กะเทาะเปลือก นักแสดงจาก "สงครามไฮสคูล" ซีซั่น 2 ในมุมมองปัญหาของวัยรุ่นยุคนี้

กะเทาะเปลือก นักแสดงจาก "สงครามไฮสคูล" ซีซั่น 2 ในมุมมองปัญหาของวัยรุ่นยุคนี้

กะเทาะเปลือก นักแสดงจาก "สงครามไฮสคูล" ซีซั่น 2 ในมุมมองปัญหาของวัยรุ่นยุคนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทำความรู้จักเหล่านักแสดง สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2 ให้มากขึ้นกว่าเดิม กับมุมมองวัยรุ่นในปัจจุบัน และวีรกรรมสุดแสบในสมัยเรียนที่ต้องแชร์

700h

เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์วัยรุ่นที่น่าติดตามมากๆ อีกเรื่องหนึ่งเลย สำหรับ สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2 ที่หลังจาก ซีซั่นแรกสร้างกระแสเป็นที่พูดถึงของคอซีรีส์วัยรุ่นไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องบอกเลยว่าในซีซั่น 2 นี้จะมีความเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม และที่สำคัญยังตีแผ่ปัญหาของวัยรุ่น รวมไปถึงการศึกษาในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งในครั้งนี้ Sanook! Campus เราก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับเหล่านักแสดงหน้าใหม่อนาคตไกลจาก สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2 ทั้ง 5 คน ก็เลยอยากจะให้เพื่อนๆ ได้ทำความรู้จักกับพวกเขาและเธอกันให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกสักหน่อย


แนะนำตัวกันหน่อย


มิก: สวัสดีครับ ชื่อ มิก-วนัส แสงเทียนประไพ ครับ ตอนนี้อายุ 18 ปีครับ ความสามารถพิเศษของผมก็จะเป็นทางด้านกีฬาครับ ผมเล่นเทควันโด สายดำดั้ง 3 ครับ แล้วก็ผลงานที่ผ่านมาตอนนี้มี What The Duck The Series ครับ แล้วก็โฆษณาแกมโบลครับ

พิมพ์: สวัสดีค่ะ ชื่อพิมพ์นะคะ เรื่องนี้ก็เป็นซีรีส์เรื่องแรกเลยที่ร่วมแสดงเลยค่ะ พิมพ์มีความสามารถด้านการร้องเพลงค่ะ เคยประกวดร้องเพลงชนะได้ถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯ ด้วยค่ะ

พี: สวัสดีครับ ชื่อ พี-วุฒิกร รณะนันทน์ อายุ 19 ปีครับ ผลงานก่อนหน้านี้เป็นตัวแทนภาคของ GSB Campus ตัวแทนภาคตะวันออกครับ ความสามารถพิเศษจะเป็นทางด้านกีฬาครับ เล่นฟุตบอลครับ เป็นเยาวชนฟุตบอลรุ่น 14 ปีของทีมชาติครับ

ไข่หลิน: สวัสดีครับ ชื่อไข่หลิน อายุ 20 ปีครับ ผลงานที่ผ่านมาได้เล่นซีรีส์ Nice To Meet UFO ซีรีส์ที่ไปฉายที่จีนครับ ความสามารถพิเศษคือผมสามารถพูดภาษาจีนได้ครับ

คิม: ก็ผลงานตอนนี้ก็คือ สงครามไฮสคูล Reborn ครับ ความสามารถพิเศษก็คือว่ายน้ำกับเล่นกีตาร์ครับ


ได้มีโอกาสดู สงครามไฮสคูล ซีซั่น 1 ไหม แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง


มิก: ดูครับ ซีซั่น 1 สนุกดีครับ แล้วผมคิดว่าเนื้อหามันตรงกับวัยของเราด้วยครับ

พิมพ์: ก็ดูมาบ้างแล้วค่ะ เพราะว่าดูเป็นแนวทางแล้วก็ตัวอย่างของการแสดงค่ะ

พี: ได้ดูแค่นิดเดียวเองครับ แล้วก็รู้สึกกดดันครับ เพราะว่าพี่ๆ เขาเล่นได้ดี แล้วผมเพิ่งมาใหม่ก็เลยกดดันนิดๆ ครับ

ไข่หลิน: ได้ดูครับ รู้สึกว่าตอนนั้นที่เราดูเราเด็กกว่านี้ แต่พอมาดูอีกครั้งตอนนี้เรารู้สึกว่ามันมีข้อคิด แง่คิดอะไรที่สอดแทรกอยู่ในซีนบางซีนที่บางทีเราดูแล้วปล่อยผ่าน บางทีเราก็ดูแล้วไม่เข้าใจครับ

คิม: ก็ดูมาบ้างครับ รู้สึกว่ามันน่าสนใจดีครับในเรื่องมันมีอะไรหลายๆ อย่างให้เราได้ติดได้ติดตามครับ

beautyplus_20180730113306938_มิก สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2

มีความท้าทายอย่างไรบ้างในการแสดงครั้งนี้


มิก: ด้วยความที่เป็นบทที่ค่อนข้างหลากหลาย และมีบทพูดค่อนข้างเยอะก็ต้องทำการบ้านกับบทมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน แล้วก็ต้องโฟกัสเกี่ยวกับเรื่องงานมากขึ้น ก็ต้องแบ่งเวลาการเรียนมาทำงานด้านวงการบันเทิง แล้วก็เรื่องการกีฬาของผมอีก ก็เหนื่อยเหมือนกันครับ

พิมพ์: พิมพ์รู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้ และตัวละครที่พิมพ์สวมอยู่มันไม่ใช่ตัวของพิมพ์เอง ฉะนั้นพิมพ์จะต้องไปทำการบ้านเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษเพื่อที่จะแสดงเป็นตัวละครตัวนี้ ซึ่งมันก็เลยท้าทายมากสำหรับพิมพ์ค่ะ


มีการเตรียมตัวอย่างไรในซีซั่น 2 นี้


พี: ก็มีเรื่องการแสดงครับ ได้มีการเรียนกันทุกอาทิตย์อยู่แล้ว ทำให้เราเริ่มเข้ากับบท เข้ากับเพื่อนได้มากขึ้น แต่ตอนนี้โดนสั่งให้ลดน้ำหนักครับ (หัวเราะ)

ไข่หลิน: ผมก็มีการเวิร์คช็อปหนักมากครับ โดนคุมอาหาร ออกกำลังกาย แล้วก็ปรับบุคลิกด้วยครับ

คิม: เนื่องจากว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์เรื่องแรกที่คิมเล่นนะครับ เลยต้องย้อนไปดูซีรีส์ซีซั่น 1 แล้วก็ดูซีรีส์หลายๆ เรื่อง เพื่อเป็นแนวทางของตัวละครนั้นๆ ว่าเป็นยังไงแล้วก็ใช้มาปรับกับตัวเองให้ได้ครับ

beautyplus_20180730113532482_พี สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2

บทที่ได้รับเหมือนหรือต่างจากตัวเองอย่างไรบ้าง


มิก: จริงๆ มิกถือว่าค่อนข้างคล้ายเลยครับ เพราะว่าตัวในบทกับตัวจริงหาข้อต่างได้นิดหน่อยเองครับ

พี: เหมือนเกือบทุกอย่างเลยครับ เหมือนจนบางทีเพื่อนเขาจะล้อกันเลย ก็ตัวละครผมชื่อสนามครับ จะเป็นตัวละครที่มาโรงเรียนแล้วมานอน ตอนเที่ยงก็ไปเตะบอลกลับมาก็มานอน คล้ายกับชีวิตจริงของผม (หัวเราะ)

ไข่หลิน: ในบทส่วนปกติที่อยู่กับเพื่อนก็ค่อนข้างเหมือนผมครับ แต่ว่าความต่างก็คือพลังงานของตัวละครจะสูงมาก แต่ผมจะเนือยๆ ช้าๆ หน่อยครับ

คิม: บทที่ได้รับค่อนข้างคล้ายๆ ผมครับเวลาที่ยังไม่ค่อยรู้จักใครเท่าไหร่ แต่ว่าถ้ารู้จักแล้วจะตรงกันข้ามกับในบทครับ


ในเรื่องดูเป็นคนเอาแต่ใจ ดูแรงนิดหน่อย แล้วในชีวิตจริงเป็นอย่างไร


พิมพ์: ตัวจริงไม่เหมือนในซีรีส์แต่ไม่รู้คนจะเชื่อหรือเปล่า (หัวเราะ) คือในซีรีส์มันเป็นคนที่พิมพ์ก็รู้สึกว่าเขาโรคจิตหรือมีปัญหานิดๆ ตัวจริงพิมพ์เป็นคนที่เข้ากับคนง่ายมากค่ะ แล้วก็อาจจะไม่ฉลาดเท่าตัวละครที่เราเล่นด้วย (หัวเราะ)


วีรกรรมสุดแสบสมัยเรียน


มิก: เป็นเรื่องการทำโมเดลระบบนิเวศน์ครับ ผมใช้กลีเซอรีนมาใช้เป็นส่วนประกอบ แล้วมาแอบทำในห้องเรียนตอนพัก ซึ่งที่โรงเรียนผมตอนเที่ยงเขาจะให้ลงไปเพื่อทำกิจกรรมอื่นไม่ให้อยู่บนห้อง แล้วผมก็แอบขึ้นมา อุปกรณ์ก็ไม่มีเลยไปขโมยห้องเคมีมา เอามานั่งแอบทำหลังห้องเงียบๆ แล้วพลาดทำให้ควันขึ้นในห้องเรียน พอควันเต็มห้อง ผมทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ห้องผมมันไม่ได้มีตัวจับควันมันเลยไม่ได้อะไร แต่ตอนนั้นผมก็วิ่งรอบห้องเลยเพราะไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะอยู่กับเพื่อนแค่ 2 คน แล้วก็ไปเปิดหน้าต่าง ไปหยิบฟิวเจอร์บอร์ดมาพัดควันออก แล้วเวลาตอนนั้นเนี่ยอีก 10 นาทีครูจะขึ้นมาแล้ว แล้วควันก็ไม่หายสักที ก็ค่อยๆ พัดๆ ไปจนมันเริ่มจาง พอครูเข้ามาก็เป็นเรื่องเลย ครูก็เรียกไปคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็อธิบายให้ฟัง เข้าห้องปกครองไปตามระเบียบครับ

พิมพ์: ไม่มีค่ะ เพราะตามเขาไม่ทัน (หัวเราะ)

พี: จะเป็นตอนม.6 เทอม 2 ครับ ช่วงที่น้องๆ ม.5 ม.4 เขาสอบกัน พวกผมก็ว่างแล้วได้มหาวิทยาลัยแล้ว ก็เอาป๊อปคอร์นมาเวฟกินกันครับ แล้วพอระเบิดเสร็จผมก็ฉีกถุงออก มันก็เป็นไอร้อนขึ้นมาไปโดนตัวจับความร้อน แล้วน้องๆ ครูๆ ก็วิ่งลงมาหน้าหอประชุมว่ามีสัญญาณไฟไหม้ ผมก็ต้องเดินลงมาแล้วก็บอก “ขอโทษครับ พอดีพี่อุ่นป๊อปคอร์นกินครับ” ไม่ได้โดนทำโทษเพราะมันเป็นเรื่องที่เขาขำกันมากกว่า แต่อาจารย์ไม่ค่อยขำครับ

ไข่หลิน: โห เยอะเลยครับ ถ้าเอาอันที่แสบๆ ที่สุด ฝังใจมากเลยก็คือผมไม่แน่ใจว่า ป.5 หรือ ป.6 ผมชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ผมก็บอกเขาว่ามานี่หน่อย มีอะไรจะกระซิบให้ฟัง แล้วผมก็ไปหอมแก้มเขา แล้วเขาก็ร้องไห้ครับ (หัวเราะ) เขาก็ไปฟ้องครูด้วย ผมก็เศร้าครับ

คิม: จะมีตอนช่วงมัธยมต้นครับ ก็จะมีชั่วโมงเรียนการงานจะมีการทำอาหาร นักเรียนเขาก็จะเอาสเปรย์กับไฟแช็กมา แล้วด้วยความเป็นเด็กก็เอามาฉีดโต๊ะที่ไม่ใช่โต๊ะไม้ แต่เหมือนเป็นโต๊ะไฟเบอร์ที่พอฉีดไปแล้วไฟมันจะติดขึ้นมา ตอนนั้นผมก็จุดเล่นครับ แล้วไฟก็ลุกขึ้นมา ทีนี้ครูมาเห็นก็โดนเรียกผู้ปกครอง โดนหลายอย่างมากเลยครับ

beautyplus_20180730113145249_พิมพ์ สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2

วิชาที่ชอบและไม่ชอบ


มิก: ตอน ม.ปลายชอบชีววิทยาครับ เพราะผมว่ามันเป็นวิชาที่น่าค้นหา แล้วก็ไม่ต้องคิดเลขอะไรมากด้วย ส่วนวิชาที่ไม่ชอบก็วิชาลูกเสือครับ เพราะว่าวิชาลูกเสือเป็นวิชาที่ต้องอื่นไปยืนตากแดดครับ (หัวเราะ)

พิมพ์: ชอบเลขค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันใช้ความเข้าใจมากกว่าการจำ เพราะพิมพ์ชอบเข้าใจมากกว่าไม่เข้าใจค่ะ (หัวเราะ) ส่วนวิชาที่ไม่ชอบๆ พละค่ะ เพราะว่าเหนื่อย (หัวเราะ)

พี: ผมชอบเรียนฟิสิกส์นะ เพราะว่ามันเป็นวิชาเดียวที่ผมทำได้ดี ตอนเรียนแม่ให้เรียนสายวิทย์ครับ เป็นวิชาเดียวที่ทำได้ดีที่สุด แล้วก็สอบได้คะแนนดีอยู่ แต่ว่าเรียนไม่เก่งนะครับ (หัวเราะ) ส่วนวิชาที่ไม่ชอบ ผมไม่ชอบเคมีครับ เพราะผมไม่ได้ตั้งแต่เริ่มเลยไม่ได้ยาวเลยครับ

ไข่หลิน: ชอบวิชาภาษาจีนครับ เพราะว่าเรียนโรงเรียนจีนด้วย แล้วก็เราทำได้ดีครับก็เลยชอบ ส่วนวิชาที่ไม่ชอบก็วิชาประวัติศาสตร์ครับ ผมจำเรื่องราวอะไรสมัยโบราณ แล้วไหนจะคำศัพท์ด้วย ผมรู้สึกว่ามันจำยากครับ

คิม: ไม่ชอบเลขครับ เลขนี่ตัวปัญหาของคิมเลย ส่วนถ้าชอบที่สุดในตอนนั้นก็จะเป็นวิชาประวัติศาสตร์ครับ เพราะผมชอบรู้เรื่องราวเก่าๆ ชอบรู้ประวัติศาสตร์ มันมีอะไรน่าสนใจเยอะครับ บางทีมันก็ทำให้เราคิดว่าแบบนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไงนะ


สำหรับวัยรุ่นที่ไม่รู้จักกันไม่ก่อน มีวิธีการละลายพฤติกรรมให้เข้ากับเพื่อนๆ ได้อย่างไร


มิก: ด้วยความที่มิกเป็นคนค่อนข้างเข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว มิกก็เข้ากับคนอื่นได้ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากครับกับการเจอคนใหม่ๆ แล้วก็พี่ๆ น้องทุกคนก็น่ารักหมด ทุกคนก็คุยกันได้ ใช้เวลานิดเดียวก็สนิทกันแล้วครับ วัน 2 วันก็โอเคแล้ว

พิมพ์: จริงๆ แล้วเวลาพิมพ์อยู่คนเดียวหรือเจอคนใหม่ๆ พิมพ์จะหน้านิ่ง เป็นคนที่หน้านิ่งมาก แล้วคนก็จะชอบกลัว แล้วด้วยสีผมเราคนก็เลยชอบคิดว่าเราเป็นคนที่แรง แต่ว่าพอเราเริ่มคุยกับเขา มันก็คือเราตามเขาไม่ทัน ตามคนไม่ทัน มันก็เลยเข้ากันง่ายมั้ง น่าจะอย่างนั้นมากกว่าค่ะ

พี: แรกๆ ที่เข้ามาผมเข้ามาช้ากว่าเพื่อนๆ เขา ก็จะเขินครับ ก็มีการยิ้มๆ ให้กัน พอได้เข้าบทด้วยกันก็สนิทกันไปเองครับ

ไข่หลิน: เราแค่รู้สึกว่าเราไม่ต้องไปอายเพื่อน เราแค่ให้เขาก่อนครับ ให้ในสิ่งดีๆ แล้วเดี๋ยวเราก็เป็นเพื่อนกันครับ

คิม: คือในช่วงแรกที่เข้ามาครับ ด้วยความที่ผมเป็นคนที่เข้าหาคนค่อนข้างยากนิดๆ แต่พอมีการเล่นบทด้วยกัน ต้องมาจับคู่กัน มันก็เริ่มรู้จักกันครับ แล้วก็สนิทกันมากขึ้นครับ

beautyplus_20180730112855742_คิม สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2

คิดว่าปัญหาหลักของวัยรุ่นทั่วไปที่ต้องพบเจอคืออะไร และมีวิธีแก้ไขหรือแนะนำอย่างไรบ้าง


มิก: ผมว่าน่าจะเป็นการแบ่งเวลาเรียนครับ คือบางคนก็จะไม่ค่อยสนใจเรียน แบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นมากเกินไป ทำให้เสียในหลายๆ ด้านครับ

พิมพ์: สำหรับพิมพ์ๆ ว่าเรื่องครอบครัวกับเพื่อนค่ะ พิมพ์รู้สึกว่าเด็กเกือบทุกคนจะชอบมีปากเสียงกับพ่อแม่ซึ่งในเรื่องพิมพ์ว่ามันก็มีบ้าง แล้วก็เรื่องเพื่อนค่ะ พิมพ์ว่าวัยรุ่นสมัยนี้ติดเพื่อนแล้วเขารักเพื่อนมาก เขาพร้อมที่จะลุยเพื่อเพื่อนตลอด ฉะนั้นพิมพ์รู้สึกว่าปัญหา 2 อันนี้เป็นปัญหาหลักๆ เลยของวัยรุ่นสมัยนี้ค่ะ

พี: อันนี้ผมเจอกับตัวเองด้วยครับ คือรู้ช้าว่าตัวเองชอบอะไร ผมก็ลองครับ ลองทำหลายๆ อย่างเพื่อให้เราได้รู้ จนเราเจอสิ่งที่เราทำแล้วเรารู้สึกไม่เบื่อกับมัน

ไข่หลิน: ส่วนมากที่เห็นนะครับคือความกล้าแสดงออก เพราะส่วนใหญ่เราจะมัวแต่คิดว่าเขาจะคิดยังไงกับเรา หรือว่าเขาจะไม่ชอบเราตรงนี้ไหม วิธีแก้ไขปัญหาผมคิดว่า ถ้าเราให้สิ่งดีๆ กับเขาไปแล้ว เราก็ไม่ต้องไปคิดว่าเขาจะมีท่าทียังไงกลับมา ถ้าเขาไม่ชอบเราเดี๋ยววันเวลาก็ทำให้เขาจากเราไปเองครับ

คิม: ผมคิดว่าคือการถูกสปอยล์จากพ่อแม่มากขึ้นครับ เนื่องจากพ่อแม่ผมไม่สปอยล์ผมมากขนาดนั้นก็เลยจะรู้ว่าชีวิตที่มันลำบากหน่อยมันเป็นยังไง คือที่มหาวิทยาลัยผมเป็นเชียร์ลีดเดอร์แล้วมีรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยเข้ามาใหม่ พอเราซ้อมหนักหน่อยพ่อแม่ก็จะมาก้าวก่ายแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่ของผู้ปกครองแล้ว แล้วผู้ปกครองก็ไม่สามารถอยู่ปกป้องเราได้ตลอดเวลา ไม่สามารถทำให้เราได้ตลอดเวลา นั่นแหละครับคือปัญหาของเด็กสมัยใหม่


นิยามการใช้ชีวิตวัยรุ่นให้คุ้มค่าสักหน่อย


พิมพ์: ถ้าเป็นพิมพ์ๆ รู้สึกว่าอยากทำอะไรก็ทำ แต่ขออย่างเดียวคืออย่าทำให้คนที่เรารักเสียใจก็พอ ก็คือพ่อแม่เรากับคนที่เรารัก ถ้าสมมุติว่าเราคิดที่จะทำอะไร เราอยากลองอะไร เราก็ทำไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเก็บกด ไม่ต้องมาหยุดตัวเอง แต่เวลาที่จะทำอะไรเราอาจจะคิดก่อนว่า อันนี้เราทำอาจจะไม่ได้แย่มาก เราก็ทำ ทำเลย แค่คิดว่าถ้าเกิดพ่อแม่รู้ว่าเราทำสิ่งนี้เขาจะเสียใจมากน้อยแค่ไหน แค่นั้นก็พอค่ะสำหรับพิมพ์

ไข่หลิน: เราต้องรู้ก่อนว่าเราชอบอะไร แล้วอย่าไปคิดว่าเราทำมันไม่ได้ เมื่อก่อนผมเป็นเด็กติดเกม ชอบเล่นเกม วันๆ ก็เล่นแต่เกม อ้วนด้วยครับ แต่รู้สึกว่าผมอยากเป็นนักแสดง แล้วตอนนั้นคิดแต่ว่ามันยาก เป็นไปไม่ได้ แต่พอเราได้ลองพยายาม ค่อยๆ ไปทีละอย่างๆ พอมาถึงจุดนี้ได้เราก็รู้สึกว่าแค่เรารู้ตัวว่าเรารักอะไรก็พอครับ

คิม: สำหรับคิมคืออยากทำอะไรก็ทำครับ เพราะชีวิตเกิดมาครั้งเดียวครับผม

beautyplus_20180730112956710_ไข่หลิน สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2

คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากเรื่อง สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2


มิก: ที่ผมเห็นหลักๆ สำหรับวัยรุ่นก็คือเรื่องเพื่อน เรื่องการศึกษาครับ มันก็จะมีแบบอย่างว่าบางคนเรียนเก่ง บางคนเก่งแต่ขี้เกียจ ถึงคนจะเก่งแต่ไม่พยายามอะไรเลยมันก็อาจจะทำให้ตัวเองตกไปอยู่อันดับท้ายๆ ได้

พี: แน่นอนว่าได้ความสนุกครับอย่างแรกเลยครับ

คิม: ซีรีส์เรื่องนี้จะมีการสะท้อนสังคมในหลายๆ ด้านครับ พวกระบบการศึกษาไทย และปัญหาวัยรุ่นทั่วไปครับ


ฝากผลงานกันสักหน่อย


มิก: ก็อยากฝากซีรีส์เรื่อง สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2 ครับ ชื่อซีซั่นว่า Reborn ครับ ก็ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

พิมพ์: ก็อยากให้ทุกคนได้ติดตามนะคะ เป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกของพิมพ์เลย แล้วพิมพ์ก็ตั้งใจมาก ทุกๆ คนก็ตั้งใจมากเหมือนกัน และทุกคนก็ทำการบ้านมาอย่างดีพร้อมเลย ทุกคนก็ให้ใจกับเรื่องนี้เต็มร้อยเลย ก็อยากให้ทุกคนได้ติตามเรื่อง สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2 กันเยอะๆ นะคะ

พี: ก็ฝากเรื่อง สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2 ด้วยนะครับ เป็นเรื่องแรกของผมและเพื่อนๆ อีกหลายๆ คนด้วย ก็ช่วยเชียร์พวกเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

ไข่หลิน: สำหรับ ซีรีส์สงครามไฮสคูล ซีซั่น 2 Reborn นะครับ ก็เป็นซีรส์ที่สะท้อนวัยรุ่นครับ สำหรับคำว่าสะท้อนปัญหาวัยรุ่นเนี่ย บางคนอาจจะฟังแล้วธรรมดา ผ่านๆ ไป แต่ผมรู้สึกว่าบางทีการที่เราได้มองเห็นปัญหาของคนอื่น บางทีปัญหาเราๆ แก้ไม่ได้ให้เพื่อนมาแก้ให้ เรามองเห็นปัญหาคนอื่นในซีรีส์เรื่องนี้ เราก็จะสามารถเอาไปเป็นแง่คิด หรือแนวทางการใช้ชีวิตได้ครับ

คิม: ก็ขอฝากซีรีส์เรื่อง สงครามไฮสคูล Reborn ด้วยนะครับ เป็นผลงานเรื่องแรกของคิมนะครับ แล้วอย่าลืมติดตามนะครับ

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ ของ กะเทาะเปลือก นักแสดงจาก "สงครามไฮสคูล" ซีซั่น 2 ในมุมมองปัญหาของวัยรุ่นยุคนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook