ส่วนลด BTS โปรโมชั่น รถไฟฟ้าบีทีเอส

ส่วนลด BTS โปรโมชั่น รถไฟฟ้าบีทีเอส

ส่วนลด BTS โปรโมชั่น รถไฟฟ้าบีทีเอส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบรวมเทคนิคขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) อย่างไรให้ประหยัด

บีทีเอส(BTS) หรือ รถไฟ(ลอย)ฟ้า พาหนะสุดฮิตของคนกทม. โดยเฉพาะนักเรียน นิสิต นักศึกษา และมนุษย์เงินที่ฝากชีวิตการเดินทางไว้กับรถไฟบีทีเอสเป็นเส้นทางหลักในแต่ละวัน

รถไฟบีทีเอส (BTS) ถือเป็นการลงทุนจากภาคเอกชนของไทย 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ใน 2 เส้นทาง คือสายสุขุมวิท ระยะทาง 17 กม. ได้รับชื่อพระราชทานว่า "รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา สาย ๑" และเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2554 ได้เปิดให้บริการส่วนต่อขยาย สายสุขุมวิทอย่างเป็นทางการ ระยะทาง 5.25 กม. จากสถานีอ่อนนุชถึงสถานีแบริ่ง และสายสีลม ระยะทาง 6.5 กม. ซึ่งได้รับชื่อพระราชทานว่า "รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา สาย ๒" และเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2552 ได้เปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีลมอย่างเป็นทางการ ระยะทาง 2.2 กม. จากสถานีสะพานตากสินถึงสถานีวงเวียนใหญ่ ซึ่งทำให้มีระยะทางในการให้บริการรวม 30.95 กม. ใน 30 สถานี

ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอส

ในส่วนของราคาที่เพิ่งจะมีการปรับขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม้จะมีเสียงบ่นจากผู้ใช้มาบ้างแต่ชาว กทม. ส่วนใหญ่ก็ดูเหมือนจะเข้าใจในความจำเป็นของการขึ้นราคาในครั้งนี้ โดยปัจุบันราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่

จำนวน 0-1 สถานี ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ 15 บาท

จำนวน 2 สถานี ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ 22 บาท

จำนวน 3 สถานี ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ 25 บาท

จำนวน 4 สถานี ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ 28 บาท

จำนวน 5 สถานี ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ 31 บาท

จำนวน 6 สถานี ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ 34 บาท

จำนวน 7 สถานี ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ 37 บาท

จำนวน 8 สถานีขึ้นไป ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ 42 บาท

แต่อย่างไรก็ดีทาง รถไฟบีทีเอส (BTS) ก็ยังมีส่วนลดต่างๆไว้สำหรับ "ขาประจำ" โดยวันนี้ Dr.Sanook ได้นำบ้างส่วนที่น่าสนใจมานำเสนอไว้ตรงนี้

รวมส่วนลดรถไฟฟ้าบีทีเอส(BTS)

1 สมัครบัตรแรบบิท (Rabbit Card) หรือ บัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส
แม้ค่าโดยสารรถไฟบีทีเอส (BTS) ที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เมษายนต์ที่ผ่านมา แต่หากสมัครใช้แรบบิท (Rabbit Card) หรือ บัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส เราก็ยังจะสามารถชื้อในราคาเดิมได้ จนถึงสิ้นปีนี้ แถมยังมีโปรต่างๆ เพิ่มเติมอีกด้วยครับ

2 ใช้สิทธิพิเศษของบัตรเครดิต (โปรโมชั่นตามแต่ละค่าย)
การใช้โปรโมชั่นหรือหักจากคะแนนของบัตรเครดิตแต่ล่ะค่ายก็เป็นอีกทาง 1 ที่ช่วยให้เราประหยัดค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ครับ เช่นตอนนี้หากเติมเงิน/เติมเที่ยวเดินทางที่บีทีเอส ด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ แรบบิทรับเงินคืน 20% (จำกัดสูงสุด 200 บาท) ภายในรอบบัญชีแรก เป็นต้น

3 ใช้โปรโมชั่นของค่าย AIS
อันนี้สำหรับลูกค้า AIS น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว โดยลูกค้า AIS สามารถรับส่วนลดที่ BTS 15 บาท ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ โดยพิมพ์ *545*85# แล้วกดโทรออก (โทรฟรี) ณ ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารบีทีเอส เพื่อรับข้อความตอบกลับสำหรับใช้เป็นส่วนลด 15 บาท ต่อ 1 รายการ เมื่อซื้อ/เติมเงิน/เติมเที่ยวเดินทาง เพื่อโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ โปรนี้ AIS สงวนสิทธิ์ 1 หมายเลข /สิทธิ์/เดือนเท่านั้นครับ




4 ใช้โปรโมชั่นของ WeChat
โปรใหม่ล่าสุดจากแอป WeChat อันนี้คล้ายๆ AIS แต่ไม่ต้องมีค่าโทร ใช้จ่าย ขั้นต่ำแต่อย่างใดแถมง่ายและลด 20 บาท มากกว่า AIS อีกด้วย
วิธีการก็ง่าย สำหรับคนที่มี WeChat อยู่แล้ว (โหลดฟรี) แล้วเพียง Follow BTS SkyTrain Official Account พร้อมส่งข้อความ wechat#bts ไปในหน้า BTS SkyTrain Official Account และแสดงข้อความตอบรับแก่พนักงานที่ห้องจำหน่ายตั๋ว เพื่อรับส่วนลด 20 บาท เมื่อซื้อ/เติมเงิน/เติมเที่ยวเดินทาง ตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2557 โปรนี้ก็ สงวนสิทธิ์ 1 รหัส/1 สิทธิ์/เดือน เช่นกันกันครับ



เอาล่ะ ถ้าคุณเป็นคนใช้รถไฟบีทีเอสเป็นประจำลองสำรวจเลยว่า โปรไหน ค่ายไหน เหมาะกับคุณ ยิ่งในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้การประหยัดถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งนะครับ

Dr.Sanook!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook