โรงเรียนญี่ปุ่นผุด "โครงการอาหารกลางวัน" ที่ให้อะไรมากกว่า...ความอร่อย

โรงเรียนญี่ปุ่นผุด "โครงการอาหารกลางวัน" ที่ให้อะไรมากกว่า...ความอร่อย

โรงเรียนญี่ปุ่นผุด "โครงการอาหารกลางวัน" ที่ให้อะไรมากกว่า...ความอร่อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรงเรียนในญี่ปุ่นริเริ่มโครงการอาหารกลางวัน โดยเน้นอาหารที่มีคุณประโยชน์พร้อมให้ความรู้ด้านโภชนาการกับเด็กนักเรียนในโครงการ Hokuiku หรือ Food and nutrition education


โครงการดังกล่าวนี้ เริ่มขึ้นในโรงเรียนประถม เด็ก ๆ จะได้มีโอกาสทำความเข้าใจว่า พวกเขารับประทานอะไรเข้าไปแล้วมันมีผลอย่างไรกับร่างกาย Masahiro Oji ผู้บริหารงานด้านสุขภาพในโรงเรียนของทางรัฐบาลญี่ปุ่น บอกว่า ญี่ปุ่นมีจุดยืนที่จะทำให้อาหารกลางวันในโรงเรียนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการให้การศึกษา

และต้องการทำโครงการให้เป็นแบบอย่างสำหรับโรงเรียนทั่วโลก อาหารกลางวันในโรงเรียนประถม ควรเป็นสิ่งที่ดี ไม่รีบเร่ง เด็ก ๆ ควรมีเวลาเพียงพอที่จะนั่งลงรับประทานอย่างสบาย ๆ ขณะเดียวกัน เด็ก ๆ ก็จะช่วยเสิร์ฟอาหารให้กันและกัน เป็นการผลักดันให้เด็ก ๆ รู้จักช่วยเหลือตัวเอง นอกจากนี้ยังไม่มีแม่บ้านคอยเก็บจานชาม เด็ก ๆ จะต้องเก็บด้วยตัวเองหลังรับประทานเสร็จ

ข้าว เคยเป็นอาหารหลักในช่วงเวลานับสิบปีก่อน แต่ช่วงหลังปี 1970 ก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น และโครงการนี้ ไม่เพียงนำข้าวกลับมาเป็นหลัก แต่ยังมีซุป และกับข้าวอย่างอื่น เช่น มิโซซุป ปลาทอด นม ข้าว หมูทอด และผัก ทางเลือกอื่นก็มีอีกเช่น เต้าหู้ สลัด แอปเปิล เป็นต้น

ทางโรงเรียนประถม Jinego ใน Akita มีอาหารกลางวันที่หลากหลาย เช่น ไก่ ข้าว มิโซ ผักสลัด นม และส้มเขียวหวาน บางครั้งก็มีข้าวและแกงกระหรี่ พร้อมนมและผลไม้ ส่วนโรงเรียนอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ก็ยังมีอาหารเกาหลี และอิตาเลียนให้เด็ก ๆ ได้รับประทานสัปดาห์ละครั้งห่างออกไปอีกประมาณ 25 ไมล์ โรงเรียนมัธยมต้น Yashima ก็ได้ให้เด็ก ๆ รับประทานข้าว เนื้อหมู ไข่ โยเกิร์ต เต้าหู้ ซุปสาหร่าย และนม เป็นอาหารกลางวัน

ผลก็คือไม่เพียงแต่เด็ก ๆ จะมีรูปร่างที่น่าพึงพอใจเท่านั้น แต่ได้เรียนรู้ทั้งเรื่องความรับผิดชอบ และนิสัยในการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งคนญี่ปุ่นนั้น ขึ้นชื่อว่ามีอายุยืนที่สุดในโลกอยู่แล้ว อีกทั้งอัตราการเป็นโรคอ้วนก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกอีกด้วย

หลังเสร็จมืออาหารกลางวัน เด็ก ๆ ก็ยังไม่ต้องคร่ำเคร่งกับการเรียน เพราะเป็นช่วงเวลาของการนอนหลับพักผ่อนอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook