"จุลินทรีย์"จะเป็น"สิ่งสุดท้าย"ที่มีชีวิตอยู่บนโลก

นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า สิ่งมีชีวิตสุดท้ายที่จะเหลืออยู่บนโลกคือจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ใต้พื้นดินลึก

นักวิจัยได้ใช้โมเดลคอมพิวเตอร์ในการประเมินสภาพของโลกในอีกหลายพันล้านปีข้างหน้า และพบว่าเมื่อดวงอาทิตย์เริ่มร้อนขึ้นและสว่างมากขึ้น มีเพียงจุลินทรีย์เท่านั้นที่สามารถรับมือกับสภาพอากาศสุดขั้วเช่นนี้ได้

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซนต์ แอนดริว ในสก็อตแลนด์ ได้ใช้ข้อเท็จจริงที่ว่า ในสภาพอากาศเช่นนั้นซึ่งเหลืออากาศเพียงเบาบาง สิ่งมีชีวิตจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่มีระดับอ็อกซิเจนต่ำ สภาพความกดอากาศสูง และสภาพความเค็มมากผิดปกติของน้ำทะเล เพื่อคาดการณ์สภาพสิ่งแวดล้อมในอนาคตของโลก

ผลการศึกษาซึ่งเผยแพร่ในการประชุมดาราศาสตร์แห่งชาติของอังกฤษ ระบุว่า ในอีกหลายพันล้านปีข้างหน้า ความร้อนจากดวงอาทิตย์จะเข้มข้นขึ้น น้ำในมหาสมุทรจะเริ่มระเหย และเมื่อถึงขีดสุด จะมีน้ำในบรรยากาศเพิ่มขึ้น กระทั่งโลกมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นกว่า 100 องศาเซลเซียสหรือมากกว่าที่เราต้องเจอในปัจจุบัน ประกอบกับการลดระดับลงของก๊าซอ็อกซิเจน จะนำไปสู่การสิ้นสูญของพืชและสัตว์ขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้น ก็จะเหลือเพียงสิ่งมีชีวิตจำพวกจุลินทรีย์ที่เรียกว่า "Extremophiles" หรือจุลชีพที่ชอบอาศัยในสิ่งแวดล้อมที่มีอันตรายที่สุดต่อสิ่งมีชีวิต

ทั้งนี้ Extremophiles สามารถพบได้ทั่วไปในโลกยุคปัจจุบัน ในสภาพแวดล้อมที่แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า พวกมันจะเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่สามารถทนทานต่อความร้อน ความแห้งแล้ง และสภาพบรรยากาศที่เป็นพิษของโลกในอนาคต และเชื่อว่าพวกมันอาจอยู่ในน้ำหยดสุดท้ายที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน และเมื่อสภาพของโลกเลวร้ายถึงขีดสุด พวกมันเองก็จะสูญพันธุ์ลงในที่สุดเช่นกัน และในอีกราว 2.8 พันล้านปี โลกก็จะปราศจากสิ่งมีชีวิตโดยสิ้นเชิง

นักวิจัยกล่าวว่า สิ่งมีชีวิตจำพวกจุลินทรีย์ สามารถเป็นตัวบ่งบอกถึงสัดส่วนของก๊าซต่างๆในบรรยากาศได้เป็นนัยๆ ที่จะนำไปสู่การค้นพบดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายโลกได้ในอนาคต โดยเฉพาะก๊าซมีเทน ซึ่งใช้เป็นตัวบ่งชี้ว่ามีสิ่งมีชีวิต