เล็งไล่ออกอาจารย์สาวคลิปฉาว′สแตมป์เซเว่น-เครื่องแก้ว′แลกเกรด ให้หยุดสอน สอบวินัยร้ายแรง

เล็งไล่ออกอาจารย์สาวคลิปฉาว′สแตมป์เซเว่น-เครื่องแก้ว′แลกเกรด ให้หยุดสอน สอบวินัยร้ายแรง

เล็งไล่ออกอาจารย์สาวคลิปฉาว′สแตมป์เซเว่น-เครื่องแก้ว′แลกเกรด ให้หยุดสอน สอบวินัยร้ายแรง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายนพพร โฆสิระโยธิน รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ กล่าวถึงกรณี ที่ขณะนี้มีการเผยแพร่คลิปวิดิโอ ความยาว ความยาว 9.18 นาที ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค เปิดเผยถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของอาจารย์สาวจากมรภ. แห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื้อหาในคลิปวิดีโอ เป็นการพูดคุยกันระหว่างอาจารย์สาว และนักศึกษากลุ่มหนึ่ง

โดยเนื้อหาโดยรวมนั้น คือ การพูดเชิงต่อว่า และพูดถึงเหตุการณ์ที่ถูกร้องเรียนถึงการไปศึกษาดูงานที่ประเทศเวียดนาม และการใช้แสตมป์เพื่อเพิ่มคะแนน และเพิ่มเกรด โดยใช้ชื่อคลิปว่า ′อาจารย์ราชภัฎสาว แสตมป์เซเว่นฯ+เครื่องแก้วแลกเกรด′ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โดยขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ให้อาจารย์รายดังกล่าวยุติการสอนในระหว่างที่เข้าสู่กระบวนการสอบข้อเท็จจริง

จากการสอบข้อเท็จจริง พบว่าคดีมีมูล ที่สำคัญเป็นความผิดวินัยร้ายแรง จึงตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตามขั้นตอน เพราะอาจารย์รายดังกล่าวถือเป็นอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยแล้ว ดังนั้นจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพราะหากมหาวิทยาลัยลงโทษโดยไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริง อาจจะถูกฟ้องร้องได้ โดยผลการสอบวินัยร้ายแรงใช้เวลาไม่นาน เพราะข้อมูลทุกอย่างที่ปรากฏในคลิปวิดิโอค่อนข้างชัดเจน ว่ากระทำผิดจริง และเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก

"ข้อมูลที่ปรากฏในคลิปวิดิโอถือว่าเป็นความเสียหายกับนักศึกษาโดยเฉพาะกับนักศึกษาครูไม่ควรได้รับการบ่มเพาะสิ่งไม่ได้ แต่เท่าที่ดูคิดว่าอาจารย์รายดังกล่าวน่าจะกระทำไปโดยขาดการไตร่ตรอง และอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเท่าที่ทราบมีหลายแห่งใช้เบียร์แลกเกรดก็มี จึงทำตามและคงเห็นว่า เป็นนักศึกษาภาคพิเศษ ระดับปริญญาตรี ต่อเนื่อง เรียนเสาร์ อาทิตย์ ที่ศูนย์นอกสถานที่ตั้ง และส่วนใหญ่ผู้ที่มาเรียนก็เป็นคนที่ทำงานแล้ว ดังนั้นจึงไม่เข้มงวดมากนัก ส่วนศูนย์ดังกล่าวจะเปิดทำการสอนนักศึกษารุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้าย และมหาวิทยาลัยได้ทำการปิดศูนย์ฯเรียบร้อยแล้ว" นายนพพรกล่าวและว่า ขณะเดียวกันตนยังได้กำชับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยทุกคนไม่ให้ทำพฤติกรรมดังกล่าว เพราะถือว่าผิดวินัย และจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook