เรียนสายวิทย์ หรือ สายศิลป์ดี?

เรียนสายวิทย์ หรือ สายศิลป์ดี?

เรียนสายวิทย์ หรือ สายศิลป์ดี?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อต้องขึ้นม.ปลาย คำถามที่สร้างความปวดหัวให้กับนักเรียนม.ต้นได้ไม่น้อยเลยคือ "จะเลือกเรียนสายวิทย์ หรือสายศิลป์ดี?" ซึ่งการเลือกสายนี้มีความสำคัญอย่างมาก

เพราะเป็นสิ่งที่จะกำหนดอนาคตในการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ส่วนหนึ่งเลยทีเดียว และทั้งสองสายมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นวันนี้พี่ๆจาก Top-A tutor มีข้อดี ข้อเสียของแต่ละสาย และแนวทางการเลือกสายมาฝากน้องๆทุกคนครับ

เรียนสายวิทย์ หรือ สายศิลป์ดี?เรียนสายวิทย์ หรือ สายศิลป์ดี?


สายวิทย์-คณิต เรียนอะไรบ้าง?

เนื้อหาที่เรียนเป็นหลักในสายวิทย์-คณิตตามชื่อสายแล้วก็ต้องเป็นวิชาวิทย์-คณิตนั่นแหละครับ แต่อย่าได้คิดว่ามันจะสบายเหมือนวิทย์-คณิตม.ต้นเชียวละ เพราะว่าวิชาวิทยาศาสตร์ม.ปลายนั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ซึ่งแต่ละวิชาย่อยนั้นน้องๆก็ต้องเรียนทั้งภาคบรรยายในห้องเรียน และภาคปฏิบัติที่จะได้ทำการทดลองต่างๆอีกด้วย ทำให้จำนวนชั่วโมงเรียนและงานนั้นเยอะมาก

ส่วนคณิตศาสตร์นั้นในระดับม.ปลายจะค่อนข้างแตกต่างและยากกว่าระดับม.ต้นค่อนข้างเยอะ และปริมาณเนื้อหาคณิตศาสตร์ในระดับม.ปลายนั้นยังเยอะกว่าม.ต้นมากอีกด้วยส่วนวิชาอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ไทย สังคม อังกฤษ นั้นจะมีเรียนเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์

สายศิลป์ละ เรียนอะไรบ้าง?

สายศิลป์นั้นถ้าหากว่าเป็นศิลป์คำนวณการเรียนจะเน้นหนักไปที่ 2 วิชาได้แก่ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ โดยภาษาอังกฤษนั้นน้องๆจะได้เรียนอย่างละเอียดมากๆตั้งแต่เบสิคไปจนถึงระดับลึกเหมือนเรียนไวยกรณ์ภาษาไทยเลยนั่นแหละ

ส่วนคณิตศาสตร์นั้นก็เป็นวิชาหลักอีกวิชาของสายศิลป์-คำนวณ ซึ่งระดับความยากและความหนักนั้นอยู่ในระดับเดียวกับสายวิทย์-คณิตครับ ด้านวิชาอื่นๆเช่น วิทยาศาสตร์นั้นก็ยังมีเรียนนะครับ แต่จำนวนชั่วโมงเรียนและความเข้มเข้นของเนื้อหาจะไม่เท่าสายวิทย์-คณิตครับ

ส่วนสายศิลป์-ภาษานั้นการเรียนจะเน้นไปที่ภาษาอังกฤษ และภาษาที่ 3 ที่น้องๆเลือกเรียนครับ ส่วนวิชาอื่นๆไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ไทย สังคมนั้นก็จะลดความสำคัญลงไปครับ

ข้อดี/ข้อเสียของสายวิทย์-คณิต

สำหรับข้อดีของสายวิทย์คณิตที่รู้ๆกันอยู่แล้วก็คือ มีโอกาสเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หลายคณะมากกว่าสายศิลป์ อีกทั้งยังได้เปรียบเด็กสายศิลป์เวลาสอบเข้า เพราะสนามสอบใหญ่ๆนั้นมักจะต้องใช้คะแนนคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ด้วยเสมอ

ดังนั้นเด็กสายวิทย์ที่เรียนมาหนักกว่านั้นย่อมทำคะแนนวิชาเหล่านี้ได้ดีกว่าเด็กสายศิลป์ ส่วนข้อเสียก็คือการเรียนที่หนักกว่าสายศิลป์เป็นอย่างมาก และเกรดที่ได้นั้นอาจจะได้ยากกว่าสายศิลป์มาก

ข้อดี/ข้อเสียของสายศิลป์

แน่นอนว่าข้อดีที่เห็นได้ชัดในการเรียนสายศิลป์ก็คือความสบาย เพราะด้วยเนื้อหาการเรียนที่ไม่หนักเท่าสายวิทย์ทำให้การเรียนสายศิลป์นั้นค่อนข้างสบายกว่าสายวิทย์มาก อีกทั้งความสามารถทางภาษาที่ดีกว่าเด็กสายวิทย์นั้นย่อมมีประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามข้อเสียที่สำคัญของเด็กสายศิลป์คือโอกาสการเลือกเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่หลากหลายน้อยกว่าเด็กสายวิทย์ และการสอบแข่งขันในสนามสอบใหญ่ๆที่มักจะมีข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ด้วยนั้นเด็กสายศิลป์จะสู้เด็กสายวิทย์ไม่ได้

แล้วจะเลือกยังไงดีละ?

อ่านกันมาตั้งนาน ก็คงสงสัยว่าแล้วเราจะเลือกยังไงดีละ ถ้าน้องๆคนไหนยังคิดไม่ตกพี่มีคำแนะนำอย่างนี้ครับ

เรียนสายวิทย์ หรือ สายศิลป์ดี?เรียนสายวิทย์ หรือ สายศิลป์ดี?

1. อยากเข้าคณะอะไร?

ถ้าหากว่าน้องๆคนไหนรู้ตัวอยู่แล้วว่าอยากเข้าคณะอะไร การเลือกสายก็จะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ สำหรับคนที่อยากเข้าคณะที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์นั้นพี่แนะนำให้เลือกเรียนสายวิทย์-คณิต แม้ว่าบางคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์จะเปิดโอกาสให้เด็กสายศิลป์ไปสอบเข้าได้เช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตามการที่น้องเรียนวิทย์-คณิตมานั้นโอกาสที่จะสอบเข้าได้ย่อมมากกว่าเด็กสายศิลป์อยู่แล้วละครับ อีกทั้งคณะเหล่านี้นั้นเมื่อเข้าไปเรียนแล้ววิชาที่เรียนส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้พื้นฐานความรู้เกี่ยวกับวิทย์-คณิตค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเด็กสายวิทย์ย่อมได้เปรียบเมื่อเข้าไปเรียนด้วยนะครับ

ส่วนน้องๆที่อยากเข้าคณะทางด้านสายศิลป์โดยไม่เปลี่ยนใจแน่ๆแล้วละก็ เลือกเรียนสายศิลป์ไปดีกว่าครับ จะมาเรียนสายวิทย์ให้หนักสมองไปทำไมกัน อีกทั้งการเรียนภาษาที่เข้มข้นกว่าสายวิทย์นั้นมีประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตอย่างแน่นอนครับ

2. ชอบวิชาอะไร?

ถ้ายังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามแรกก็ลองดูคำถามที่ 2 ครับ ว่าชอบวิชาอะไร ถ้าหากว่าชอบ วิทย์-คณิต ชอบการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ชอบการคำนวณ ชอบการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ก็เลือกเรียนวิทย์-คณิตครับ เพราะคนที่มีความชอบทางด้านนี้นั้นมีแนวโน้มที่จะเลือกเรียนต่อในคณะที่เกี่ยวข้องกับวิทย์-คณิต อีกทั้งการได้เรียนในสิ่งที่ชอบนั้นก็ไม่รู้สึกว่าหนักและเหนื่อยอีกด้วย ส่วนน้องๆที่ชอบด้านภาษา ไม่ชอบคำนวณ ไม่ชอบการทดลองทางวิทยาศาสตร์แล้วละก็ สายศิลป์ น่าจะเป็นคำตอบสำหรับน้องๆครับ เพราะเลือกเรียนสายวิทย์ไปนอกจากจะไม่มีความสุขแล้วยังอาจจะทำออกมาได้ไม่ดี ทำให้เพิ่มความเครียดอีกด้วย

3. ทำวิชาอะไรได้ดี

ถ้า 2 คำถามแรกยังไม่ได้คำตอบลองถามตัวเองอีกคำถามครับว่าน้องสามารถทำวิชาอะไรได้ดี ถ้าหากว่าทำคะแนนวิชาวิทย์-คณิตได้ดีก็แสดงว่าน้องมีความสามารถทางด้านนี้ดังนั้นก็อาจจะเลือกเรียนวิทย์-คณิต แต่ถ้าทำคะแนนวิชาด้านภาษาได้ดี ก็ควรจะเลือกเรียนสายศิลป์ครับ

4. ถ้าไม่รู้จริงๆละ

ถ้าหากว่าทั้ง 3 คำถามด้านบนไม่สามารถให้ข้อสรุปแก่น้องๆได้ พี่แนะนำอย่างนี้ครับ ถ้าหากว่าน้องพอจะชอบวิทย์-คณิตอยู่บ้าง ทำวิทย์-คณิตได้ดีอยู่บ้าง และไม่ทุกข์มากที่จะต้องเรียนวิทย์-คณิตก็เลือกเรียนวิทย์-คณิตไปก่อนครับ เพราะแม้ว่าการเรียนวิทย์-คณิตนั้นจะหนักกว่าสายศิลป์ค่อนข้างมาก

แต่โอกาสในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นหลากหลายกว่าสายศิลป์ ดังนั้นเมื่อถึงม.6ที่น้องๆต้องเลือกเรียนต่อโอกาสในการเลือกเรียนก็จะเยอะกว่าเด็กสายศิลป์ ส่วนน้องๆคนไหนที่รู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆก็วิทย์-คณิต เรียนแล้วต้องทุกข์มากแน่ๆ ก็เลือกเรียนสายศิลป์ครับ

แม้ว่าโอกาสในการเลือกเรียนต่อจะน้อยกว่า แต่ก็ใช่ว่างานของเด็กสายศิลป์จะด้อยกว่าเด็กสายวิทย์นะครับ สุดท้ายนี้อยากจะฝากน้องๆให้คิดให้ดีๆก่อนเลือกสายการเรียนนะครับ เพราะนี่คือตัวกำหนดคณะที่เราจะเรียนต่อ และงานที่เราจะทำในอนาคตได้เลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตามใครที่เลือกสายผิดไปแล้วก็อย่าพึ่งคิดน้อยใจไปครับ ขอให้หาข้อดีของสายนั้นๆให้เจอแล้วนำข้อดีนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะแต่ละสายก็มีข้อดีที่แตกต่างกันอยู่ทั้งคู่แหละครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.Top-Atutor.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook