อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง เคล็ดลับความสำเร็จ"นักกีตาร์มือรางวัล"

อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง เคล็ดลับความสำเร็จ"นักกีตาร์มือรางวัล"

อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง เคล็ดลับความสำเร็จ"นักกีตาร์มือรางวัล"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook


"ผมคิดว่าเสน่ห์ของกีตาร์อยู่ที่ความหลากหลายของโทนเสียง เป็นทางหนึ่งที่ผู้เล่นสามารถใส่จินตนาการในบทเพลงได้"

  ประโยคแรกที่พูดถึงเครื่องดนตรีคู่ใจของ "ฮิโตชิ มิยาชิตะ" หนุ่มน้อยนักดนตรีวัย 20 ปี ชั้นปี 3 สาขาวิชาดนตรีปฏิบัติ เอกกีตาร์คลาสสิก มหาวิทยาลัยมหิดล

  ถึงแม้อายุยังน้อย แต่ด้วยความสามารถและประสบการณ์ทางดนตรีที่ไม่น้อยเลย แถมมีรางวัลการันตีมากมายจากหลายประเทศทั่วโลก อาทิ เวทีระดับโลกอย่าง Tomonori Arai, Judicael Perroy, Pavel Stiedl, Marcin Dylla,     David  Russell,Hubert Kappel และเวทีการแข่งขันใหญ่ของเมืองไทยอย่าง Bangkok International Guitar Competition ฮิโตชิก็คว้า "รางวัลชนะเลิศ" มาครอง โดยเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในการแข่งขัน

  ฮิโตชิบอกถึงจุดเริ่มต้นบนเส้นทางดนตรีว่า เริ่มต้นจากความบังเอิญ ตอนชมเดี่ยวกีตาร์ของคนคนหนึ่ง กลางศูนย์อาหารในห้าง เมื่อได้ฟังก็อยากเรียนกีตาร์ขึ้นมาทันที จึงเริ่มเล่นดนตรีที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการ สาขาบ้านเกิด จังหวัดภูเก็ต    ตอนอายุ 12 ปี โดยเรียนกีตาร์คลาสสิก

  "สำหรับผม กีตาร์คลาสสิกมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ นุ่มนวล เสียงไม่ดังจนเกินไป ฟังสบายๆ และมีบทเพลงน่าสนใจอีกมากมายที่นักประพันธ์เพลงทั้งหลายประพันธ์ให้กับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ ทำให้อยากศึกษาดนตรีจริงจัง และเลือกกีตาร์เป็นเครื่อง ดนตรีเอก ผมชอบแนวเพลงยุคคลาสสิก โมเดิร์น โรแมนติก และคอนเท็มโพรารี"

นอกจากรางวัลที่มีมากมายแล้ว หนุ่มคนนี้ยังมีโอกาสได้ร่วมเวทีกับศิลปินระดับโลก ล่าสุดได้รับเชิญให้ร่วมเดี่ยวกีตาร์กับวงดุริยางค์ฟิลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย ในคอนเสิร์ตเปรมดนตรี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วย

 สำหรับใครที่อยากเก่งแบบ "ฮิโตชิ มิยาชิตะ" แล้วล่ะก็

  เจ้าตัวยังฝากเคล็ดลับความเก่งไว้ว่า ก่อนอื่นต้องเริ่มจากตัวเองคือ ต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าคิดเสมอว่าตัวเองเก่ง ต้องหัดเป็นนักเรียนรู้ที่ดี หัดเป็นนักคิด นักสงสัย ไม่จำเป็นต้องมีครูที่ดีที่สุด หากเราเป็นนักเรียนรู้ที่ดีแล้ว เราก็สามารถเรียน รู้จากผู้คนรอบข้างได้ทั้งนั้น รวมทั้งเรียนรู้จากตัวเองด้วย ไม่ต้องรอให้ใครมาสอน ควรเริ่มศึกษาด้วยตัวเองก่อน ต้องรู้จักการผูกมิตร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่ริษยาหรือดูถูกคนอื่น ควรมีไอดอลที่ดี ควรมีวินัยสูง เชื่อว่าสิ่งต่างๆ  เหล่านี้จะช่วยส่งเสริมและเบิกทางให้เข้าใกล้สู่ความฝันได้ในที่สุด

  "ผมให้ความสำคัญกับงานเป็นอันดับแรก ตั้งแต่เช้าผมจะพยายามมีสมาธิกับการซ้อมให้มีประสิทธิภาพเสมอ และจะต้องทำอยู่เสมอเป็นกิจวัตร รองลงมาคือเรื่องการเรียน นอกจากเวลาซ้อมแล้ว ก็หาเวลาทบทวนบทเรียน เข้าห้องสมุด ค้นคว้าอ่านหนังสือเพิ่มเติมด้วย"

  อีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่อนาคตไกลในเส้นทางดนตรีไม่น้อยทีเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook