"ศรีปทุม" เปิดหลักสูตรซาลอน สร้างผู้ประกอบการเสริมสวยมืออาชีพ

"ศรีปทุม" เปิดหลักสูตรซาลอน สร้างผู้ประกอบการเสริมสวยมืออาชีพ

"ศรีปทุม" เปิดหลักสูตรซาลอน สร้างผู้ประกอบการเสริมสวยมืออาชีพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เพราะมองเห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ระดับท็อปให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด จึงทำให้มหาวิทยาลัยศรีปทุมเริ่มจับจุดความสำคัญข้างต้น พร้อมกับเบนเข็มมาเปิดหลักสูตรใหม่ ๆ ที่รองรับกับความต้องการของตลาด และภาครัฐที่ให้การสนับสนุน

โดยล่าสุด "ผศ.ดร.รวิภา ลาภศิริ" คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุมร่วมกับ โรงเรียนเสริมสวยชลาชล (CHALACHOL Academy) สถาบันแนวหน้าในธุรกิจซาลอนชั้นนำของประเทศ เปิดหลักสูตรการจัดการธุรกิจซาลอน (Salon Business Management) ด้วยเล็งเห็นว่าซาลอเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับแรงกระเพื่อมจากการเติบโต ของการท่องเที่ยว

"นักศึกษาจะได้เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริงที่มีความรู้และประสบการณ์การจัดการธุรกิจซาลอน โดยอาจารย์ของเราจะปูพื้นฐานด้านบริหารธุรกิจก่อน หลังจากนักศึกษาจะได้เรียนภาคปฏิบัติที่ชลาชล อคาเดมี่ 1 เทอม ซึ่งจะทำให้ได้เรียนรู้ถึงปัจจัยความสำเร็จของการทำธุรกิจซาลอนว่านอกจาก เรื่องทักษะการตัดผมแล้ว ยังมีเรื่องการบริหารคน บริหารแบรนด์ การตลาดเป็นต้น"


นอกจากนี้ นักศึกษาต้องเข้าร่วมโครงการสหกิจศึกษา ซึ่งจะไปฝึกปฏิบัติงานจริง ๆ ที่ร้านซาลอน ดังนั้น หากรวมระยะเวลาที่ไปเรียนรู้ในชลาชล อคาเดมี่ 4 เดือนกับโครงการสหกิจศึกษา 4 เดือน จะทำให้ผู้เรียนเห็นตัวตนและเนื้องานของธุรกิจซาลอนอย่าง ชัดเจน จนสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการได้เร็ว"การอยู่รอดของธุรกิจซาลอนมี น้อย เพราะขาดความรู้ด้านบริหารจัดการและการสร้างแบรนด์ นอกจากนั้น ธุรกิจนี้ไม่ใช่แค่การบริการลูกค้าได้ หรือทำผมเป็น แต่คือEmotional Product ที่คุณต้องบริหารธุรกิจเป็น และบริหารคนเป็นด้วย"

ดังนั้น คณะบริหารธุรกิจจึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงซาลอน สามารถนำประสบการณ์มาเทียบโอนหน่วยกิตได้สำหรับใช้ในการศึกษาต่อ หรือผู้ที่ไม่มีเวลามากพอจะสามารถมาเติมเต็มศาสตร์ด้านการจัดการซาลอนเพิ่ม เติมได้ในคอร์สเรียนระยะสั้น ในส่วนนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาคุณวุฒิวิชาชีพอีกทางหนึ่ง

"ผศ.ดร.รวิภา" กล่าวเพิ่มเติมว่า คนไทยมีศักยภาพด้านซาลอนสูง จนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ จนทำให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะการรองรับตลาดอาเซียนที่จะมาถึงในปีหน้า ขณะเดียวกัน ซาลอนยังเป็นธุรกิจที่รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนเพื่อให้เกิดมาตรฐานคุณวุฒิ วิชาชีพ หากได้รับการรับรองจะถือว่าเป็นผู้ประกอบการซาลอนที่มีคุณภาพ

"นอกจากนั้น ดิฉันยังมองว่าอาชีพนี้เติบโตตามเศรษฐกิจของประเทศ และการท่องเที่ยวก็โตเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ สำหรับหลักสูตรใหม่ที่จะเปิดในอนาคตจะเป็นลักษณะนี้คือ เลือกจากธุรกิจที่เหมาะกับคนไทย หรือคนไทยมีความโดดเด่น จะเน้นไปตามทางที่ภาครัฐต้องการและสนับสนุน อย่างด้าอาหาร, สปา เป็นต้น"

ขณะที่ "ดร.สมศักดิ์ ชลาชล" ประธานที่ปรึกษาโรงเรียนเสริมสวยชลาชลกล่าวว่าเดิมทีประเทศไทยมีการเปิดร้าน ทำผมเยอะมาก แต่ที่เปิดมาได้ไม่นานแล้วหายไปไม่ใช่เรื่องฝีมือ เป็นเพราะขาดการบริหารเรื่องคน, การเงิน และแบรนด์ สิ่งเหล่านี้คือหัวใจหลักของธุรกิจซาลอนมากกว่าฝีมือการทำผมอย่างเดียว

"ธุรกิจนี้เติบโตอย่างมาก มูลค่าหลายหมื่นล้านต่อปี เพราะบางธุรกิจอย่างธุรกิจเสริมสวยก็มีความเชื่อมโยงกับเรื่องผม ดังนั้น คุณอาจเริ่มต้นจากธุรกิจซาลอนแล้วขยายไปจับธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยก็ ได้โดยเฉพาะสมัยนี้คนต้องการ Social Asset ให้ความใส่ใจกับการพัฒนาตัวเอง เพราะมองว่าเรื่องบุคลิกภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง"

นอกจากนั้น ปัจจุบันประเทศไทยยังถือเป็นฮับของธุรกิจซาลอนในอาเซียน จึงเชื่อว่าการเข้ามาเรียนหลักสูตรนี้จะสามารถสร้างโอกาสการเติบโตในวิชาชีพ ได้ไม่ยาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook