30 เทคนิคดีๆ เพื่อใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือค้นหาทางการศึกษา

30 เทคนิคดีๆ เพื่อใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือค้นหาทางการศึกษา

30 เทคนิคดีๆ เพื่อใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือค้นหาทางการศึกษา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook




กูเกิล ถือเป็นคลังค้นหาความรู้ที่ใช้เพียงปลายนิ้วในการเปิดโลกทรรศน์ ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถเป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดีหากรู้จักนำไปใช้ 30 เทคนิคดีๆ ต่อไปนี้จึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้แบบพึ่งตนเองโดยการจัดการขบวนการค้นหาในโลกแห่งดิจิตอลที่กำลังเจริญเติบโตและมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

1. ระบุแหล่งที่มาของข้อมูลที่สนับสนุนแนวคิด และจัดอันดับในแง่ของความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล

2. ค้นหาแหล่งต้นต่อที่มาของแนวคิดดั้งเดิม

3.ระบุถึงผู้เชี่ยวชาญที่สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งที่มาของข้อมูลได้

4.ค้าหาคำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น ชื่อ,วัน,หรือเรื่องอื่นที่ต้องการรู้ ในขณะที่ลองอ่านข้อความที่ปรุงแต่งและข้อความที่ไม่ปรุงแต่งเพื่อการอ่านศึกษาบริบทของเนื้อหา

5.ค้นหาและระบุถึงแหล่งที่ตั้งของชนิดเอกสารต่างๆ ที่อยู่ในหัวข้อเดียวกันหรือคล้ายกัน และวิเคราะห์ว่าเอกสารชิ้นไหนน่าสนใจมากที่สุดและมีเหตุผลใดมารองรับ

6.แบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่มพร้อมให้แบบสอบถาม เพื่อค้นหาแหล่งที่มาของข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดในหัวข้อนั้นๆ

7.ให้นักเรียนบันทึกทันทีถึงเหตุผลในการคลิกเข้าถึงเนื้อหานั้นๆ ในขณะที่กระโดดข้ามเนื้อหาอื่นๆ

8. อธิบายถึงข้อสำคัญที่สุดในการใช้กูเกิลและมีความแตกต่างกับห้องสมุดอย่างไร

9.ระบุถึงผลการค้นหาที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ และอธิบายถึงรูปแบบการค้นหาที่ได้ผลว่าคืออะไร

10.แก้ต่างหรือโจมตีผลการค้นหาที่ล้าสมัย

11.ระบุถึงความต้องการเนื่อหาที่เผยแพร่โดยการค้นหาโพสต์ "ภายใน 7 วันที่ผ่านมา" และวิเคราะห์ถึงคุณภาพของข้อมูลตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้

12.ลองใช้การค้นหาด้วยเสียงในสถานการณ์การเรียนรู้แบบเคลื่อนที่

13.ใช้การค้นหาขั้นสูงเพื่อกรองผลการค้นหาด้วยระดับการอ่าน

14.ระบุผู้เชี่ยวชาญซึ่งสามารถให้ข้อมูลทั้งในขบวนกรค้นหาแบบออนไลน์และออฟไลน์

15. หาชุดของข้อมูลที่เข้ากับบริบทของหัวข้อทั้งหลังและก่อนการค้นหา (เช่น Learnist, Pinterest ฯลฯ )

16. ใช้ผลการค้นหาของกูเกิลและใช้กลยุทธ์ QFT ในการจำกัดหัวข้อให้แคบลงจากนามธรรมปลายเปิดเป็นรูปธรรม

17.ลองจินตนาการถึงหน้าตาของกูเกิลว่าจะเป็นเช่นไรในปี 2023 โดยใช้กฎของมัวร์และแนวโน้มในช่วงตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา

18. ลองเริ่มต้นจัดการตราสินค้าออนไลน์ของตัวเอง ด้วยการวัดจากผลการค้นหากับเป้าหมายที่เป็นมืออาชีพและความเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงทำความเข้าใจว่าทำไมผลลัพธ์ที่ออกมาจากกูเกิลถึงไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์

19.ใช้แนวโน้มของกูเกิลและการกรองข้อมูลผลการค้นหาตามวันที่ เพื่ออธิบายการเสื่อมและความเคลื่อนไหวของเนื้อหาที่มีคุณภาพ

20.ค้นหาเว็บไซต์สื่อสังคมเพื่อเป็นแหล่งที่มาของข้อมูลและแนวโน้มของสื่อที่มีผล

21.ปกป้องหรือวิจารณ์แนวโน้มการพยากรณ์ของกูเกิล โดยใช้ข้อมูลทั้งจากการค้นหาที่มีอยู่และแนวโน้มทางวัฒนธรรม

22.ใช้การค้นหาอัจฉริยะในการค้นหาและใช้หน้า "Works Cited" ของวารสารทางวิชาการที่น่าสนใจ เพื่อใช้แหล่งข้อมูลเหล่านี้ในการค้นหาในอนาคต

23.ทดลองใช้คำค้นหาที่หลากหลายและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ถ้อยคำและความน่าเชื่อถือของการค้นหา

24.แก้ต่างหรือวิจารณ์กระบวนการของคำถามทั้งหมดของกูเกิล เมื่อเทียบกับคำและวลีที่สำคัญ

25.ใช้ "Define:_____" ในการค้นหาความหมายของคำ แทนที่จะเสียเวลาเข้าเว็บไซต์แปลคำศัพท์

26. ใช้ "วลี" ในการค้น เพื่อค้นหาเนื้อหาหรือคำพูดที่แตกต่างที่ใช้กันทั่วอินเตอร์เน็ต และเว็บไซต์ไหนสามารถเป็นแหล่งที่มาและเว็บไซต์ไหนที่ไม่

27.คาดการณ์ผลกระทบของการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาที่มีต่อคุณภาพของผลการค้นหา

28.ออกแบบร่างหน้าผลการค้นหาของกูเกิล เพื่อให้เห็นภาพของข้อมูลที่ค้นหาเพิ่มมากขึ้น บนหน้าจอแสดงผลที่มีขนาดแตกต่างกัน

29.คาดเดาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอัตโนมัติ จากผลการค้นหาโดยใช้ตัวอย่างที่เฉพาะ เจาะจง เช่นวิธีการที่จะสามารถสนับสนุนหรือหันเหความสนใจของขั้นตอนการค้นหา

30.ในตอนท้ายของโครงการวิจัย ให้นักเรียนลองอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างการค้นหาและการวิจัย


เครดิต มูลนิธิศักดิ์พรทรัพย์ www.kusol.org , http://www.kusol.org/article/detail/id/8859/
ที่มา http://www.teachthought.com/the-future-of-learning/technology/30-innovative-ways-to-use-google-in-education/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook