โตเป็นสาวแล้ว "จัสมิน พัชราวลี" เน็ตไอดอลชาวกะเหรี่ยง โชว์พลังเสียงแนว Classic

โตเป็นสาวแล้ว "จัสมิน พัชราวลี" เน็ตไอดอลชาวกะเหรี่ยง โชว์พลังเสียงแนว Classic

โตเป็นสาวแล้ว "จัสมิน พัชราวลี" เน็ตไอดอลชาวกะเหรี่ยง โชว์พลังเสียงแนว Classic
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

jus

เน็ตไอดอลสาวน้อยตัวเล็กๆที่มีพลังเสียงที่ ใส หวาน ที่ทุกๆคนต้องรู้จักเธอ เธอคนนี้คือ "จัสมิน พัชราวลี" เด็กสาวชาวกะเหรี่ยงที่โด่งดังในโซเชี่ยลเป็นอย่างมาก

ด้วยความสดใส ร้องเพลงโคฟเวอร์ที่มีน้ำเสียงที่หวานจับใจ ทำให้เธอมีแฟนคลับและชาวโซเชี่ยลหลงรักเธออยู่เยอะเลยทีเดียว

น้องจัสมินมีชื่อเต็มว่า "พัชราวลี ดำรงค์ธรรมประเสริฐ" เป็นคนอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ปัจจุบันสาวน้อยคนนี้ ย่างเข้าอายุ 17 ปีเข้าไปแล้วเริ่มโตเป็นสาวเต็มที่ สาวน้อยจัสมินได้ศึกษาที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นม.5 เอกขับร้อง (Pre College) 

ซึ่งไม่นานมานี้สาวน้อยจัสมินได้ออกมาโชว์พลังเสียงในงาน YAMP-Young Artists Music Program เพื่อโชว์ความสามารถของตนเอง แถมฉีกแนวการโคฟเวอร์ของเธอ ด้วยการโชว์ขับร้องเพลง Classic อีกด้วยนะ น้ำเสียง สำเนียง บอกเลยว่าขั้นเทพและพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก

 s__124649506

วันนี้ทาง Sanook! Campus ได้สัมภาษณ์พิเศษเปิดความรู้สึกของน้องจัสมิน ในชีวิตการศึกษา และแนวทางที่ทำให้เธอพัฒนาขึ้นมามากขนาดนี้

Q: เหตุใดถึงเลือกมาศึกษา precollege ที่มหิดล เข้ามาเรียนยากไหม?

A: เหตุผลหลักๆเลยคือ เพราะเรารู้ตัวเองมานานแล้วว่าชอบและสนใจในดนตรีค่ะ ถ้าไม่เรียนดนตรีก็ไม่รู้จะเรียนอะไรแล้วเหมือนกันค่ะ(หัวเราะ) และที่นี่ก็มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์และอีกหลายอย่าง

ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำมาจากผู้ใหญ่ด้วยว่าน่าจะลองไปสอบดู ก่อนหน้านั้นไม่เคยเรียนทฤษฎีดนตรี ไม่เคยเรียนร้องเพลงมาก่อนเลย ก็ใช้เวลาเตรียมตัวอยู่ประมาณ 5-6 เดือนก่อนสอบเข้า

ที่พีคกว่าคือตอนแรกจะสอบเข้าเอกกีต้าร์คลาสสิค แต่ตอนไปทดลองเรียนมันดูยากกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย ไม่เหมือนเวลาเราดีดคอร์ดเล่นเฉยๆเหมือนที่เคยทำ และไม่เพียงพอกับเวลาที่เหลืออยู่ก่อนสอบเข้าด้วย

ก็เลยตัดสินใจสอบเข้าเอกขับร้อง เพราะว่าเราพอมีพื้นฐานอยู่บ้างค่ะ ซึ่งในรอบที่สอบปฏิบัติก็ถือว่าไม่ยากเท่าไหร่ แค่ตื่นเต้นค่ะ

ตอนนี้เข้ามาเรียนได้เกือบสองปีแล้ว ถ้าสำหรับหนูที่เป็นเด็กต่างจังหวัดและต้องเจออะไรใหม่ๆเยอะมาก ช่วงแรกๆก็ถือว่าต้องปรับตัวกันเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ ทั้งวิธีการเรียนแบบใหม่ สังคมเพื่อนใหม่ๆ ที่อยู่ใหม่

เหมือนเราต้องขยันและพัฒนาตัวเองตลอด เพราะเพื่อนๆทุกคนใช้เวลาว่างแทบทั้งหมดให้กับการซ้อมหลายๆอย่าง หนูคิดว่าถ้าเราขยันมันก็ไม่ยากเกินไปค่ะ หมายถึงทั้งเรื่องเรียนและการปฏิบัติเครื่องมือด้วย

s__124649503

Q: การร้องเพลงโคฟเวอร์เปลี่ยนไปร้องเพลงแนวคลาสสิค มีความท้าทายอะไรและต่างกันอย่างไร?

A: ต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยค่ะ ตอนร้อง โคฟเวอร์ ในยูทูป เราก็เพียงแค่หยิบกีต้าร์มาดีดอยู่ริมน้ำแล้วอัดวิดิโอ ซึ่งเป็นเพลงป๊อป และตอนนั้นเราไม่เคยเรียนร้องเพลง ก็จะไม่คิดอะไรเยอะ ร้องตามที่อยากร้องเลยคะ  แต่พอมาเรียนร้องคลาสสิคมันจะมีวิธีร้องที่ต่างกัน มีช่องเสียงข้างในที่เราต้องเลือกใช้ให้เข้ากับสไตล์เพลง ต้องจัดระบบภายในเรื่องการหายใจ การซับพอร์ด อะไรอีกเยอะมาก

แถมเวลาร้องเพลงในฮอล เราไม่ได้ใช้ไมค์ มีแค่เปียโนกับเสียงเราทั้งฮอล ก็ถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆสำหรับการร้องเพลงของหนูค่ะ

Q: รู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นคนขับร้องในงาน YAMP-Young Artists Music Program ใช้เวลาซ้อมนานไหม

A: ดีใจมากๆค่ะที่ได้ร้องคู่กับเพื่อนสนิท ซึ่งตอนแรกก็เขินๆกันอยู่ที่จะเล่นและใส่แอคติ้งลงไปกับเพลง แต่พอซ้อมกันบ่อยขึ้นก็เริ่มกล้ามากขึ้นค่ะ เพลงนี้เป็นเพลงที่เราเรียนกันตั้งแต่เทอมที่แล้วค่ะ และเราก็ชอบเพลงนี้ด้วยก็เลยเลือกมาเป็นเพลง solo ใน Yamp voice concert ค่ะ

Q: คิดว่าตัวเองมีพัฒนาการอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาบ้าง

A: คิดว่าเป็นด้านการร้องเพลงค่ะ คือเหมือนเราเข้าใจวิธีการร้องที่ถูกต้องมากขึ้น สามารถฟังแล้ววิเคราะห์ได้มากขึ้น มีความรู้ด้านทฤษฎีดนตรีเพิ่มขึ้น และฟังเพลงเยอะขึ้นมาก ซึ่งตอนนี้ชอบแนว Blues กับ Folk มากๆ และกำลังแต่งเพลงของตัวเองด้วย

Q: วางแผนอนาคตตัวเองไว้อย่างไร

A: อยากศึกษาระดับปริญญาตรีต่อที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เอกขับร้อง Entertain ค่ะ และทำเพลงของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มทำบ้างแล้วค่ะ และเรามีความสนใจเกี่ยวกับแฟชั่นด้วย ถ้าเรียนจบและมีเวลาเหลือๆอาจจะลองหาอะไรทำเกี่ยวกับแฟชั่นค่ะ

Q: ความหมายและคุณค่าใดบ้างที่ได้จาก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล 

A: มีค่ามากๆค่ะ เราใช้ความพยายาม เวลา และทุนเพื่อสอบเข้ามาเรียนที่นี่ ที่ๆเป็นความใฝ่ฝันของนักดนตรีหลายๆคน ซึ่งการที่เราเข้ามาเรียนที่นี่ ได้มาเจอเพื่อนๆที่สนใจในสิ่งเดียวกันและรักกัน ได้เจออาจารย์ที่พร้อมจะถ่ายทอดวิชาให้กับเราและเข้าใจความเป็นตัวเรา สำหรับหนูสิ่งเหล่านี้มันมีความหมายและมีค่ามากๆค่ะ

s__124649504

ซึ่ง น้องจัสมิน ก็มีข้อคิดที่มาฝาก เยาวชน และ วัยรุ่น ทุกคนที่มีความฝันด้วยเช่นกัน "ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำค่ะ ให้เวลากับสิ่งที่เรารักเยอะๆ จะสร้างสรรค์งานอะไรใส่ความเป็นตัวเองลงไปค่ะ ค้นหาตัวเองให้เจอแล้วเดินตามฝันไปเลยค่ะ"

สำหรับการพัฒนาการของน้องจัสมินแล้ว ทำให้เราได้รับรู้ว่าการก้าวหน้า และพัฒนาในเรื่องใดๆสักอย่าง ขอแค่เรามุ่งมั่นและตั้งใจทำในสิ่งที่เรารักให้เต็มที่เราก็จะประสบความสำเร็จนั้นอย่างแน่นอน

s__124649507

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook