"เชียร์ลีดเดอร์ไทย" กว่าจะคว้าชัยแชมป์โลก

"เชียร์ลีดเดอร์ไทย" กว่าจะคว้าชัยแชมป์โลก

"เชียร์ลีดเดอร์ไทย" กว่าจะคว้าชัยแชมป์โลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

โดย กมลทิพย์ อัศวเมธีสกุล

จากเด็กมัธยมหลายสถาบันที่กำความฝันและความรักในกีฬาที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง "เชียร์ลีดเดอร์" เดินตามความฝันเมื่อก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย ข้ามผ่านเวทีชิงแชมป์เชียร์ลีดเดอร์ระดับประเทศ แน่วแน่ในเส้นทางของตนเอง

ก้าวสู่เวทีระดับโลก จนสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 2 จากเวทีการแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก "2014 IASF Cheerleading and Dance Team Worlds Competition หรือ The Cheerleading Worlds"

ความฝันที่เป็นจริงของนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่สานฝันจนประสบความสำเร็จสูงสุดในกีฬา "เชียร์ลีดเดอร์"

ทว่าหนทางความสำเร็จของนักศึกษากลุ่มนี้ ไม่ได้มาง่ายดายนัก เนื่องจากกระแสของความเข้าใจผิดต่อกีฬาเชียร์ลีดเดอร์ทำให้ภาพลักษณ์ของกีฬาชนิดนี้ดูติดลบในสายตาของคนส่วนใหญ่

โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีความเป็นห่วงในความปลอดภัยของบุตรหลานที่จะก้าวเข้ามาสู่วงการเชียร์ลีดเดอร์

"สราวุฒิ สำเนียงดี" หรือ "เต้ย" ผู้ฝึกสอนทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เล่าว่า ตัวเขาเองอยู่ในวงการเชียร์ลีดเดอร์มานาน เมื่อก่อนกีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ

จนกระทั่งถึงในช่วงที่มีจุดเปลี่ยนคือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ทำให้กีฬาเชียร์ลีดเดอร์ถูกมองว่าเป็นเรื่องอันตราย ทั้งที่ในความเป็นจริง ความอันตรายนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาถ้าหากมีความประมาทเกิดขึ้น

"เมื่อก่อนตอนผมเป็นเชียร์ลีดเดอร์เอง เรามีความรู้สึกภูมิใจมาก เพราะต้องฝึกฝนมาอย่างหนักมากเพื่อแสดงความสามารถที่เรามี คนที่มาดูเราก็ชื่นชม เราก็มีกำลังใจแต่ในวันนี้ผมกล้าพูดว่าเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุดของวงการเชียร์ลีดเดอร์ไทย กีฬาเชียร์ลีดเดอร์กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ในสายตาของคนไทย อย่างในการไปแข่งชิงแชมป์โลกในปีนี้ เราไม่มีแม้แต่สปอนเซอร์ แต่เราทุกคนก็ต้องสู้เพราะเราทุกคนรักตรงนี้

เชื่อมั้ยว่าในประเทศอื่น ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ เขามีการสนับสนุนให้เชียร์ลีดเดอร์เป็นกีฬาอันดับหนึ่งที่แสดงออกถึงความสามัคคี มีการสนับสนุนอย่างถูกต้องเป็นเรื่องเป็นราว แต่ในขณะเดียวกันประเทศเรา กีฬาชนิดนี้กลับถดถอยลงอย่างไม่น่าเชื่อ"

เรื่องนี้นักศึกษาในทีมช่วยกันเสริมพร้อมกับบอกเล่าถึงความยากลำบากกว่าจะมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ว่า "ฝึกหนักราวกับทหาร" ทุกอย่างต้องมีกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นเวลากิน นอน ออกกำลังกาย ที่สำคัญคือ ความปลอดภัย แม้บางครั้งอาจบาดเจ็บ แต่ทุกคนต้องอดทน จนกว่าจะแข่งจบรายการ

"เมื่อก่อนตอนเราฟอร์มทีมกันใหม่ ๆ ก็ระเนระนาดเหมือนกัน เพราะต่างคนต่างมีพื้นฐานคนละแบบ แต่กีฬาชนิดนี้เล่นเพียงคนเดียวไม่ได้ ต้องมาเป็นทีมเท่านั้น จึงต้องมากิน-นอนด้วยกัน ฝึกทุกอย่างให้เหมือนกัน ให้พร้อมเพรียง เพราะนั่นจะช่วยเซฟในเรื่องของความปลอดภัย มีการละลายพฤติกรรม จนกระทั่งแข่งได้แชมป์ประเทศไทย

ยิ่งตอนจะไปชิงแชมป์โลกก็ฝึกหนักขึ้นไปอีก เพราะต้องปรับเรื่องเวลาด้วย เราไปแข่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เราก็ต้องปรับเวลาฝึกสลับกับเวลานอน คือเปลี่ยนเป็นซ้อมตั้งแต่สองทุ่มถึงแปดโมงเช้า ช่วงที่มีชั่วโมงเรียนหนักเหมือนกัน เห็นใช้เวลาทำกิจกรรมเยอะขนาดนี้ แต่ในทีมเราก็มีนักศึกษาเกียรตินิยมอยู่หลายคน"

ทันทีที่ถามถึงอนาคต เสียงเด็ก ๆ ในทีมเริ่มแตกเป็นหลายเสียง บ้างก็จะเอาดีในด้านนี้ บ้างก็จะเก็บไว้เป็นงานอดิเรก "เต้ย-สราวุฒิ" เป็นตัวแทนอธิบายเรื่องนี้ว่า กีฬาชนิดนี้ถ้าเห็นผลตรง ๆ กับอาชีพ โดยหลักก็จะเป็นโค้ช เป็นแดนเซอร์ หรืออาชีพวงการบันเทิง แต่ในทางอ้อม กีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาที่เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี มีระเบียบและอดทน เพราะฉะนั้นสามารถต่อยอดไปในอาชีพแขนงอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน

สำหรับคนที่สนใจกีฬาเชียร์ลีดเดอร์ เต้ย-สราวุฒิบอกว่า การมีพื้นฐานการเต้นหรือยิมนาสติกมาย่อมเป็นเรื่องดี แต่สำหรับส่วนตัว ผมคิดว่ากีฬาชนิดนี้ใจต้องมาก่อน คนที่มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ต้องรู้จักที่จะเชียร์ตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองได้ เพราะจากที่บอกว่ากฎระเบียบและข้อจำกัดของกีฬาชนิดนั้นมีมาก คนที่เข้ามาก็จะต้องเสียเวลา

ส่วนตัวมาเป็นเวลาส่วนรวม (ของทีม) อย่างแน่นอน ต้องยินดีที่จะเรียนรู้และแชร์กับคนอื่นในทีมเพื่อปูพื้นฐานทุกคนให้เท่ากัน ซึ่งนี่คือสิ่งสำคัญมากสำหรับทีมเชียร์ลีดเดอร์

เมื่อผลลัพธ์แห่งการทุ่มเทออกมาคือ การคว้าแชมป์โลกจากเวที The Cheer leading Worlds มาครอง เต้ย-สราวุฒิ ในฐานะตัวแทนของทีม จึงใช้โอกาสนี้กล่าวถึงกระแสที่หันกลับมาจับตากีฬาเชียร์ลีดเดอร์อีกครั้งว่า

"อยากให้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ที่แท้จริง ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวนะครับ นอกจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าภาพ ที่คว้าแชมป์โลกเชียร์ลีดเดอร์นี้มาได้ จริง ๆ คนไทยมีความสามารถมากนะครับ ไม่แพ้ชาติอื่นเลย แต่เราขาดแค่การสนับสนุนที่ดี"

นี่เป็นอีกหนึ่งเสียงของนักกีฬาที่ไปคว้าแชมป์โลกมาครองได้ เพื่อยืนยันว่าเราทำได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook