"20,000 เสียง" พลิกยุบโรงเรียนสู่จุดเริ่มต้นปฏิรูปการศึกษา‏

"20,000 เสียง" พลิกยุบโรงเรียนสู่จุดเริ่มต้นปฏิรูปการศึกษา‏

"20,000 เสียง" พลิกยุบโรงเรียนสู่จุดเริ่มต้นปฏิรูปการศึกษา‏
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การรณรงค์เพื่อขอให้ชุมชนมีบทบาทในการตัดสินชะตากรรมชีวิตโรงเรียนเล็ก ประสบผลสำเร็จครั้งสำคัญ เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพงศ์เทพ เพทกาญจนา รับปากตั้งคณะกรรมร่วมระหว่างประชาชนและรัฐ เพื่อพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก

นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย ซึ่งเป็นผู้เริ่มรณรงค์ ขอคืนพื้นที่การศึกษาให้ชุมชน ผ่าน www.change.org กล่าวหลังจากยื่นรายชื่อกว่า 20,000ชื่อ ต่อ นายพงศ์เทพ เทพกาญจน รมต.ศึกษาธิการ (ศธ.)ว่า การรณรงค์ที่เกิดขึ้นทำให้ศธ. รับฟังข้อเสนอจากสมาคมฯและเครือข่ายเป็นครั้งแรก โดยเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและชุมชนเพื่อหาแนวทางพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก

ความสำเร็จนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของพลังทางสังคม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้มีการรณรงค์เรื่องคัดค้่านการยุบโรงเรียนขนาดเล็กโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของชุมชนมาอย่างยาวนานแต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่หลังจากที่ทางเครือข่ายฯได่้ใช้ช่องทางการรณรงค์ผ่าน www.change.org/smallschool มีผู้เข้าร่วมลงชื่อกว่า 20,000คน ในเวลาเพียง 5วัน ทำให้ประเด็นเรื่องการปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่่องสาธารณะไม่ใช่เป็นเรื่องของศธ.เพียงหน่วยงานเดียวอีกต่อไป

"ถึงแม้กระทรวงศึกษาฯจะรับปากตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างชาวบ้านและรัฐแล้วก็ตาม ก็ยังคงต้องจับตาต่อ โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้า ว่าจะมีการเริ่มการนัดประชุมจริงหรือไม่ หรือทางกระทรวงศึกษาฯจะดำเนินการตามแผนเดิมคือประกาศเรื่องโรงเรียนที่จะยุบโดยไม่ฟังเสียงชาวบ้าน การรณรงค์ในเรื่องนี้จึงจำเป็นต้องมีต่อเพื่อเพิ่มพลังสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ" ครูชัชวาลกล่าว

ทางเครือข่ายยังเตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์ครั้งใหญ่กับสังคมในวันที่30 พ.ค. 2556 เพื่อผลักดันให้เรื่องการปฏิรูปการศึกษาโดยรวม เพื่อนำเสนอว่าการศึกษาไทยมีปัญหาอย่างไร และสังคมจะมีส่วนร่วมได้อย่างไรบ้างเพราะถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องมาช่วยกัน" นายชัชวาลย์ กล่าว

นายตุลย์ ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการเว็บ change.org ประเทศไทย กล่าวว่า การรณรงค์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปรากฎการณ์ทางสังคมของที่สำคัญที่พลังประชาชนจากโลกออนไลน์สามารถมีผลต่อทิศทางการกำหนดนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก โดยมีผู้ร่วมลงชื่อกว่า20,000 คน เฉลี่ย 3,000 คนต่อวัน สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยเป็นห่วงปัญหาของสังคมและความลำบากของไทยคนด้วยกัน โดย www.change.org สามารถทำให้พวกเขาแสดงออกได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ www.change.org เป็นเว็บที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปทุกคนสามารถสร้าง webpage เพื่อรณรงค์ปัญหาใกล้ตัวให้ได้รับการแก้ไขและระดมความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆสู่สังคมได้ โดยมีผู้ใช้มากกว่า 35 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ใช้กว่า 2 แสนคน โดยมีแคมเปญที่ได้รับชัยชนะ เช่น การณรงค์ให้ยุติฉายหนังรุนแรงบนรถทัวร์, การรณรงค์ให้โรงแรมถอดหูฉลามออกจากเมนู,การยุติการนิรโทษกรรมเรืออวนลาก เป็นต้น


ข้อมูลเพิ่มเติม
www.change.org/smallschool

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook