เตือน "อ้วน-แก่-เด็ก-หญิงท้อง" ระวังฮีตสโตรก

เตือน "อ้วน-แก่-เด็ก-หญิงท้อง" ระวังฮีตสโตรก

เตือน "อ้วน-แก่-เด็ก-หญิงท้อง" ระวังฮีตสโตรก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 5 เมษายน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ประเทศไทยจะมีอากาศร้อนจัด เสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดด หรือโรคฮีตสโตรก กลุ่มเสี่ยง คือ คนที่ออกกำลังกาย หรือทำงานในอากาศร้อนจัด ระบบระบายอากาศไม่ดี ใส่เสื้อผ้าหนาหรือไม่ระบายเหงื่อ ดื่มน้ำน้อย หญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคอ้วน ทั้งนี้ โรคฮีตสโตรกเกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ทัน ทำให้มีอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส รวมถึงการขาดน้ำและเกลือแร่ร่วมด้วยเป็นเวลานาน สัญญาณสำคัญคือ ไม่มีเหงื่อ ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ ต่างจากการเพลียแดดทั่วไปที่จะพบมีเหงื่อออกด้วย ผู้ที่เป็นฮีทสโตรกจะกระหายน้ำมาก อ่อนเพลีย เมื่อยล้า คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ความดันต่ำ หน้ามืด หายใจเร็ว และอาจรุนแรงถึงขั้น เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว ตับและไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำให้ช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้
 
"ควรหลีกเลี่ยงการทำงาน หรือออกกำลังกายกลางแดดเป็นเวลานาน หากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำ หรือแม้ว่าจะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ควรออกกำลังกายในที่ร่ม เช่น โรงยิมหรือเลือกออกกำลังกายในช่วงเช้าและช่วงเย็น นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ควรสวมเสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี รวมถึงการใช้โลชั่นกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน และควรทาซ้ำบ่อยๆ ถ้าต้องถูกแดดนานๆ สำหรับเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคอ้วนต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ สำหรับประชาชนทั่วไปหากพบผู้ที่มีอาการตัวร้อนจัด แต่ไม่มีเหงื่อออกมาก หน้าซีด ตะคริว อ่อนเพลีย มึนงง ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เป็นลม สามารถดูแลเบื้องต้นด้วยการนำเข้าที่ร่ม ให้นอนราบและยกเท้าสูงทั้ง 2 ข้าง ถอดเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ และใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน และจากนั้นรีบนำส่งแพทย์" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook