เหตุไฉน ? ทำไม ? "คุก" ของสิงคโปร์จึงได้รางวัล เรือนจำที่น่าชื่นชมที่สุดในโลก

เหตุไฉน ? ทำไม ? "คุก" ของสิงคโปร์จึงได้รางวัล เรือนจำที่น่าชื่นชมที่สุดในโลก

เหตุไฉน ? ทำไม ? "คุก" ของสิงคโปร์จึงได้รางวัล เรือนจำที่น่าชื่นชมที่สุดในโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความสำเร็จของรางวัล SQA หรือ Singapore Quality Award ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดที่มอบให้แก่องค์กรที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา เพื่อแสดงถึงมาตรฐานการดำเนินงาน และการบริหารบุคลากรขององค์กรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในระดับสากล

รางวัล SQA ได้รับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีของประเทศสิงคโปร์ โดยได้ประสานแนวทางของ Malcolm Baldrige National Quality Award (MBNQA) ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ประเทศไทย

ได้นำ Thailand Quality Award หรือ TQA มาใช้ในการประเมิน และวัดผลองค์กรให้มีมาตรการการบริหารงานที่เป็นเลิศที่สุดในประเทศเทียบเท่ากับระดับสากล

สำหรับองค์กรที่จะได้รับรางวัล SQA ในประเทศสิงคโปร์ จะต้องเป็นองค์กรที่มีคะแนนอย่างน้อย 700 คะแนน ส่วนองค์กรที่ได้คะแนนตั้งแต่ 800 คะแนน

ขึ้นไปจะได้รับรางวัลคุณภาพสิงคโปร์ยกย่องพิเศษ (Singapore Quality Award with Special Commendation) ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของประเทศสิงคโปร์

โดยองค์กรที่ได้รับรางวัล SQA ประจำปี 2555 ได้แก่ Singapore Customs และ Wing Tai Retail Singapore ส่วนรางวัลที่น่าสนใจที่สุดของรางวัล SQA คือ รางวัลคุณภาพสิงคโปร์ยกย่องพิเศษ ได้แก่ Singapore Prison Service (SPS) องค์กรประเภททัณฑสถานของสิงคโปร์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีระบบการบริหารการจัดการที่มีคุณภาพอย่างน่ายกย่องที่สุดในประเทศ

ไม่นานผ่านมา สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ชวนไขรหัส (ไม่) ลับสู่การบริหารจัดการของเรือนจำแห่งนี้ในหัวข้อที่ว่า "การวางกลยุทธ์เพื่อก้าวไปสู่การมีระบบเรือนจำที่น่าชื่นชมที่สุดในโลก"

ภายใต้งานสัมมนา Thailand Quality Award 2012 Winner Conferenceซึ่งกลยุทธ์ที่จะทำให้ "Singapore Prison Service" ก้าวไปสู่จุดยืนได้ "โก ตง ไห่" ผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับส่วน

เจ้าหน้าที่เรือนจำสิงคโปร์บอกว่า ก่อนอื่นเราจะต้องวางยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับเรือนจำของเราอย่างชัดเจนเสียก่อน

"โดยเริ่มต้นจากกำหนดวิสัยทัศน์ในการก้าวไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งไว้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่จะสะท้อนให้ประชาชนได้รับรู้ว่าเราจะเป็นเรือนจำเพื่อสร้างคนมากกว่าการรับฝากขังในช่วงระยะเวลาหนึ่งเหมือน

เรือนจำอื่นทั่วไป ซึ่งเราได้ใช้เวลาการประชุมและหารือร่วมกันกว่า 9 เดือน จนสามารถกำหนดวิสัยทัศน์เรือนจำ

ของเรา นั่นคือเราจะเป็นเสมือนหนึ่งกัปตันของชีวิตคุณ ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่าการชี้ทางของเราจะทำให้เขาสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างดีและมีคุณค่าที่สุด"

"ต้องบอกว่าการมีวิสัยทัศน์ที่ดีเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราก้าวไปสู่การบริหารการจัดการที่เป็นเลิศได้ ดังนั้นเราจึงต้องวางกลยุทธ์ทั้งระบบ ตั้งแต่การพัฒนาปรัชญา และกำหนดตัวชี้วัดของทั้งองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารระดับสูงจะต้องให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนขององค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า"

"ที่สำคัญ การสื่อสารระหว่างคณะทำงานต่างมีส่วนสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันในการเรียนรู้ และสร้างความเข้าใจร่วมกัน เพราะเราต้องยอมรับว่าการขับเคลื่อนขององค์กรบุคลากรคือส่วนสำคัญที่สุดที่จะบอกได้ว่าผลลัพธ์ของความสำเร็จเกิดขึ้นหรือยัง"

ดังนั้น การวางยุทธศาสตร์ที่สำคัญสู่การสร้างศักยภาพของบุคลากรในเรือนจำแห่งนี้ "โก ตง ไห่" จึงได้วางกลยุทธ์ไว้เพื่อเชื่อมโยงทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย

"หนึ่ง สร้างศักยภาพ โดยจะเชื่อมโยงกับผู้บริหารระดับสูง และบุคลากรให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน ในการประชุมหารือทบทวนกลยุทธ์และระบบการบริหารการจัดการ เรียกได้ว่าในทุกขั้นตอนของการประชุมทุกคนจะต้องมีส่วนร่วม เพื่อรับทราบข้อปรับปรุงและแก้ไขกันอย่างเป็นทีม"

"สอง สร้างค่านิยม ให้ทุกคนเป็นผู้คุมอย่างมืออาชีพ ซึ่งค่านิยมของเราจะต้องวางเส้นทางบันไดสู่ความสำเร็จ โดยที่บุคลากรของเราทุกคนจะต้องรับรู้ได้ว่าเส้นทางของแต่ละคนในการก้าวไปสู่บันไดสูงสุดมีทั้งหมดกี่ขั้น และในแต่ละขั้นจะต้องมีการทดสอบเพื่อผ่านไปยังบันไดขั้นต่อไปอย่างไร ซึ่งนี่คือหนทางการสร้างผู้นำในเรือนจำของเรา"

"นอกจากนี้ การสร้างค่านิยมของเรา รวมถึงผู้ทำหน้าที่จะต้องเสมือนครูฝึกนักโทษด้วย โดยครูฝึกจะต้องทำหน้าที่สร้างเวทีเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับสร้างโอกาส

ให้กับเหล่านักโทษ ภายใต้การทำ Workshop เป็นประจำ การทำหน้าที่เช่นนี้จะเป็นการย้ำเตือนว่า การที่เราเป็นผู้คุมขังอย่างมืออาชีพจะต้องมอบโอกาสให้กับนักโทษ เพื่อที่วันหนึ่งเขาจะสามารถกลับไปยืน

จุดเดิมในสังคมได้อย่างสวยงาม นี่คือค่านิยมที่เราพยายามปลูกฝังให้กับบุคลากรทุกคน"

"สาม สร้างนวัตกรรม โดยจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรในการเชื่อมนวัตกรรม และการบริหารงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งการจะมุ่งสู่นวัตกรรมใหม่ได้เราจะต้องสร้าง

3i ประกอบด้วย Idea มีความคิด และดีไซน์ Improvement ต้องรู้จักปรับปรุงและแก้ไข และ Initiative ต้องริเริ่ม

สิ่งใหม่อยู่เสมอ"

นอกจากนั้น "โก ตง ไห่" ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า...ทุกกลยุทธ์ของเราจะพยายามสอดแทรกตลอด เสมือนเป็นวัฒนธรรมองค์กร ที่นอกจากจะค่อย ๆ หล่อหลอมสร้าง

ตัวตนและคุณค่า โดยเริ่มต้นจากบุคลากรผู้คุมขัง เพื่อให้เขารู้สึกถึงความเป็นคนที่มีคุณค่าจากกิจกรรมที่เราส่งเสริม ทั้งนั้นเพื่อจะได้ถ่ายทอดให้กับนักโทษของเราได้อย่างมืออาชีพ

ตรงนี้จึงเป็นคำตอบที่ทำให้ได้รับรางวัล SQA ครั้งนี้

"เพราะนอกจากจะเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งที่สำคัญต่อการสร้างนวัตกรรมในอนาคตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากเรายังคงใช้แนวคิดที่ว่าเพื่อที่จะเป็นกัปตันในชีวิตให้กับเขาอย่างมืออาชีพ และนี่คือการสร้างความพึงพอใจและสิ่งที่มีค่าที่สุดของเรา"

และนี่คืออีกหนึ่งองค์กรที่ไม่เคยมองข้ามการพัฒนา และมุ่งสร้างบุคลากรจนเป็นองค์กรที่น่ายกย่องที่สุดสำหรับประเทศสิงคโปร์


ภาพประกอบจากอินเทอเน็ต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook