จุฬาฯเปิดตัวโปรแกรมตรวจลอกวิทยานิพนธ์ เริ่มใช้ย้อนหลัง 15,000 ชิ้น

จุฬาฯเปิดตัวโปรแกรมตรวจลอกวิทยานิพนธ์ เริ่มใช้ย้อนหลัง 15,000 ชิ้น

จุฬาฯเปิดตัวโปรแกรมตรวจลอกวิทยานิพนธ์ เริ่มใช้ย้อนหลัง 15,000 ชิ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ร.ว.กัลยา ติงศภัทิย์ รองอธิการบดีแถลงข่าว "จุฬาฯกับมาตรการในการป้องกันการลักลอกผลงานวิชาการ" โดยได้พัฒนาระบบการเขียนวิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์ (CU E-THESIS) และโปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ว่า ประเด็นลอกผลงานวิชาการถือเป็นเรื่องที่วงการวิชาการในต่างประเทศให้ความสำคัญมาก ซึ่งปัจจุบันพบรูปแบบการลักลอกผลงานหลายวิธี ทั้งการนำเอางานของคนอื่นมาเป็นของตนเอง หรือเอางานของผู้อื่นที่เขียนไว้มาอ้างว่าเป็นของตนเอง

โดยไม่มีการบอกที่มาของงานนั้น ซึ่งไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็แล้วแต่ เรื่องนี้ถือว่ารับไม่ได้ และในวงวิชาการนานาชาติถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงมาก ขณะเดียวกันทางจุฬาฯก็ให้ความสำคัญ โดยสภามหาวิทยาลัยได้กำหนดให้เป็นนโยบายในการตรวจสอบการลอกผลงานวิชาการ โดยเริ่มตรวจสอบในระดับบัณฑิตศึกษาก่อน จากนั้นจึงจะเข้ามาตรวจสอบในระดับปริญญาตรีต่อไป


"ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นข้อเสียทำให้การลอกผลงานทำได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันสามารถก๊อบปี้แล้วตัดมาแปะได้ทันที ไม่ต้องแม้แต่จะพิมพ์ซ้ำ แต่ข้อดีของเทคโนโลยีคือเราสามารถพัฒนาเครื่องมือด้านไอทีมาช่วย เพื่อตามให้ทันการลักลอกผลงานวิชาการ สภามหาวิทยาลัยได้กำหนดนโยบายให้จุฬาฯเริ่มใช้มาตรการตรวจสอบการลอกผลงานวิชาการในระดับบัณฑิตวิทยาลัยผ่านโปรแกรมที่จุฬาฯพัฒนาขึ้นเอง รวมถึงมีนโยบายให้มีการตรวจสอบการส่งงานในระดับปริญญาตรี ซึ่งมักพบว่ามีการคัดลอกมาจากวิกิพีเดียจำนวนมากด้วย อย่างไรก็ตาม โปรแกรมที่จุฬาฯพัฒนาขึ้นนั้นจะได้ผลดีมากสำหรับผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเป็นรายวิชาที่ต้องใช้ข้อมูลใหม่ย้อนหลังภายใน 1-2 ปี ในขณะที่วิทยานิพนธ์ด้านประวัติศาสตร์นั้น ข้อมูลต่างๆ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ทำให้การตรวจสอบยังคงต้องอาศัยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์มาเป็นผู้ตรวจสอบ" ม.ร.ว.กัลยากล่าว และว่า ทั้งนี้ ทางจุฬาฯได้เริ่มทดลองใช้โปรแกรมดังกล่าวตรวจสอบวิทยานิพนธ์ในระดับบัณฑิตศึกษาไปแล้ว ตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 รวมถึงการย้อนไปตรวจสอบวิทยานิพนธ์เก่าๆ ตั้งแต่ปี 2548 ที่เป็นรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 15,000 ผลงานด้วย ซึ่งหากตรวจย้อนหลังแล้วพบว่ามีการคัดลอกมา ทางมหาวิทยาลัยก็จะขอเรียกคืนใบปริญญาทันที


นายอมร เพชรสม คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ กล่าวว่า ขณะนี้จุฬาฯยึดสโลแกน "จุฬาฯร้อยปีต้องไม่มี Plagiarism (การคัดลอกผลงาน)" โดยริเริ่ม 3 มาตรการในการป้องกันการลักลอกผลงานวิชาการ ได้แก่ มาตรการสร้างจิตสำนึก อาทิ การอบรมและเปิดสอนรายวิชา "จริยธรรมการวิจัย" ให้นิสิตทุกคน รวมถึงการอบรมอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ มาตรการป้องปราม โดยกำหนดให้นิสิตเขียนวิทยานิพนธ์ด้วยโปรแกรมซียู อี-ธีสิส (CU e-Thesis) ซึ่งนิสิตทุกคนจะต้องส่งแบบรายงานความก้าวหน้าและแผนการทำวิทยานิพนธ์ทุกภาคการศึกษา โดยอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์จะสามารถติดตามวิทยานิพนธ์ได้ตลอดเวลา และมาตรการสุดท้ายคือการติดตามตรวจสอบด้วยโปรแกรมเทิร์นอิทอิน (Turn it in) และโปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ ซึ่งจุฬาฯเป็นผู้พัฒนาขึ้น โดยปัจจุบันสามารถตรวจสอบข้อความที่เหมือนหรือคล้ายกัน แต่ในอนาคตจะพัฒนาโปรแกรมให้รองรับการตัดต่อหรือสลับข้อความ รวมถึงการคัดลอกข้อความโดยหลีกเลี่ยงใช้คำภาษาไทยอื่นๆ ที่มีความคล้ายคลึงกันได้ด้วย


บัณฑิตวิทยาลัยจะเริ่มใช้โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2556 ซึ่งคาดว่าจะมีวิทยานิพนธ์ประมาณ 700-800 เล่มที่จะเข้ารับการตรวจสอบ โดยฐานข้อมูลปัจจุบันของโปรแกรมนี้จะประกอบด้วย วิทยานิพนธ์ 15,000 เล่ม ซึ่งย้อนหลังตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 สารนิพนธ์ 2,000 รายการ วารสาร รายงานวิจัยและอีบุ๊กของจุฬาฯ

ทั้งนี้ ในอนาคตจะเพิ่มจำนวนวิทยานิพนธ์จำนวน 2,500 เล่มต่อปี และสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหมดของจุฬาฯ รวมถึงในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จุฬาฯจะพัฒนาโปรแกรมให้เชื่อมต่อฐานข้อมูลวิกิพีเดียและฐานข้อมูลอื่นๆ เพื่อการตรวจสอบที่ดียิ่งขึ้น" นายอมรกล่าว และว่า ทางจุฬาฯมีความคาดหวังว่าโปรแกรมดังกล่าวจะสามารถป้องกันการลักลอกผลงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์

โดยเบื้องต้นการคัดลอกผลงานกันเองในจุฬาฯจะทำไม่ได้แล้ว เพราะในโปรแกรมมีฐานข้อมูลทั้งหมด ซึ่งในอนาคตหากมหาวิทยาลัยอื่นๆ เข้ามาร่วมกันใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน ก็จะสามารถตรวจสอบผลงานวิทยานิพนธ์ทั่วประเทศได้ ส่วนจะแก้ปัญหาเรื่องการรับจ้างทำวิทยานิพนธ์ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เพราะโปรแกรมซียู อี-ธีสิส เปิดโอกาสให้อาจารย์ที่ปรึกษาเข้าไปติดตาม หากเห็นว่านิสิตมีผลงานดีขึ้นกะทันหัน ก็จะต้องจับสังเกตได้ และสามารถใช้โปรแกรมดังกล่าวตรวจสอบได้ทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook