ทำความเข้าใจ..คำว่า Slow life พร้อม 5 วิธี ง่ายๆในการใช้ชีวิต

ทำความเข้าใจ..คำว่า Slow life พร้อม 5 วิธี ง่ายๆในการใช้ชีวิต

ทำความเข้าใจ..คำว่า Slow life พร้อม 5 วิธี ง่ายๆในการใช้ชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ชีวิต Slow life คือ การใช้ชีวิตไปอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ ไม่ต้องตามทันกระแสเทรนด์ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา อาจจะเรียกได้ว่าเป็นชีวิตที่เรียบง่ายของแต่ละคน ไม่ต้องปวดหัวกับการทำงาน”

istockphoto

เพราะความหมายมันดูสวยหรูแบบนี้เนี่ยละ ทำให้วัยรุ่นที่กำลังเรียนใกล้จะจบ ต้องการที่จะมีชีวิตสโลว์ไลฟ์ โดยที่ไม่ต้องไปทำงานติ๊กบัตรเข้า-ออกเป็นเวลา ขอแค่กินกาแฟราคาแพงๆ ใช้ของราคาแพงๆ ทุกอย่างดูดีไปหมด ซึ่งตรงนี้ไม่ผิดถ้าเรามีรายได้ที่แน่นอนและไม่เบียดเบียนเงินของครอบครัว แต่หากว่าคุณยังไม่มีเงินเป็นของตัวเองละก็ “ความฝันในการใช้ชีวิต Slow life ที่สวยหรูอาจจะต้องหยุดคิดไปสักพัก”

เรามาดูประเภทของการใช้ชีวิต Slow life กันดีกว่า เพราะการใช้ชีวิตและความพอใจของคนไม่เหมือนกัน ทาง Sanook! Campus จะขอยกตัวอย่างหลักๆ 2 ประเภท

1. Slow life แบบเรียบง่าย ใช้ชีวิตในต่างจังหวัด อยู่กับธรรมชาติ 
หนึ่งในความฝันของคนวัยทำงาน เพราะการใช้ชีวิตในกรุงเทพ ซึ่งเป็นที่คนมากหน้าหลายตาเข้ามาทำงาน มีทั้งรถติด ฝุ่นควัน เสียงดัง ซึ่งพอเจอทุกวันก็ทำให้หลายคนรู้สึกเบื่อและอยากจะหนีไปเลยทีเดียว บางคนออกจากงานเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างจังหวัด นั่งจิบกาแฟ ทำสวนเป็นงานอดิเรก แต่การที่จะทำแบบนี้ได้ต้องแน่ใจว่าคุณ “ต้องมีเงินเก็บ” ในระดับที่อยู่ได้ยาวนานเท่าที่คุณวางแผนจะอยู่ เพราะถ้าคุณไม่มีเงินเก็บละออกไปซะเฉยๆนี่ ฝันคงสลายแน่นอน

2. Slow life แบบคนเมืองกรุง ของใช้หรูหรา ไปเที่ยวต่างประเทศ 
อาจจะเป็นความฝันของนักศึกษาจบใหม่และคนทำงานอีกหลายๆคน ซึ่งความคิดแบบนี้ไม่ผิด อย่างที่บอกไปว่าคนเรามีความชอบไม่เหมือนกัน บางกลุ่มอาจจะชอบชีวิตในเมืองที่ไปเจอเพื่อนง่ายๆ กินอาหารดีๆ ไปเที่ยวในที่ที่อยากไป โดยไม่ต้องพะวงเรื่องงาน แน่นอนละว่าการที่จะทำแบบนี้ได้ “ต้องมีเงิน” รายได้อาจจะมาจากการทำงาน หรือการเปิดธุรกิจส่วนตัว แต่ก็มีบางคนยอมที่จะจ่ายมากเพื่อซื้อความรู้สึก Slow life ในเวลาสั้นๆแทนที่จะอดทนเพื่อที่จะใช้ Slow life ในระยะยาว

เมื่ออ่านประเภทของชีวิต Slow life กันไปแล้วคงจะคิดกันใช่ไหมคะว่า “ตอนนี้ยังไม่มีเงิน กว่าจะเก็บได้มากขนาดนั้นคงจะแก่พอดี” ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะทาง Sanook! Campus มีวิธีง่ายๆในการใช้ชีวิต Slow life ที่เซฟทั้งเงินทั้งเวลา สำหรับคนที่อยากจะลองดูสักครั้ง เรามาดูกันเลยดีกว่า

istockphoto

1. ดึงตัวเองออกมาจากโลกออนไลน์สัก 1 วัน
คิดว่าทุกคนคงจะรู้ตัวและเคยชินไปแล้วว่าปัจจุบันนี้เราขาดโลกออนไลน์ไม่ได้ เพราะมีทั้งเพื่อน งาน และข้อมูลข่าวสารอยู่ในนั้น เพราะแบบนั้นเราจึงไม่แนะนำให้เลิกเล่นโซเซียลไปเลยซะทีเดียว แต่เราอยากจะเสนอว่าให้ลองหยุดเล่น สัก 1 วัน อาจจะเป็นวันที่หยุดงาน หรือ ไม่มีเรียน แล้วหันมาทำกิจกรรมที่ชอบเช่น อ่านหนังสือ ออกไปดูหนัง ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง แล้วคุณจะค้นพบว่าเวลาที่ไม่ได้เล่นอินเทอร์เนตนั้นมันผ่านไปช้ามาก ยังเหลือเวลาให้เราทำอะไรที่อยากทำในวันหยุดอีกเยอะแยะเลยทีเดียว

2. ออกไปสูดอากาศธรรมชาติ
วิธีนี้อาจจะเหมาะกับคนที่มีรถ หรือ คนที่ไม่เกี่ยงวิธีเดินทาง เพราะเราจะแนะนำให้คุณไปหาสถานที่สวยๆ วิวดีๆ ที่คุณอยากไป อาจจะเป็น ภูเขา ทะเล หรือ สวนสาธารณะที่คุณเดินผ่านมันไปทุกๆวัน สูดอากาศธรรมชาติให้เต็มปอด อาจจะเพิ่มพร็อพสุดฮิตอย่าง “กาแฟโบราณ” ก็ดูไม่เลวนะ

3. ค่อยๆทำทีละอย่าง
อย่างที่บอกไปข้างต้น Slow life คือ การใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบ แต่นั่นก็ต้องหมายความว่าเรามีความพร้อมในการที่จะทำสิ่งต่างๆมาก่อนแล้ว จะขอยกตัวอย่างง่ายๆคือ “การตื่นไปทำงาน หรือ ไปเรียน” เชื่อว่าช่วงชีวิตที่รีบเร่งของหลายคนก็จะเป็นช่วงนี้แหละ กว่าจะตื่นก็สายแล้ว ไหนจะต้อง อาบน้ำ แต่งตัว เตรียมกระเป๋าอีก สุดท้ายก็ไม่ได้กินข้าวเช้าและบางทีก็ลืมนั่นลืมนี่อีกต่างหาก

แล้วถ้าลองเปลี่ยนเป็นตอนกลางคืนเตรียมของในกระเป๋าให้เรียบร้อย เลือกชุดที่จะใส่วันพรุ่งนี้ และลองตื่นให้เช้ากว่าเดิมสัก 10-20 นาที แค่นี้คุณก็จะมีเวลาในตอนเช้าเพิ่มขึ้นอีกเยอะ สามารถกินมื้อเช้าได้ และเดินไปทำงานโดยที่ไม่ต้องสับเท้าเหมือนคนอื่นๆอีกต่อไป!

4. คิดบวก
การคิดบวกนี่ช่วยได้หลายอย่างจริงๆ บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องพยายามที่คิดทุกอย่างให้เป็นบวก แค่ไม่มองสิ่งแย่ๆ หรืออ่านแต่ข่าวที่มีผลลบกับจิตใจ อย่างการ ฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุ เรื่องเศร้าๆ เหล่านั้นจะทำให้คุณไม่สดชื่นจริงๆนะลองมาอ่านข่าวบวกๆดูบ้างเช่น หุ้นขึ้น (แต่ถ้าเราไม่ได้ซื้อไว้ก็ไม่เป็นไร…) หรืออาจจะเป็นเรื่องดาราที่ทำให้คุณรู้สึกขำขัน วิธีง่ายๆกับการรักษาจิตใจของตัวเองที่เราอาจจะมองข้ามกันมาตลอด

5. สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆผ่อนออกมา
วิธีนี้คงจะเหมาะกับทุกคนและทำได้ง่ายที่สุดกับ การหายใจเข้า-ออก ทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อย เครียด หรือ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ให้คุณลองสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆผ่อนมันออกมา ทำเรื่อยๆจนรู้สึกว่าสิ่งที่อัดอั้นอยู่ข้างในมันผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว วิธีนี้จะช่วยดึงสติของคุณให้กลับมาและเริ่มพิจารณาปัญหาที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งด้วยความรอบคอบมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

เป็นไงบ้างคะ! แต่ละวิธีนี่ง่ายจนคิดไม่ถึงเลยใช่หรือเปล่า ลองเอากลับไปทำแล้วมาบอกผลลัพธ์กันด้วยนะคะ แต่ถ้าใครยังรู้สึกว่าถ้ามีกาแฟดีๆสักแก้ว กระเป๋าดีๆสักใบ อาหารดีๆสักมื้อคงจะดี ก็ทำได้ค่ะ แต่อย่าลืมเหลือบมองเงินในกระเป๋าด้วยนะ เพราะไม่งั้นจากชีวิต “Slow life” คงจะเปลี่ยนเป็น “Fast life” แน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook