อะไรคือพรสวรรค์ของ "กัน-อรรถพันธ์" มุมมองที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับหนุ่มคนนี้

รู้จักเขาให้มากขึ้นกว่าเดิม กัน-อรรถพันธ์ หนุ่มมากความสามารถที่ครบเครื่องเรื่องการแสดง แฟชั่น และความมีเสน่ห์

เรียกว่าเป็นหนุ่มน้อยหน้าเด็กที่แฟนคลับต่างพากันเทใจและหลงรักเขาอย่างเต็มหัวใจจริงๆ กับ กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์ ที่โดดเด่นทั้งเรื่องการแสดง แฟชั่น และหน้าตาที่น่ารัก แต่เราอยากจะบอกว่าหนุ่มน้อยคนนี้ไม่ได้มีดีแค่นี้นะ เรื่องความคิด เรื่องทัศนคติของเขาถือว่า ซึ่งหลังจากที่ Sanook! Campus ได้มีโอกาสนั่งคุยกับหนุ่ม กัน-อรรถพันธ์ แล้ว เราก็อยากจะนำเสนอมุมมองที่หลายๆ อาจจะไม่รู้เกี่ยวกับหนุ่มคนนี้มาให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน

ประวัติ กัน-อรรถพันธ์

• ชื่อ-นามสกุล : อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์
• ชื่อเล่น : กัน
• วันเกิด : วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2536
• การศึกษา : ชั้นประถมจากโรงเรียนอโศกวิทย์อ่อนนุช
  ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนศรีวิกรม์
  มัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร แผนกทัศนศิลป์
  ระดับอุดมศึกษาที่คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปัจจุบันได้ย้ายมาเข้าศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ผลงานของเราตอนนี้มีอะไรบ้าง?

"สำหรับตอนนี้ผมก็ถ่ายซีรีส์ ถ่ายรายการ รถโรงเรียน School Rangers และก็งานทั่วไปครับผม"

ขออนุญาตถามถึงเรื่องเรียน ตอนนี้เราเรียนอยู่ที่ไหน คณะอะไร?

"กำลังจะเรียนจบเทอมหน้าแล้วครับ ที่รามคำแหง คณะรัฐศาสตร์ ซึ่งกันเรียนมานานมากแล้ว โห...คือจริงๆ กันซิ่วมาแล้ว 2 ที่ ก่อนที่จะมาเรียนราม จนตอนนี้อายุ 25 แล้วอ่ะ (หัวเราะ)"

พอจะบอกได้ไหมว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะเรียนคณะรัฐศาสตร์?

"เพราะตอนที่เข้าไปคุยกับทางมหาวิทยาลัย เขาก็บอกว่ามันไม่ได้ยากมาก รวมถึงผมเองก็คิดว่ามันง่าย เลยตัดสินใจเข้าไปเลย ซึ่งพอได้เรียนจริงๆ ก็เริ่มรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น แต่อาจจะเป็นเพราะว่ากันเรียนภาคพิเศษ รวมถึงมีพี่ๆ คอยให้คำปรึกษาด้วยมั้งครับ มันก็เลยไม่หนักมาก"

การแบ่งเวลาสำหรับเรายากไหม เพราะต้องทำงานและเรียนไปพร้อมๆ กัน?

"ช่วงที่กันยังเรียนอยู่ ม.กรุงเทพ ก็ยากครับ เพราะมันต้องมีการขอใบลาขอเอกสารต่างๆ ตามระบบ แต่พอได้มาเรียนรามคำแหง ก็รู้สึกว่าโอเคขึ้นมาหน่อย เพราะกันยังโชคดีที่มีพี่ๆ หลายคนช่วยให้คำปรึกษา รวมถึงการเรียนของเขาก็ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องไปเรียนถี่ๆ ด้วย"

อย่างตัวเราเอง เราบอกว่าเราซิ่วมาหลายที่ก่อนที่จะได้มาเรียนราม ณ เวลานั้นเคยมีความคิดไหมว่าไม่อยากจะเรียนแล้ว?

"ไม่เคยเลยครับ คือกันจะคิดแค่ว่าเมื่อไหร่จะจบสักทีมากกว่า เพราะทางคุณแม่กันท่านก็ขอแค่ให้เรียนจบก็พอ ดังนั้นกันก็ตั้งใจว่าจะเรียนให้จบ ให้มีปริญญาติดตัวสักใบก็ยังดี"

วิชาไหนบ้างที่เรารู้สึกชอบเวลาที่ได้เรียน และวิชาไหนที่เราไม่โอเคเลย เรียนแล้วหัวไม่แล่นตาม?

"ทุกวิชาที่เป็นวิชาการ กันไม่ชอบเลยครับ เพราะขนาดตอน ม.4 โรงเรียนเขาให้กันเลือกลงวิชาเอก กันยังเลือกลงทัศนศิลป์เลย ส่วนพวกวิชาการแทบไม่ค่อยอยากเรียน ถึงแม้กันจะไม่ได้วาดรูปเก่ง แต่มันก็ยังดีกว่าวิชาการ เราได้ฝึกๆ เอา (หัวเราะ)"

โดยส่วนตัวเราเอง เราคิดว่าอะไรคือพรสวรรค์ของเรา?

"เอ่อ...กันตอบไม่ได้จริงๆ นะว่าพรสวรรค์ของกันคืออะไร ขนาดความสามารถพิเศษกันยังไม่รู้เลยว่ามีอะไรบ้าง (หัวเราะ) แต่ถ้าถามถึงสิ่งที่กันชอบและทำบ่อยมากที่สุด ก็คงจะเป็นการแสดงนี่แหละครับ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่กันทำบ่อย และทำมาเรื่อยๆ จริงๆ"

เราตั้งเป้าหมายในวงการบันเทิงของตัวเองไว้ยังไงบ้าง?

"เอ่อ...เป้าหมายของกันมันค่อนข้างเรื่อยๆ มากเลยครับ คือกันไม่ได้รู้สึกว่ากันจะต้องไปถึงไหน หรือว่ากันจะต้องทำอะไรต่อจากนี้ เพราะกันมองว่าถ้าหากกันยังทำได้อยู่ และยังสนุกกับบทบาทที่กันได้เล่น กันก็คงจะทำไปเรื่อยๆ เพราะกันก็อยากจะทำให้มันนานที่สุดเท่าที่กันจะทำได้ ซึ่งกันรู้สึกโชคดีมากที่ยังมีคนรักกันกับพี่อ๊อฟอยู่ กันต้องขอบคุณทุกคนมากๆ ที่คอยซัพพอร์ตกัน"

ตัวเราเองคิดไหมว่า ถ้าในอนาคตการที่เราหน้าเด็ก อาจจะทำให้โอกาสการแสดงในบทบาทอื่นๆ ของเรายากขึ้น?

"ยากครับ แต่มันก็ยังมีข้อดีตรงที่ทำให้กันสามารถแสดงร่วมกับน้องๆ ได้อยู่ บวกกับกันเองก็โชคดีที่ค่ายของเรามีซีรีส์วัยรุ่นเยอะ ซึ่งเขาสามารถนำกันไปแสดงได้ ถ้าหากกันยังเหมาะกับบทนี้"

ในมุมมองส่วนตัวของกัน กันคิดว่า พรสวรรค์ กับ พรแสวง อันไหนช่วยให้เราไปสู่เป้าหมายได้เร็วกว่ากัน?

"มันต้องไปด้วยกันครับ เราไม่สามารถมีแค่อย่างใดอย่างหนึ่งได้ เพราะถ้าเรามีพรสวรรค์ แต่เราไม่ฝึกฝน ไม่ขวนขวาย หรือไม่มีพรแสวงในการพัฒนาตัวเอง เราก็ไปไม่สุดหรอกครับ"

ถ้าให้พูดถึง 3 สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเรา กันนึกถึงอะไร?

"เตี้ย (หัวเราะ) ตัวเล็ก สนุกสนาน และก็ไม่ค่อยคิดมากครับ"

วีรกรรมสมัยเรียนของเราที่รู้สึกว่าโก๊ะมากๆ มีอะไรบ้าง?

"เอ่อ...มันเชิงว่าเป็นเรื่องโก๊ะหรอกครับ แต่เป็นเรื่องที่คนอื่นเขาไม่ทำก้นมากกว่า อย่างเช่นการที่กันต้องพกถุงเท้าไปโรงเรียน 2 คู่ ทุกวัน คือมีถุงเท้าสั้นกับถุงเท้ายาว เนื่องจากเวลาเข้าโรงเรียนกันจะใส่ถุงเท้ายาวก่อน แต่พอผ่านอาจารย์ได้กันก็จะเอาถุงเท้าสั้นออกมาใส่ ซึ่งเหตุผลก็เพราะกันรู้สึกเองว่า กันใส่ถุงเท้ายาวไม่ได้ มันจะให้กันดูตัวเล็ก"

เหมือนเราบอกว่าเราไม่รู้ว่าพรสวรรค์ของตัวเองคืออะไร แต่เท่าที่ฟังมาเราเองก็มีเซ้นต์ในเรื่องการแต่งตัวสูงอยู่นะ?

"แต่จริงๆ บางครั้งเวลากันแต่งตัว กันก็มักจะเลือกเสื้อผ้าที่ไม่เข้ากับตัวเองนะ เช่นคนอื่นเขาบอกว่าคนตัวเล็กไม่ควรใส่เสื้อโอเวอร์ไซส์ แต่กันก็ใส่ กันชอบใส่มาก"

โดยส่วนตัวเราเอง เราคิดว่าเราเป็นคนแต่งตัวเก่งหรือเปล่า?

"เอ่อ...กันไม่คิดว่ากันแต่งตัวเก่ง แต่กันชอบดู ชอบหาข้อมูลเรื่องการแต่งตัวมากกว่า ซึ่งกันสามารถดูได้ทั้งวัน ดูว่ามันมีแฟชั่นอะไรบ้าง และถ้าเจอแบบที่ชอบกันก็จะเก็บไว้เพื่อเอาไปปรับใช้กับตัวเอง แต่ถ้าถามว่าไอดอลการแต่งตัวของกันคือใคร เอาตรงๆ ไม่มีเลยครับ กันใช้วิธีดูไปเรื่อยๆ มากกว่า ถ้าชอบเราก็เอามาเป็นแรงบันดาลใจแค่นั้นเอง"

สำหรับเราที่เป็นตัวเล็ก เราคิดว่าเรื่องนี้มันทำให้การแต่งตัวของเรายากขึ้นไหม ?

"ตอนแรกคิดว่ามันยากครับ คิดว่ามันคงใส่อันนั้นอันนี้ไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้ถ้าใครมาบอกกันว่าห้ามใส่อะไร อย่างเช่นห้ามใส่กางเกงใหญ่ขากอง กันก็จะใส่ กันใส่หมด เพราะกันใส่ได้ ซึ่งคนอื่นอาจจะรู้สึกว่ามันดูเตี้ย ก็ไม่เป็นไร"

สุดท้ายแล้วอยากให้กันช่วยฝากผลงาน สำหรับแฟนๆ ที่รอติดตามผลงานของเราอยู่ ?

"ก่อนอื่นเลยต้องขอฝากรายการ รถโรงเรียน School Rangers ด้วยนะคร้บ และก็ฝากซีรีส์เรื่องใหม่ THE GIFTED นักเรียนพลังกิฟต์ ด้วยนะครับทุกคน เรื่องนี้กันตั้งใจมากๆ มากจริงๆ"