ลูกกวาดสีม่วงรส"เลิฟซิกฯ"

ลูกกวาดสีม่วงรส"เลิฟซิกฯ"

ลูกกวาดสีม่วงรส"เลิฟซิกฯ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ประเด็น "ชายรักชาย" ไม่ใช่เรื่องใหม่ในละครบ้านเรา แต่ที่ไม่เคยเห็นในเรื่องใดมาก่อนในไทยแลนด์แดนสยาม คือการที่คู่รักซึ่งเป็นชายกับชาย ได้รับบทนำเป็น "ตัวเอก" ของเรื่อง อย่างที่ "Love Sick the Series -รักวุ่น วัยรุ่นแสบ" ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แวดวงทีวีไทยในตอนนี้

"เกินคาด ผมไม่นึกว่าจะมีคนอินตามขนาดนี้" "ราชิต กุศลคูณสิริ" ผู้กำกับและผู้สร้างจากค่าย MR. BIG PICTURE พูดด้วยเสียงปลื้ม เมื่อเล่าถึงกระแสของละครที่ถูกพูดถึงมากในโลกออนไลน์

ทั้งที่ตอนแรกก็ตั้งใจแค่อยากนำเสนอเรื่อง จากนิยายสุดฮิต "Love Sick ชุลมุนหนุ่มกางเกงน้ำเงิน" ที่โด่งดังใน "เว็บไซต์เด็กดี" เมื่อปี 2552 งานของผู้เขียน "INDRYTIMES" ซึ่งเล่าถึงความรักของ "ปุณณ์" กับ "โน่" นักเรียนในโรงเรียนชายล้วน ที่นอกจากจะน่ารัก น่าจิ้น ความสัมพันธ์ระหว่างพ้องเพื่อนและชีวิตวัยเรียนยังชวนให้อมยิ้มตามไม่น้อย

บอกด้วยว่าทันทีที่อ่านเรื่องนั้น แบบใช้เวลาคืนเดียวจบ เขาก็เห็นภาพแบบชัดเจน

"มันสัมผัสได้" เขาบอก

"ถึงเราอาจไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้เลย แต่เรื่องก็ทำให้ร้องไห้ไปกับตัวละคร รักตัวละคร พอหนังสืออ่านสนุกก็เลยคิดว่าถ้าเป็นซีรีส์คนดูต้องสนุกแน่"

แต่กว่าจะได้งาน ผู้กำกับที่เคยทำหนัง "Virgin Am I รักแรก กระแทกจิ้น", "รักจัดหนัก", "Boy"s stories" รวมถึงเป็นโปรดิวเซอร์ "วุ่นรัก พักนิ้ว" ก็ยังต้องยอมรับในความยาก

ยากเพราะ "ระหว่างทางมีคำถามเยอะ เรื่องที่ชาย-ชายเป็นตัวหลัก"

การขายโปรเจ็กต์จึงต้องตระเวนไปเสนอในทุกช่องฟรีทีวี ดีที่สุดท้ายได้บริษัท "มิดเดิล แมน มีเดีย" รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างให้และได้ออกอากาศทาง "โมเดิร์นไนน์" ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.50 น. หลังใช้เวลาผลิตกว่า 2 ปี

ส่วนอีกหนึ่งความยาก คือการใช้นักแสดงใหม่หมดทั้งเรื่อง

ด้วย "ถ้าใช้ดาราที่ผ่านผลงานมาคนจะติดภาพเหล่านั้น เลยอยากทดลองใหม่ๆ ไปด้วยกันเลย อยากให้ทุกอย่างเป็นภาพจำใหม่หมด คนดูจะได้พัฒนาไปพร้อมตัวละคร"

อย่างไรก็ตาม แม้อยากเสนอประเด็น "ชายรักชาย" แต่ผู้กำกับก็ยอมรับว่าคนอีกมากยังไม่พร้อมรับเรื่องนี้แบบเต็มๆ เรื่องนี้จึงต้องเพิ่ม "คู่รอง" เข้าไปสร้างสีสัน

ถ้าดูเผินๆ คนอาจมองว่าเป็นละครสะท้อนชีวิตวัยรุ่น จนถูกครหาว่าเป็นการเลียนแบบ "ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น" ซึ่งราชิตรีบแก้ "ไม่ใช่ มันคนละอารมณ์ เพราะของเราเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ ป๊อปลูกกวาดทั่วไป"

แต่เป็น "ละครลูกกวาด" ที่เสนอภาพจริง เลยมีให้เห็นทั้งเรื่องชายรักชาย และการใช้ชีวิตคู่ในวัยเรียน

โดยไม่ได้คิดชี้นำให้วัยรุ่นไปในทางไม่ถูกไม่ควรอย่างใครๆ ว่า

"เรื่องความรักมันไม่ต้องมีการชักจูง เป็นเรื่องจรรโลงใจ เราอยากทำให้เห็นว่าชีวิตมันพลิกผันได้ แต่จะข้ามผ่านยังไงก็อยู่ที่เรา"

กลุ่มผู้ชมที่วางไว้ตอนแรกจึงเป็นผู้หญิงตั้งแต่รุ่นๆ จนถึงวัยทำงาน รวมทั้งเพศทางเลือก

แต่พอออกอากาศกระแสตอบรับกลับขยายกว้างไปถึงคนรุ่นพ่อแม่ ผู้ชาย แถมด้วยแฟนละครต่างชาติ ทั้งฟิลิปปินส์ เกาหลี จีน และเวียดนาม

ขยายกว้างกระทั่งตอนนี้เริ่มมีคนติดต่องานมายังนักแสดงมากขึ้นๆ ขณะที่ "เพลงประกอบ" ทั้ง 13 ที่เหล่านักแสดงร้องก็มียอดดาวน์โหลดสูงติดอันดับในไอจูน

ดังนั้น แม้ละครจะ "ยังไม่ทำกำไร" เพราะถ่ายทำระบบภาพยนตร์ที่ใช้ทุนเยอะ แถมสินค้าหลายรายยังยึดติดกับละครขนบเดิมๆ ที่ต้องมีพระ-นางในการเดินเรื่อง

แต่จากจำนวนผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และซีซั่น 2 ที่เตรียมจะเดินกล้องถ่ายทำไม่เกินมกราคมปีหน้า

ดูแล้วความตั้งใจที่จะทำให้เลิฟซิกฯ จบบริบูรณ์อย่างในนิยาย ซึ่งต้องทำซีรีส์ 3-4 ซีซั่นจึงไม่ใช่แค่ความฝัน

"เช่นเดียวกับอนาคตของละคร "ชายรักชาย" ในบ้านเราที่ดูจะสดใสขึ้นเรื่อยๆ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook