Taylor Swift รูปก็สวย จูบก็หอม

Taylor Swift รูปก็สวย จูบก็หอม

Taylor Swift รูปก็สวย จูบก็หอม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ kenshiro843@gmail.com
ที่มา มติชนสุดสัปดาห์

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา บทบาทของผู้หญิงในสังคมโลกกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปที่ผู้หญิงสักคนจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับประเทศ หรือระดับองค์กรใหญ่ๆ โดยมีผู้ชายแมนๆ ทั้งแท่งอยู่ใต้การปกครองรองเท้าส้นสูงของพวกเธอ

เว็บไซต์ Business Insider ยังเคยวิเคราะห์ว่า หากวัดคะแนนความเป็นผู้นำกันแบบตัวต่อตัว ผู้หญิงทำได้ดีกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ โดยจากการประเมินพบว่าผู้ชายชนะเพียงแค่สองข้อเท่านั้น นอกนั้นผู้หญิงชนะหมด

แต่กระนั้นเอง การที่ผู้หญิงแต่ละคนจะกระโดดมาอยู่ในจุดที่ทุกคนยอมรับได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ค่านิยมที่ว่า อาชีพบางอย่างหรือความถนัดบางประเภทน่าจะเป็นของผู้ชาย ก็ยังคงมีอยู่

ในจำนวนทั้งหมด ผู้หญิงในวงการบันเทิงมักถูกมองเชิงลบมากที่สุด ยิ่งผู้หญิงคนไหนหน้าตาสะสวย หุ่นเช้งกระเด๊ะด้วยแล้ว ก็จะถูกตีค่าว่า "สวยแต่รูป" โดยเมินความสามารถแท้จริงที่มี

ยังงั้ยยังไง ส่วนโค้งส่วนเว้าบนเรือนร่าง ก็น่าดึงดูดกว่าส่วนหยักส่วนหยิกในสมอง

ศิลปินหญิงหลายคนจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเธอไม่ได้มีดีแค่การเต้นเด้งไปเด้งมา หรือทาลิปสติกสีแดงไปวันๆ แน่นอนว่ารูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งที่ต้องดูแลใส่ใจอยู่แล้ว แต่พวกเธอก็อยากจะบอกชาวโลกเหมือนกันว่า เธอมีดีมากกว่านั้น

วงการดนตรีป๊อปของโลกปีนี้ เรามีศิลปินหญิงดีๆ หลายต่อหลายคน Iggy Azalea แต่งเพลงแร็พได้กระแทกใจวัยรุ่นเหลือเกิน เช่นเดียว Lorde ก็มาด้วยสำเนียงการร้อง และวิธีการแต่งเพลงที่มีเอกลักษณ์ จนไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมีอายุเพียง 18 ปี

แต่นาทีนี้คงไม่มีใครโดดเด่นเกินหน้าเกินตา Taylor Swift อีกแล้ว

เทเลอร์ สวิฟต์ เพิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับคนทั้งโลก เมื่อเธอได้รับเกียรติให้ขึ้นปกนิตยสารข่าวระดับโลกอย่าง TIME และนิตยสารธุรกิจอย่าง Bloomberg BusinessWeek พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

สื่อทั้งสองเจ้าเห็นตรงกันว่า เทเลอร์ สวิฟต์ กำลังจะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรี

ทาง TIME พาดหัวว่า The Power of Taylor Swift พร้อมกับประโยคโปรยในบทความว่า How pop"s savviest romantic conquered the music business

ส่วนทาง Bloomberg BusinessWeek ก็ไม่น้อยหน้า เอาภาพหน้าเต็มๆ ของเธอ (เต็มจริงๆ ครับ ต้องไปหามาดู) ขึ้นปกพร้อมกับข้อความว่า Taylor Swift Is the Music Industry

ตอนนี้เธอเป็น "ปรากฏการณ์" ของอุตสาหกรรมดนตรีอย่างแท้จริง

เธอทำอะไรบ้างน่ะหรือ?

เธอสร้างปรากฏการณ์หลักๆ 3 อย่างครับ

หนึ่ง คือ ยอดขายอัลบั้มที่พุ่งกระฉูดเป็นประวัติการณ์

สอง คือ การลุกขึ้นมาต่อต้านระบบธุรกิจดนตรีแบบที่เป็นอยู่

สาม คือ การสวมหมวกเป็นเฟมินิสต์ ยกระดับบทบาทของศิลปินหญิง

1989 สตูดิโออัลบั้มที่ห้าในชีวิตของเธอที่เพิ่งวางแผง ขายได้ถึง 1.287 ล้านก๊อบปี้ในสัปดาห์แรก ถือเป็นอัลบั้มแรกและน่าจะเป็นอัลบั้มเดียวของปีค.ศ.2014 ที่ขายได้ถึงตัวเลขเจ็ดหลัก

หรือถ้าเทียบเป็นสัดส่วนจะเท่ากับยอดขายถึง 22 เปอร์เซ็นต์จากอัลบั้มที่วางแผงทั้งหมดของสหรัฐ

นอกจากนี้ หากตัดกราฟที่ปี ค.ศ.2002 ยอดขายดังกล่าวยังถือเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอันดับที่สองในสัปดาห์แรก (รองจาก The Eminem Show) และถ้ารวมกับอีก 2 อัลบั้มก่อนหน้าของเธอ อย่าง Red (1.21 ล้านก๊อบปี้) หรือ Speak Now (1.05 ล้านก๊อบปี้) ก็จะเท่ากับว่าเธอมีอัลบั้มถึง 3 อัลบั้มจาก 16 อัลบั้มของสหรัฐ ที่ขายได้เกิน 1 ล้านก๊อบปี้ในสัปดาห์แรก

เท่านั้นยังไม่พอ Nielsen SoundScan ยังรายงานว่า ก่อนที่อัลบั้ม 1989 จะวางแผง เพลงทั้งหมดของเธอขายได้ถึง 70 ล้านครั้งในโลกดิจิตอล

และเธอยังทำรายได้จากการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งล่าสุดปี ค.ศ.2013-2014 ไปถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่ามากที่สุดเท่าที่ศิลปินคันทรี่เคยทำได้ (แม้ว่าเธอจะกลายเป็นศิลปินป๊อปโดยสมบูรณ์แล้วก็เถอะ)

แต่ยอดขายที่พุ่งพรวดนี้กลับไม่ได้ทำให้ เทเลอร์ สวิฟต์ อยากจะกอบโกยรายได้ เธอกลับทำสิ่งที่ช็อกคนทั้งโลก นั่นคือ การถอนเพลงเกือบทั้งหมดของเธอที่มีอยู่ใน Spotify บริการสตรีมมิ่งมิวสิกอันดับหนึ่งของโลก ที่มีผู้ใช้กว่า 50 ล้านคน

ผมคิดว่าการตัดสินใจของเธอในครั้งนี้เป็น "การขบถ" ที่สั่นสะเทือนวงการดนตรีไม่น้อย

นักวิเคราะห์เชื่อกันว่าหากเธอไม่ถอนเพลงออกมาจาก Spotify เธอจะฟันรายได้กว่าครึ่ง หรือ 50 เซนต์ต่อเพลง ถ้าเทียบเป็นยอดคลิกก็จะเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมาก

คำถามคือ แล้วทำไมเธอถึงกล้าถอนเพลงออกมา?

เธอให้เหตุผลว่า Spotify ไม่ได้ให้ "คุณค่า" ที่คุณคู่ควรกับความคิดสร้างสรรค์ที่ศิลปินใส่ลงไป

"กับบริการสตรีมมิ่งมิวสิกเจ้าอื่นๆ อย่าง Beats Music หรือ Rhapsody คุณต้องซื้อแพ็กเกจพรีเมี่ยมเท่านั้นจึงจะฟังเพลงของฉันได้ แต่กับ Spotify คุณไม่ต้องจ่ายอะไรเลยก็ฟังได้" เธอให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร TIME

"ฉันคิดว่าคนฟังควรตระหนักถึง "คุณค่า" ของเพลงที่ศิลปินได้สร้างสรรค์ขึ้นมา"

เธอยังบอกอีกว่า ไอ้เรื่องแบบนี้มันเป็นข่าวที่เชยและเก่าแล้วล่ะ เพราะเธอเคยเขียนมุมมองต่อประเด็นนี้ให้กับ Wall Street Journal มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน

คําสัมภาษณ์ที่ฉลาดเฉลียวและจริงจังดังกล่าว อาจดูขัดกับบุคลิกของเธอ ด้วยอายุเพียงน้อยนิดกับความขี้เล่นของเธอ ทำให้คนส่วนใหญ่มักมองเธอเป็นแค่หญิงสาวผู้อ่อนต่อโลกที่แต่งตัวสวยๆ ทาปากแดงๆ และเหล่หนุ่มๆ ในงานปาร์ตี้ไปวันๆ

ยิ่งถ้ามาฟังเพลงของเธอ ก็อาจจะพาลคิดไปได้ว่าผู้หญิงคนนี้ช่างขี้นินทาเสียเหลือเกิน เพราะหลายเพลงของเธอมักจะ "ซ่อน" ไว้ด้วยการจิกกัดผู้ชายที่เธอเคยควงอย่าง John Mayer, Jake Gyllenhaal หรือ Harry Styles เป็นประจำ ให้แฟนเพลงได้ถอดรหัสเล่นๆ ว่าเธอกำลังเม้าธ์มอยถึงหนุ่มๆ คนไหน

กระนั้นเอง สิ่งที่คนภายนอกอาจไม่รู้ (หรือรู้แต่มองข้ามๆ ไป) ก็คือเธอแต่งเพลงเองทั้งหมด

สิ่งนี้ทำให้เธอแตกต่างจากหญิงสาววัยเดียวกัน รวมทั้งโดดเด่นกว่าศิลปินสาวบิ๊กเนมคนอื่นๆ อย่าง Rihanna, Miley Cyrus หรือแม้กระทั่ง Beyonc? ด้วยซ้ำ

ในฐานะนักแต่งเพลง เธอได้รับการยกย่องอย่างมาก Nashville Songwriters Association และ The Songwriters Hall of Fame ยังเคยมอบรางวัลให้กับเธอ

ทว่าคนภายนอกกลับไม่เชื่อว่าผู้หญิงอย่างเธอจะทำสิ่งเหล่านี้ได้

"มันคือเรื่องของสิทธิสตรีนะ" เจ้าของ 7 รางวัลแกรมมี่กล่าว

เธอยกตัวอย่างว่า ไม่เห็นมีใครตั้งคำถามว่าเพื่อนหนุ่มของเธออย่าง Ed Sheeran ว่าเขาแต่งเพลงเองจริงหรือเปล่า แต่กับศิลปินหญิงอย่าง Nicky Minaj หรือ Iggy Azelea กลับต้องต่อสู้อย่างหนักเพียงเพื่อบอกแค่ว่าเธอแต่งเพลงเอง

"เรื่องเหล่านี้ทำให้ฉันเศร้าและหมดกำลังใจเหมือนกัน ผู้หญิงต้องทำงานอย่างหนักเพียงเพื่อจะพิสูจน์ตัวเองว่าพวกเธอทำงานเหล่านี้ด้วยตัวเองจริงๆ"

ประโยคดังกล่าวทำให้เหล่าเฟมินิสต์ยกย่องเธอเป็น role model คนใหม่เลยทีเดียว

ปัจจุบัน เทเลอร์ สวิฟต์ อายุเพียง 25 ปี เธอยังมีเวลาที่จะพัฒนาตัวเองและแสดงความสามารถให้ผู้ชายอย่างเราได้เห็นอีกเยอะ รอยหยักในสมองของเธอยังขดให้เขม็งเกลียวได้อีกมาก เช่นเดียวกับเรือนร่างและผิวพรรณที่ยังสวยงามบานสะพรั่งได้อีกหลายฤดู

เธอเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของผู้หญิงรุ่นใหม่

และเป็น role model ที่น่าชื่นชม ท่ามกลางยุคที่สื่อนิยมนำเสนอแต่ข่าวฉาว และผู้บริโภคก็หลับหูหลับตาเสพแต่เนื้อ นม ไข่ กันเป็นบ้าเป็นหลัง

ยังมีผู้หญิงที่ทั้งรูปก็สวย จูบก็หอมอีกมากมาย

ที่เหลือก็คือคุณเท่านั้น

ว่าจะมองทะลุส่วนโค้งส่วนเว้าไปที่หัวใจของพวกเธอได้ดีแค่ไหนกัน


ภาพประกอบ : Reuters

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook