​แชทมือถือและดูทีวีไปด้วยทำให้ผลการเรียนมีแนวโน้มแย่ลง

​แชทมือถือและดูทีวีไปด้วยทำให้ผลการเรียนมีแนวโน้มแย่ลง

​แชทมือถือและดูทีวีไปด้วยทำให้ผลการเรียนมีแนวโน้มแย่ลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเล่นส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือและการดูโทรทัศน์จัดว่าเป็นพฤติกรรมที่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ แต่การทำทั้งสองอย่างไปพร้อม ๆ กันนี้อาจจะไม่ดีแน่ เมื่อนักวิจัยได้ค้นพบว่า เด็กวัยรุ่นที่ทำสองสิ่งนี้พร้อม ๆ กันมักจะมีผลการเรียนที่ไม่ดี

เอมี เอส. ฟินน์ นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดา เผยว่า ยิ่งวัยรุ่นแบ่งสมาธิไปทำงานหลาย ๆ อย่าง เช่น เล่นโทรศัพท์มือถือ วิดีโอเกม หรือทีวี ไปพร้อม ๆ กันนั้น จะทำให้คะแนนวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษลดลงไป โดยนักวิจัยพบว่า วัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเหล่านี้มักจะเป็นผู้ที่หุนหันพลันแล่น และมีความทรงจำเพื่อการทำงานที่แย่ลง โดยงานวิจัยนี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ Psychonomic Bulletin & Review แล้ว

พฤติกรรมเหล่านี้ เรียกว่า "การใช้สื่อหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน" เช่น การดูโทรทัศน์ไปพร้อมกับการส่งข้อความด้วยสมาร์ทโฟน พฤติกรรมเหล่านี้นับว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา และเกิดขึ้นเป็นประจำในหมู่วัยรุ่น แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการศึกษาผลกระทบของพฤติกรรมเหล่านี้ต่อการเรียนรู้ของมนุษย์ ความสามารถในการเรียนที่โรงเรียน และบุคลิกภาพ

นักวิจัยจึงได้เริ่มศึกษาโดยให้อาสาสมัครที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 73 คน ในเขตบอสตันตอบแบบสอบถามการใช้สื่อต่าง ๆ โดยมีการถามจำนวนชั่วโมงในหนึ่งสัปดาห์ที่ใช้ไปกับการดูโทรทัศน์หรือวิดีโอ ฟังเพลง เล่นวิดีโอเกม อ่านสื่อสิ่งพิมพ์หรืออิเล็กทรอนิกส์ คุยโทรศัพท์ ส่งข้อความแชท ทำงานประดิษฐ์หรือเขียนหนังสือ

ในการวัดความทรงจำสำหรับการทำงานนั้น นักวิจัยได้ทดสอบความว่องไว คำศัพท์ ระดับของความอดทน สติ และความหุนหันพลันแล่น ตลอดจนได้ถามผู้เข้าร่วมการทดลองว่า มีความเชื่อว่าความสามารถของตนนั้นจะคงอยู่กับที่หรือจะสามารถพัฒนาขึ้นมาได้ในอนาคต

นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้สืบค้นข้อมูลในการสอบภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์จากระบบการประเมินแมสซาชูเซ็ตส์เมื่อปี 2012 ของอาสาสมัครทุกคนด้วย

โดยรวมแล้ว ผู้เข้าร่วมการทดลองที่บอกว่าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการใช้สื่อต่าง ๆ จะใช้เวลาดูโทรทัศน์เฉลี่ย 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมีแนวโน้มว่าจะทำหลายอย่างพร้อมกันคิดเป็นเวลา 25 เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ดูโทรทัศน์

ผลการศึกษาออกมาว่า ลักษณะการใช้สื่อนอกโรงเรียนนั้นมีความสัมพันธ์กับคะแนนสอบที่โรงเรียนด้วย โดยวัยรุ่นที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการใช้สื่อหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กันจะมีคะแนนทางการเรียนที่น้อยกว่าคนอื่น ๆ โดยมีคะแนนในการทดสอบความทรงจำเพื่อการทำงานที่น้อยกว่า มักจะเป็นคนหุนหันพลันแล่น และมักจะเชื่อว่าความฉลาดของตัวเองนั้นไม่สามารถพัฒนาได้

ก่อนหน้านี้เคยมีการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างระบบการเรียนรู้กับการใช้สื่อหลายอย่างพร้อมกันในผู้ใหญ่ และงานวิจัยนี้ก็ได้ตอกย้ำว่า ผลกระทบดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นแล้ว

"เราพบว่าพฤติกรรมการใช้สื่อหลายอย่างพร้อมกันนั้นเกี่ยวข้องกับผลการเรียนที่แย่ลง ความสัมพันธ์นี้อาจจะเป็นเพราะความสามารถในการบริหารตนเองด้อยลงไป และมีความหุนหันพลันแล่นมากขึ้น" ฟินน์สรุป

ดังนั้นแล้ว การพัฒนาการเรียนรู้จึงไม่ได้อยู่ที่การควบคุมเวลาที่ใช้ไปในการดูโทรทัศน์ เล่นวิดีโอเกม หรือใช้มือถือเท่านั้น แต่ต้องดูที่เวลาที่ทำหลาย ๆ อย่างนี้ด้วยว่า มีการทำพร้อมกันหรือไม่

"การหาสาเหตุของเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยาก เพราะว่าการใช้สื่อหลายอย่างพร้อมกันนี้อาจจะเป็นผลมาจากการที่ระบบการเรียนรู้ได้เปลี่ยนไปแล้วก็ได้ หรืออาจจะไม่เกี่ยวกันเลยก็ได้" ฟินน์เผย โดยย้ำถึงความสำคัญที่จะต้องมีการวิจัยต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

อ้างอิง: Springer. (2016, May 18). Kids who text and watch TV simultaneously likely to underperform at school: Juggling different types of media at one time is associated with impulsiveness in teens. ScienceDaily. Retrieved June 12, 2016 from www.sciencedaily.com/releases/2016/05/160518102746.htm

งานวิจัย: Cain, M.S., Leonard, J. A., Gabrieli, J. D. E., and Finn, A. S. Media multitasking in adolescence. Psychonomic Bulletin & Review, 2016 DOI: 10.%u200B3758/%u200Bs13423-016-1036-3

ภาพจาก: 84444.com

ขอบคุณที่มา www.vcharkarn.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook