5 ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาของอเมริกา

5 ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาของอเมริกา

5 ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาของอเมริกา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนอเมริกันจำนวนมากต้องกู้ยืมเงินมาใช้เพื่อการศึกษา และตัวเลขการกู้ยืม ก็เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าครึ่ง จากเมื่อ 10 ปีก่อน จนเรียกได้ว่า เป็นตัวเลขที่สูงขึ้นเป็นประวัติการ คนหนุ่มสาวชาวอเมริกันเข้าเรียนในวิทยาลัยกันมากขึ้น ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาในระดับสูงก็เพิ่มมากขึ้น

มีการสำรวจเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาในอเมริกา ของ Pew Research Center ในปี 2016 พบข้อเท็จจริง 5 อย่าง เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของนักศึกษา ดังนี้

1. คนในวัยผู้ใหญ่ อายุต่ำกว่า 30 ปี ประมาณ 4 ใน 10 คน เป็นหนี้เพื่อการศึกษา โดยในกลุ่มนี้ ผู้ที่อายุระหว่าง 18-29 ปี ร้อยละ 37 บอกว่า เขาเป็นลูกหนี้ที่ดี แต่การกู้ยืมมาใช้เพื่อการศึกษานั้น ไม่เกี่ยวกับการใช้หนี้บัตรเครดิต การผ่อนบ้าน หรือการกู้ยื่มเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ในกลุ่มผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ช่วงต้นที่มีการศึกษาเหล่านี้ 53 เปอร์เซนต์ เป็นลูกหนี้เพื่อการศึกษา
สำหรับการกู้ยืมเพื่อการศึกษา ของผู้ที่มีอายุมาก คือระหว่าง 30 – 44 ปี นั้นอยู่ที่ 22 เปอร์เซนต์ แต่กลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไป มีเพียงแค่ 4 เปอร์เซนต์เท่านั้น จากการสำรวจของ National Center for Education Statistics ยังพบอีกว่า 2 ใน 3 ของกลุ่มคนอายุ 18 – 24 ปี กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ในช่วงระหว่างปี 2011-2012 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับช่วงปี 1989 – 1990

2. นักศึกษาที่กู้ยืม มีความหลากหลายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาที่เรียน จำนวนเงินที่กู้ยืมในระดับกลาง ๆ จะอยู่ที่ 17,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ในปี 2016 แต่บางส่วนก็กู้ยืมไม่ถึง 7,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และบาวส่วนก็กู้ยืมมากกว่า 43,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ความแตกต่างนี้ อธิบายได้ว่า อายุ และสาขาวิชามีความเกี่ยวข้อง หากเป็นการเรียนในระดับต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวนเงินกู้ยืมจะอยู่ที่ 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ระดับปริญาตรี ประมาณ 25,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และหากเป็นการเรียนในระดับสูงกว่าปริญญาตรี ตัวเลขการกู้ยืมจะอยู่ที่ราว 45,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนตัวเลขการกู้ยืมที่เป็นหลักแสนก็มีเช่นกัน แต่มีเป็นจำนวนน้อย

3. นักศึกษาระดับปริญญาตรีที่ยังอายุน้อย เป็นลูกหนี้เพื่อการศึกษา มากกว่าไม่เป็น และพวกเขาก็ต้องทำงานมากกว่า 2 อย่าง ผู้ใหญ่อายุ 25-39 ปี ประมาณ 1 ใน 5 ที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี และเป็นหนี้การศึกษา ทำงานมากกว่า 1 อย่าง แต่ทั้งนี้ ก็ยังพบข้อมูลว่า ผู้ที่ไม่เป็นหนี้การศึกษา ประมาณ 11 เปอร์เซนต์ ก็ทำงานหลายอย่างเช่นกัน นอกจากนี้ คนที่เป็นหนี้การศึกษานั้น มีความเป็นอยู่ที่ลำบากกว่าคนที่ไม่เป็นหนี้ โดยนักศึกษาที่เป็นหนี้ ร้อยละ 27 เท่านั้น ที่บอกว่า ตนเองมีความเป็นอยู่ที่สบาย ในขณะที่ผู้ที่ไม่เป็นหนี้ ร้อยละ 45 บอกว่า พวกเขาอยู่กันอย่างสบาย

4. ผู้ที่เรียนจบปริญญาตรี และเป็นหนี้อาศัยอยู่กับครอบครัวที่มีรายได้ดี กว่ากลุ่มผู้ที่ไม่จบปริญญาตรี คนรุ่นหนุ่มสาวเห็นว่า การกู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นการสร้างโอกาสเป็นการลงทุน เพื่อให้มีอนาคตที่ดีกว่า ซึ่งโดยเฉลี่ย คนอายุระหว่าง 25-39 ปี ที่เป็นหนี้เพื่อการศึกษานั้น ได้ปริญญาตรีและมีรายได้ในครัวเรือนสูง ทั้งรายได้ของตนเอง และคู่สมรส โดยประมาณ 65 เปอร์เซนต์ มีรายได้ครัวเรือนอย่างน้อย 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่ผู้ไม่มีปริญญาตรีเพียง 45 เปอร์เซนต์เท่านั้น ที่จะมีรายได้ในระดับนี้ และยังพบข้อมูลอีกด้วยว่า คนที่เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้น มีโอกาสที่จะแต่งงานมากกว่า และผู้ใหญ่ที่ไม่มีปริญญาตรี จำนวนถึง 31 เปอร์เซนต์ มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่คนจบปริญญาตรีและมีหนี้การศึกษาเพียง 8 เปอร์เซนต์เท่านั้น ที่มีรายได้ระดับนี้

5. เมื่อมาเทียบกับคนหนุ่มสาว ที่ไม่มีหนี้การศึกษา พบว่า คนที่มีหนี้การศึกษา เห็นคุณค่าของปริญญาที่ได้รับ คนอายุระหว่าง 25 ถึง 39 ปี ที่กู้ยืมเพื่อการศึกษาบอกว่า เขาได้ประโยชน์ด้านการเงินในระยาว ในขณะที่ผู้ที่ไม่ได้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีความคิดเห็นเช่นนี้น้อยกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook