นพนันคือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ทั้งนี้ เมื่อเชื่อมโยงกับกฎหมายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 30 (10) ที่กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ารับราชการพลเรือน จะต้องไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ซึ่งการกำหนดคุณสมบัติดังกล่าวพิจารณาตั้งแต่ผู้สมัครเข้าสอบรับราชการ ทำให้ผู้สมัครที่เคยถูกคำพิพากษาให้จำคุกมาก่อน แม้แต่ในคดีเล็กน้อยและคดีการพนันก็ไม่สามารถสมัครเข้ารับราชการได้

"เป็นข้าราชการอยู่แล้ว การเล่นหรือไม่เล่นพนันจริง อาจจะไม่ใช่ประเด็น แต่หากเข้าไปมีเอี่ยวและถูกพิจารณาว่า เป็นการกระทำอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงเช่น เป็นข้าราชการตำรวจหรือครู แต่ไปมีส่วนร่วมในบ่อนการพนัน อาจถูกพิจารณาได้ว่ากระทำผิดวินัย และอาจถูกให้ออกหรือไล่ออกจากข้าราชการได้ ซึ่งความผิดเล็กๆ นี้ อาจส่งผลกระทบต่ออนาคต ทางที่ดีคือไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในแวดวงการพนัน" นายพงศธรกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook