"อเล็กซ์ เฟซ" จากเด็กมือบอนสู่ "สตรีตอาร์ต" มือโปร

"อเล็กซ์ เฟซ" จากเด็กมือบอนสู่ "สตรีตอาร์ต" มือโปร

"อเล็กซ์ เฟซ" จากเด็กมือบอนสู่ "สตรีตอาร์ต" มือโปร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คนรุ่นใหม่เข้ามาสร้างสรรค์ผลงานสตรีตอาร์ตกันมากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯมีผลงานเกิดขึ้นมาอีกมากมายที่ได้รับการยอมรับ เพราะเป็นการพูดถึงเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขั้นในสังคม สะท้อนผ่านสีที่พ่นลงไปบนกำแพง เพื่อบอกเล่าความคิดของศิลปินแต่ละคน

หนึ่งในคนที่หลงรักในงานสตรีตอาร์ตที่มีผลงานโด่งดังได้ไปโชว์ฝีมือสตรีตอาร์ตระดับนานาชาติปี 2015 มีถึง 3 งานใหญ่ ๆ Solidarity Thai-Singapore Street Art Project. Singapore, Tokyo Art Fair, Japan, Internation Group Show "Different Stroke" Penang, Malaysia และยังเคยได้ไปร่วมงานสตรีตอาร์ตที่งาน Moniker Art Fair, Truman Berwery, London, UK ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมสตรีตอาร์ตทั่วทุกมุมโลกไว้ และยังมีอีกหลายงานที่ยังไม่ได้พูดถึงของ "พัชรพล แตงรื่น" หรือในแวดวงสตรีตอาร์ตเรียกเขาว่า "อเล็กซ์ เฟซ"

"ความจริงอเล็กซ์นี่ไม่ใช่ชื่อจริง เป็นชื่อมาจากสมัยเรียน ย้อนกลับไปพวกเรียนศิลปะก็จะมีชื่อเหมือนละลายพฤติกรรม ผมเลยได้ชื่ออเล็กซ์ตั้งแต่เรียนลาดกระบัง ส่วนเฟซมาจากที่ผมพ่นหน้าของผม พ่นหน้าผมโผล่ออกมาครึ่งหนึ่งของกำแพง ซึ่งตอนนั้นเป็นเอกลักษณ์งานของผม แล้วผมก็เซ็นชื่อไว้ที่ผนัง อเล็กซ์มันดูแบบเชย ๆ ก็เลยกลายเป็น "อเล็กซ์ เฟซ" มันดูเฟี้ยวกว่า

"ผมเริ่มสนใจกราฟฟิตี้ตั้งแต่สมัยเรียนต้น ๆ ปี 2 ช่วงนั้นผมเล่นสเกตบอร์ด ชอบฟังดนตรีฮิปฮอป และก็เหมือนกับวัฒนธรรมของกราฟฟิตี้มันก็จะมาควบคู่กับดนตรีฮิปฮอป ที่กำลังบูมมากย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ผมก็ได้ไปซื้อหนังสือสตรีตอาร์ตมาดูก็เลยชอบ จากนั้นผมก็เลยไปซื้อสีมาพ่นซะเลย เริ่มจากการพ่นรถเก่าก่อน จากนั้นก็เริ่มไปพ่นกำแพงตึกร้าง แต่ผมพ่นเกือบทุกที่ทุกมุมที่ลาดกระบัง จนเขาด่าเราด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่าเป็นพวกเหลือขอบ้าง มือบอนบ้าง"

อเล็กซ์ เฟซ มองว่า สตรีตอาร์ตมันก็เป็นแนวคิดที่เสียดสีสังคม เรื่องราวที่เกิดขึ้นหรือข่าวสารบางทีก็เป็นบริบททางสังคม ถ้าดูงานผมบางทีจะเหมือนน่ารัก แต่แฝงด้วยการเสียดสีกัดจิกผสมเข้าไปในงานด้วย

"ผมก็ได้พ่นหน้าตัวเองมานานถึง 7 ปี ผมก็เริ่มเกิดความรู้สึกเบื่อ และช่วงนั้นผมก็มีลูกพอดี เราก็คิดว่าลูกเราจะเป็นยังไงในอนาคตตอนนี้เขาทำหน้าบูด ๆ เบี้ยว ๆ หลังจากนั้น ผมก็เริ่มพ่นหน้าเด็กที่ได้แรงบันดาลใจจากลูกสาวของผมเอง

จุดเด่นของงานผมก็คงเป็นหน้าเด็กที่มีความบูดเบี้ยวทางอารมณ์ แต่ก็มีบางงานที่อารมณ์ดีก็มี ถ้าพูดรวม ๆ คงเป็นเรื่องของเทคนิควิธีการ น่าจะอยู่ที่มิติแสงเงาในรูปที่เราสะท้อนออกมาได้โดดเด่น เรื่องของการเก็บรายละเอียด"

ศิลปินสตรีตอาร์ตบอกว่า งานของแต่ละคนนำไปเปรียบเทียบกันก็คงไม่ได้ เพราะแต่ละคนก็มีวิธีทำงานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนตัวเขาจะเน้นเรื่องน้ำหนักของสี มีเข้ม มีอ่อน มีแสงเงา ทำให้มันดูมีมิติมากขึ้น

ทำไมต้องเป็นกระต่าย?

"ที่จริงผมมีสัตว์หลายประเภท แต่ช่วงหลัง ๆ ผมทำกระต่าย ผมรู้สึกว่ากระต่ายมันเป็นสัตว์ที่ความหมายของมัน คือ เหยื่อ ผมก็เลยรู้สึกว่าเด็กในประเทศไทยก็เป็นเหยื่อของผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์ หรือเป็นเหยื่อทางด้านการคุกคามทางเพศ แต่กระต่ายก็ไม่ได้จะมีแค่ความหมายเดียว อาจจะคิดแตกต่างกันก็ได้

ถ้าคุณมองว่ากราฟฟิตี้มันผิด มันเป็นทรรศนะอุจาด แล้วป้ายโฆษณาที่เราเห็นตามท้องถนน ผมมองว่ามันไม่น่ามอง จบที่การขายของ เพราะทุกวันนี้มันก็ไปจบที่ทุนนิยมหมด กลายเป็นว่าผมก็เลยต้องการทำงานให้ดีขึ้น ผมเลยไปขอพื้นที่ดีกว่า หลัง ๆ ผมก็เลยพ่นหน้าเด็ก เพราะเด็กมันน่ารัก สามารถจะดึงคนมาดูได้ แต่ให้เขาคิดต่อ และเสียดสีการคุกคามเด็กในสังคมสะท้อนการละเมิดสิทธิ์เด็ก"

ส่วนงานล่าสุด อเล็กซ์ เฟซ ไปพ่นที่คาเฟ่แคนทารี 304 เขาเลือกภาพที่ให้ดูเข้ากับร้านเค้กแสนอร่อยด้วยการเติมภาพตรงห้องน้ำ โดยการทำเป็นเค้กแบบเลอะ ๆ ส่วนภาพที่เด็กนอนมีความสุขกับการดื่มชาจนชาหก ส่วนภาพข้างล่างก็เป็นเด็กนั่งอยู่บนเค้ก กำลังมีความสุขกับการดื่มเครื่องดื่ม

เด็กนี้มีชื่อไหม ?

"ความจริงผมก็ไม่เคยตั้งชื่อนะ แต่ถ้าจะเรียกก็น้องมาร์ดีละ เพราะเป็นชื่อลูกสาวของผม"

คนที่สนใจสตรีตอาร์ตมันต้องแลกมาด้วยการทำงานหนัก ความเหนื่อย ต้องมีความขยัน การทำงานแบบนี้ไม่มีทางลัด เราก็ต้องขยันกว่าคนอื่น ไม่มีใครอยู่เฉย ๆ แล้วจะประสบความสำเร็จ มันต้องชอบในสิ่งที่เราอยากจะทำ การประสบความสำเร็จมันก็อยู่ที่ใจของเราล้วน ๆ ที่เราทำมันอย่างเต็มที่

พบกับผลงานล่าสุดของผมได้แล้วที่คาเฟ่แคนทารี 304 ร้านอาหารสุดแนวตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงแรมแคนทารี 304 จ.ปราจีนบุรี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook