จำชื่อพวกเขาให้ดี 4 ตัวละครสำคัญ ในเหตุการณ์ "พาหมูป่ากลับบ้าน"

จำชื่อพวกเขาให้ดี 4 ตัวละครสำคัญ ในเหตุการณ์ "พาหมูป่ากลับบ้าน"

จำชื่อพวกเขาให้ดี 4 ตัวละครสำคัญ ในเหตุการณ์ "พาหมูป่ากลับบ้าน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพราะนี่คือการรวมใจช่วยเหลือระดับมวลมนุษยชาติ Vern Unsworth, John Volanthen, Rick Stanton และ Dr. Richard Harris 4 ตัวละครสำคัญ ในเหตุการณ์ พาหมูป่ากลับบ้าน

y29udgvudhmlmkzpbwfnzxmlmky1y

จำ 4 ชื่อนี้ให้ดีครับ Vern Unsworth, John Volanthen, Rick Stanton และ Dr. Richard Harris เพราะสี่ท่านนี้คือผู้ที่โชคชะตาพาให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับภารกิจนี้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งทาง Thai Armed Force ได้สรุปข้อมูลและเรื่องน่าสนใจของทั้ง 4 ท่านนี้ มาให้เราได้เก็บข้อมูลกันครับ

Vern Unsworth

77777235

นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ผู้มีภรรยาเป็นคนไทย และอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงรายมา 7 ปี หลังจากทราบข่าวว่าเด็กๆ หายเข้าไปในถ้ำหลวง เขาก็รีบมาเสนอความช่วยเหลือทันที เพราะตัวเขาเองเข้าออกถ้ำหลวงมาแล้วหลายครั้ง เขารู้จักซอกมุมในนั้นเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โน้ตกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่เขียนส่งให้เจ้าหน้าที่ไทย

โดยกระดาษแผ่นนั้นเขียนว่า

Time is running out! (เวลาใกล้หมดแล้ว!)

  • Rob Harper
  • Rick Stanton MBE (MBE คือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น The Order of the British Empire)
  • John Volanthen

They are the world's best cave diver (พวกเขาคือนักดำน้ำในถ้ำที่เก่งที่สุดในโลก)
Please contact them through UK EMBASSY ASAP (กรุณาติดต่อพวกเขาผ่านสถานทูตสหราชอาณาจักร อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้)

ต้องขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ไทยฟังเขา และติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งติดต่อไปยังสถานทูตสหราชอาณาจักร ที่ก็รีบติดต่อไปยัง British Cave Rescue Council ซึ่งทั้งสามท่านตกลงที่จะเดินทางมาประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศไทยจึงออกตั๋วเครื่องบินของการบินไทยให้อย่างเร่งด่วน-

John Volanthen และ Rick Stanton

telemmglpict000168260214_tran

คู่บัดดี้ดำน้ำในถ้ำสองท่านนี้คือนักดำน้ำในถ้ำที่เก่งที่สุดในโลก เจ้าของสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำที่ยาวที่สุดกว่า 9 กิโลเมตรในสเปนเมื่อปี 2011

Rick Stanton เป็นนักดับเพลิงในโคเวนทรี ผู้ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการดำน้ำในถ้ำจากการดูสารคดี Underground Eiger เกี่ยวกับนักดำน้ำสองคนที่พยายามทำสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำในตอนนั้น และทำให้เขาตัดสินใจได้ว่า การดำน้ำในถ้ำคือสิ่งที่เขาอยากจะทำ

John Volanthen วิศวกรคอมพิวเตอร์ที่ก็ได้แรงบันดาลใจจากการดำน้ำในถ้ำมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ด้วยบุคลิกที่มุ่งมั่นและเอาจริงเอาจัง เขารักการดำน้ำในถ้ำมาก มากถึงขนาดที่ในวันแต่งงาน เขาตัดสินใจไปดำน้ำในถ้ำเพื่อแก้เครียด

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบการเป็นจุดสนใจ และยืนยันว่าการดำน้ำในถ้ำเป็นแค่กิจกรรมยามว่างและงานอาสาสมัครเท่านั้น แต่พวกเขาทั้งสองคนสร้างวีรกรรมที่กล้าหาญที่ช่วยชีวิตคนมาแล้วหลายคน

หนึ่งในภารกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Rick Stanton ก็คือการดำน้ำเข้าไปช่วยเหลือทหารอังกฤษที่ติดอยู่ในถ้ำนานถึง 8 วันในเม็กซิโกเมื่อปี 2004 ซึ่งเขาดำไปพบและได้ช่วยให้กำลังใจและสร้างแรงผลักดันให้ทหารรายหนึ่งที่กลัวน้ำให้กล้าที่จะดำน้ำความยาวกว่า 180 เมตรออกมาจากถ้ำได้สำเร็จ

และเมื่อเขามาพบกับ John Volanthen ทั้งสองคนก็กลายมาเป็นคู่บัดดี้ที่เก่งที่สุดในโลก ที่รัฐบาลฝรั่งเศสเชิญพวกเขาไปค้นหานักดำน้ำในถ้ำที่หายไปในถ้ำลึกกว่า 1 กิโลเมตร โดยสมาคมกู้ภัยและช่วยชีวิตของอังกฤษ Royal Humane Society บอกว่าพวกเขาเป็น "นักดำน้ำในถ้ำเพียงไม่กี่คนในโลกที่มีทักษะและอุปกรณ์ และอยู่ใกล้ที่สุด" ซึ่งพวกเขาใช้เวลา 8 วันในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตจนพบ รวมถึงในปี 2014 ที่รัฐบาลนอร์เวย์ขอให้เขาทั้งสองช่วยค้นหาศพของนักดำน้ำในถ้ำสองรายที่เสียชีวิตในถ้ำอีกด้วย

พวกเขาไม่ต้องการมีชื่อเสียง ชอบอยู่เงียบๆ และทำกิจกรรมที่เขารัก แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น พวกเขาก็พร้อม พวกเขามาถึงประเทศไทยและเริ่มปฏิบัติงานทันที ทักษะและประสบการณ์ของเจ้าของสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำนั้นช่วยให้ หน่วยซีล ของไทยปฏิบัติงานได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น

แม้ต้องล่าถอยออกจากถ้ำทั้งหมดจากฝนที่ตกกระหน่ำเมื่อราววันที่ 28 มิถุนายน จนมีภาพที่ผู้สื่อข่าว BBC พยายามถามพวกเขาทั้งสองที่เดินออกมาจากถ้ำเพราะน้ำท่วมกระหน่ำว่า มีอะไรอัพเดทกับ BBC ไหม แต่ได้คำตอบเป็นหน้าบูดๆ และสายตาที่ไม่แม้แต่จะมองนักข่าว BBC คนนั้น

เมื่อสภาพอากาศเป็นใจ พวกเขาวางแผนกลับเข้าไปอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นการวาง "ค่ายกล" ที่ประกอบด้วยเชือกนำทางและถังอากาศทุก ๆ 25 เมตรตลอดทางที่พวกเขาไป ซึ่งก็เป็นทั้งสองคนนั่นเอง ที่พบเด็กๆ ทั้ง 13 คน ที่พวกเขาเล่าว่า เชือกที่นำทางนั้นหมดลง ทำให้เขาต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ และพบกับสายตาทั้ง 13 คู่ที่มองลงมา

"How many of you?" ในวิดีโอของหน่วยซีลของไทยก็คือเสียงของ John Volanthen นั่นเอง

แม้ว่าพวกเขาจะพบเด็ก ๆ แล้ว แต่นั่นก็นำมาสู่ปัญหาต่อไปว่าจะพาเด็กๆ ออกมาอย่างไร เมื่อทางเลือกอย่างการเจาะถ้ำนั้นยังไกลจากความเป็นจริง และระดับของออกซิเจนในถ้ำที่ลดลงจนเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาสู่การเสียชีวิตของจ่าเอกสมาน กุนัน อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจมของกองทัพเรือไทย ประกอบกับ พยากรณ์อากาศ ที่เชื่อว่าจะมีฝนตกลงมามากกว่านี้ในอีกไม่กี่วัน ทำให้พวกเขาต้องเลือกทางที่เสี่ยงที่สุด เป็นทางเลือกที่ทุกคนไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ และไม่เคยมีใครทำมาก่อนในโลกนี้ ...นั่นก็คือการให้เด็กๆ ดำน้ำออกมาทางเดิม!

Dr. Richard Harris

abbb54c596148b3c295f6a06344df

นั่นทำให้ทั้งสองได้ร้องขอไปยังเจ้าหน้าที่ของไทย ให้เชิญ Dr. Richard Harris วิสัญญีแพทย์ชาวออสเตรเลีย นักดำน้ำในถ้ำที่มีประสบการณ์ 30 ปี ผู้ถือสถิติการดำน้ำในถ้ำน้ำเย็นจัดลึก 194 และ 221 เมตร ที่เชื่อกันว่าคือสถิติที่ลึกที่สุดในการดำน้ำในถ้ำในน้ำเย็นจัด เพื่อตามหาต้นกำเนิดของแม่น้ำ Pearse ในนิวซีแลนด์ ที่พวกเขาต้องวางแผนที่สลับซับซ้อนในการจัดตั้งแคปซูลกู้ภัยในถ้ำเพื่อปรับความดันและหยุดพักในน้ำที่อุณหภูมิใกล้ศูนย์องศา ซึ่งการดำน้ำของเขาในครั้งนี้เมื่อปี 2011 และ 2012 ได้นำไปทำเป็นสารคดีโดย National Geographic ด้วย

Dr. Richard Harris คือผู้ที่ประเมินสุขภาพของเด็ก ๆ ทั้ง 13 คน และตัดสินใจเปลี่ยนแผนในถ้ำเป็นการนำเด็กที่อ่อนแอและมีปัญหาสุขภาพที่สุดออกมาก่อนเด็กที่แข็งแรงที่สุด Dr. Richard Harris คู่บัดดี้ และตำรวจออสเตรเลียอีก 6 นาย ถือเป็นหนึ่งในหลายสิบชีวิตของทีมดำน้ำในถ้ำที่ดีที่สุดทั่วโลกที่ถูกเรียกตัวมายังจังหวัดเชียงรายเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ยากที่สุด เสี่ยงอันตรายที่สุด และไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ!

201047

จากการประชุมและวิเคราะห์ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของไทย ประกอบกับการประเมินปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทำให้ทุกคนตกลงใจที่จะเลือกวันที่ 8 กรกฎาคม เป็นวันปฏิบัติการครั้งประวัติศาสตร์ที่นักดำน้ำในถ้ำที่ดีที่สุดในโลก 50 คน จะร่วมมือกับนักทำลายใต้น้ำจู่โจมของกองทัพเรือไทยอีก 40 คน ปฏิบัติภารกิจนำ ทีมหมูป่า ดำน้ำในถ้ำที่เต็มไปด้วยหินที่แหลมคม กระแสน้ำที่รุนแรง ทัศนวิสัยที่เป็นศูนย์ ความมืดที่มีแสงไฟที่พวกเขาถืออยู่เป็นเพียงแสงสว่างเดียว นำเด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะดำน้ำในถ้ำ ไม่มีแม้แต่ประสบการณ์ในการดำน้ำ ออกจากถ้ำหลวงที่ผู้สื่อข่าวของ CNN กล่าวว่าเกือบจะเป็นโลงศพของพวกเขา มาสู่แสงสว่างและโลกภายนอก กลับสู่ครอบครัว สู่บ้าน และสร้างประวัติศาสตร์การกู้ภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่คนเป็นร้อยเป็นพันล้านคนทั่วโลกต่างต้องกลั้นหายใจเพื่อลุ้นว่าปฏิบัติการจะสำเร็จหรือไม่

และผลลัพธ์ของปฏิบัติการ ก็คือวินาทีนี้ ของวันนี้ วันนี้ Mission Impossible ถูกเปลี่ยนเป็น Mission Possible ด้วยความสามารถ การวางแผน ความพยายาม และการร่วมมือร่วมใจกันของทุกคน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook