เล่าอดีตพี่ เพื่ออนาคต(ที่ดี)ของน้อง ตอน ทางแยกที่ต้องเลือก

เล่าอดีตพี่ เพื่ออนาคต(ที่ดี)ของน้อง ตอน ทางแยกที่ต้องเลือก

เล่าอดีตพี่ เพื่ออนาคต(ที่ดี)ของน้อง ตอน ทางแยกที่ต้องเลือก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อีกไม่กี่เดือนก็จะหมดปีการศึกษากันแล้ว น้องๆ หลายคนที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย คงต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับก้าวต่อไปของชีวิตที่กำลังจะเริ่มต้น บางคนตัดสินใจว่าจะทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนสักปีสองปี ในขณะที่หลายคนตัดสินใจเดินหน้าหาที่เรียนต่อทั้งในและต่างประเทศ

ก่อนจะตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโท พี่เลือกไปเรียนภาษาที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเพราะพี่ชอบสำเนียงคนอังกฤษ ดูรูป ดูหนังแล้วชอบภูมิประเทศ ชอบสภาพบ้านเมือง และที่แลนด์มาร์คต่างๆ และ อีกอย่างเพื่อกำจัดอาการ Foreign Phobia หรือโรคกลัวฝรั่งด้วย

หลังจากที่เลือกประเทศ เลือกเมืองได้แล้ว ก็มาดูว่าสถาบันที่สนใจจะไปเรียนนั้น มีสิ่งต่างๆ เหล่านี้หรือไม่
- ได้รับการรับรองหรือที่มีคำว่า accreditation ซึ่งถ้ามีก็วางใจได้ว่าเราจะได้รับการศึกษาที่ตรงตามมาตรฐานของประเทศอังกฤษ เช่นการรับรองจาก British Council หรืออยู่ในกลุ่ม IALC (International Association of Language Centres)
- สถาบันนี้มี Self-Access Centre เพื่อให้เราเข้าไปค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนได้จากอินเตอร์เน็ทหรือไม่
- สถาบันนี้ตั้งอยู่โซนที่ปลอดภัย และสะดวกต่อการเดินทางของน้องๆ หรือไม่
ระยะเวลาในการเรียนก็สำคัญ โปรแกรมเรียนภาษานั้นมีตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี ถ้าคิดว่าต้องการความชัวร์ก็จัดยาวไปละกันค่ะ



ค่าใช้จ่าย ต้องเท่าไหร่ ถึงจะพอ?
เรื่องค่าใช้จ่ายหลักๆ ขึ้นอยู่กับคอร์สที่เรียน สถาบันที่เลือกว่าเก่าแก่หรือมีชื่อเสียงในระดับไหน อยู่ย่านไหน เมืองอะไร เราสามารถเช็คราคาได้ทางเว็บไซต์ของสถาบันนั้นๆ ส่วนมากก็หลักแสนขึ้นไปทั้งนั้น แต่สิ่งที่กำหนดได้ยากคือเรื่องของวีซ่า อันนี้บอกตรงๆ ว่าพี่ก็แอบงงกับเกณฑ์การพิจารณา เพราะเพื่อนรุ่นพี่บางคนอายุ 40 กว่าแล้ว ขอวีซ่ามาเรียนภาษา! ใช่ค่ะ เรียนภาษาในวัยนั้นนั่นหละ เอกสารก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเพื่อนรุ่นน้องที่เพิ่งจบ แต่พี่เค้าได้ไปเรียนแบบง่ายๆ ไม่ต้องมีเอกสารเพิ่มเติม เลยจะบอกว่าบางทีเรื่องนี้ก็ต้องพึ่งโชคอยู่เหมือนกัน (ความเชื่อส่วนตัวนะคะ)



วีซ่า...จะได้มาต้องทำอย่างไร
ถ้าน้องๆ เพิ่งพาเอเจนซี่ ต้องศึกษาข้อตกลงให้ละเอียดเลยนะคะ ว่าเค้ามีการการันตี หรือให้เงินคืนในกรณีถูกปฏิเสธวีซ่าหรือไม่อย่างไร ส่วนคนที่เดินเรื่องเอง ลองคลิกอ่านที่ลิงก์ต่อไปนี้เพื่อเตรียมเอกสารในการขอวีซ่าให้พร้อมนะคะ

พี่ตั้งใจไปเรียนภาษาแค่ 6 เดือน เลยขอวีซ่าประเภท Student Visitor Visa วีซ่าท่องเที่ยวแบบนักเรียน ซึ่งพี่ไม่สามารถขอต่อ หรือเปลี่ยนแบบเป็นวีซ่านักเรียน fulltime ที่ประเทศอังกฤษได้ แถมระหว่างที่เรียนอยู่ก็ไม่สามารถทำงานได้อีกด้วย คือเค้ากะให้ตั้งใจเรียนจริงจังเลยว่างั้น

เมื่อเตรียมเอกสารทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาไปยื่นเอกสารกัน ซึ่งพี่อยากลุ้น เลยไปรอคิวที่หน้าสถานทูตตั้งแต่เช้า แต่ถ้าใครไม่ชอบรอแบบลุ้นเกินไปจะนัดวันเวลายื่นเอกสารผ่านระบบออนไลน์ไว้ก็ไม่ผิดกติกานะคะ ... ส่วนผลจะออกมายังไงนี่แล้วแต่บุญพาวาสนาอำนวยแล้วหละค่ะ ทั้งนี้สถานทูตอังกฤษเปลี่ยนเงื่อนไขในการออกวีซ่าบ่อยมาก ต้องอัพเดทข้อมูลก่อนเตรียมเอกสารไปยื่นนะคะ

สรุประยะเวลาตั้งแต่เลือกที่เรียน การเตรียมเอกสาร จนกระทั้งถึงวันที่ได้ผลวีซ่าก็ประมาณ 3 เดือน บางคนอาจจะใช้เวลาน้อยกว่านี้นะ แล้วแต่ความพร้อมบวกกับความเยอะด้วยค่ะ


ว่ามาซะยาวยังไม่ได้ออกนอกประเทศซะที ตอนต่อไป พี่จะเล่าถึงการเตรียมตัว เตรียมใจ แพ็คกระเป๋าไปเรียนภาษากันที่กรุงลอนดอน ครั้งแรกในชีวิตที่จะได้นั่งเครื่องบินไกลๆ คนเดียว ครั้งแรกที่จะได้เหยียบดินแดนในฝัน แล้วมาเจอกันตอนหน้านะคะ


ขอบคุณข้อมูลเรื่องวีซ่านักเรียนอังกฤษจาก http://www.skeducation.com/others/15/united-kingdom&sub=visa
ภาพจาก http://www.istockphoto.com/

เรื่องโดย TourAuon

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook