5 เรื่องสยอง "ตำนานเรื่องผีของมหาวิทยาลัย" ทางภาคเหนือ

5 เรื่องสยอง "ตำนานเรื่องผีของมหาวิทยาลัย" ทางภาคเหนือ

5 เรื่องสยอง "ตำนานเรื่องผีของมหาวิทยาลัย" ทางภาคเหนือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใช่มหาวิทยาลัยที่เพื่อนๆ เรียนอยู่หรือไม่ ลองมาอ่านดูกัน? 5 เรื่องสยอง ตำนานเรื่องผีของมหาวิทยาลัย ทางภาคเหนือ

istock-482614031

ทุกๆ สถานที่ย่อมมีตำนานและเรื่องเล่าสืบต่อกันมา ยิ่งเป็นสถานที่ ที่มีอายุหลายสิบปีแล้ว ย่อมที่จะมีผู้เข้าออกมากหน้าหลายตา และสร้างตำนานจนกลายเป็นที่กล่าวขานของผู้คนรุ่นหลังนั่นเอง ซึ่งในครั้งนี้ Sanook Campus เราก็ได้รวบรวมเรื่องเล่า ตำนานเรื่องผีของมหาวิทยาลัย ทางภาคเหนือมาฝากเพื่อนๆ กัน ลองอ่านดูแล้วเดาดูนะว่าใช่มหาวิทยาลัยที่เพื่อนๆ เรียนอยู่หรือไม่

โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน

ป๊อกครืด

เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของหอหญิงเจ็ด ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกันอยู่ ซึ่งนักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้องตอนหัวค่ำ แล้วเพื่อนร่วมห้องชวนไปทานข้าว แต่เพราะเป็นไข้อยู่ จึงไปไม่ไหวอยากพักผ่อน พอเพื่อนคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วงจึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองก็ได้ แล้วจะห่อข้าวมา คนที่ไม่สบายจึงฝากซื้อราดหน้าแล้วขอบคุณเพื่อนไป หลังจากที่เพื่อนออกไปจากห้องเธอก็นั่งอ่านหนังสือต่อ อ่านได้สักพักก็ไม่ไหวเพราะไข้ขึ้นจึงนอนพัก ตอนนอนอยู่นั้นสะลึมสะลือ แต่มีความรู้สึกว่านานมากแล้ว ทำไมเพื่อนยังไม่กลับมาซะที

ตกดึก ฝนเริ่มตกหนัก เธอก็ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือต่อ ในใจเป็นห่วงเพื่อน เพราะออกไปนานมากยังไม่กลับ สักพักเธอได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่างจากทางบันได ” ป๊อก …………ป๊อก ………ป๊อก เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันไดดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องเธอ แล้วเสียงก็เปลี่ยนไปเป็นเสียง “ครืดยาวๆ เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรสักอย่างใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง เธอเริ่มเอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว แต่ยังเงียบ อึดใจหนึ่งก็มีเสียงเคาะห้อง “ ก๊อก ก๊อก ก๊อก ” แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่เพื่อนแน่แล้ว ถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่ พอเห็นราดหน้า ก็งง แล้วเพื่อนอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมา หรือติดฝนเลยฝากคนอื่นเอามาให้ แต่แล้วก็แกะห่อราดหน้าแล้วทาน หลังจากนั้นก็ทานยาตามได้สักพักก็หลับไป

รุ่งเช้า…………… มีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืน ตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ ลักษณะศพสภาพแขนและขาทั้งสองข้างหัก อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาดหลังจากทานข้าวเสร็จ เพราะทุกทีจะไปกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่สบายจึงไปคนเดียว โดยเพื่อนฝากซื้อข้าวห่อ คนร้ายอาจเห็นว่าเป็นคนเดียวจึงลงมือ แล้วราดหน้าเมื่อคืนล่ะ? ไม่มีใครรู้คำตอบแน่ชัด แต่จากที่ฟังกันมาคือ หลังจากที่ตายไปแล้ว ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนเพราะว่าไม่สบาย และยังหิว จึงนำห่อราดหน้าที่ซื้อมาฝากไปส่งให้แต่จะไปส่งยังไง แขนหัก ขาหักหมด

แล้วลักษณะที่เขาเล่ามาคือ เพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบถุง แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันได ลากตัวเองขึ้นมา เป็นเสียง “ ป๊อก ป๊อก ” เสียง “ ครืด ”ที่ได้ยิน คือเสียงลากตัวเองจากบันได มาจนถึงหน้าห้องปรากฏเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกัน หลังจากส่งห่อราดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง… ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่า แต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังยกของหนัก และลากของหนักจากข้างล่างขึ้นมา แล้วทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ

เปรตหอนาฬิกา

อันเนื่องจากเคยเป็นป่าช้าและลานประหารเก่ามาก่อน ทำให้เรื่องเล่าเรื่องผีทั้งเก่าและใหม่มีมากมาย เรื่องนี้อยู่ที่หอนาฬิกาใหญ่ ตรงสี่แยกจากประตูหลังมหาวิทยาลัย ตรงนั้นจะเป็นวงเวียนสี่แยก ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้เป็นคณะวิศวะ ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เป็นคณะศึกษา และโรงเรียนสาธิต ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ เป็น หอ 4 ชาย และฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหอ 6 หญิง เรื่องนี้เล่ากันว่า ตรงหอนาฬิกา กลางวงเวียน มีเปรต หากไปลองของ อาจโดนดีได้

วิธีการลองดีคือ ตอนเที่ยงคืน ให้ไปขับรถวนทวนเข็มที่หอนาฬิกา สามรอบ (ปกติวงเวียนจะให้รถขับวนตามเข็มนาฬิกา) เล่ากันว่า ผู้ที่ลองทำอย่างนั้นไม่เคยมีใครขับรถทวนเข็มนาฬิกาได้ครบสามรอบสักคน ผู้มีประสบการณ์เล่าว่าในขณะที่วนรถอยู่นั้น จะรู้สึกได้ถึงลมที่เย็นผิดปกติ แต่วนไปรอบสองก็ไม่เกิดอะไรขึ้น มาเกิดตอนที่จะครบรอบที่สาม จู่ ๆ ก็มีเสาสองต้นมาตั้งขวางถนนอยู่ ทำให้ต้องหักรถหลบ รถล้มบ้างแฉลบบ้างไปตามๆกัน ใครอยากรู้ก็ลองดูเอง

อีกกรณีหนึ่งมีข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่านักศึกษาที่พักอยู่ในหอพักชาย 4 และหญิง 6 ฝั่งที่ติดกับหอนาฬิกา มักได้ยินเสียงแหลมๆเล็ก ดังมาจากทางหอนาฬิกา สอบถามแล้วคืนนั้น เด็กสาธิตไม่มีการทำกิจกรรมและคณะวิศวะไม่มีกิจกรรม หรือการก่อสร้างใดๆ และที่สำคัญบางห้องได้ยิน บางห้องไม่ได้ยินทั้งที่อยู่ติดกัน?

ห้องสีชมพู

เรื่องนี้เกิดที่หอหญิง ไม่แน่ใจว่า 7 หรือ 4 เป็นเรื่องของนักศึกษาหญิงที่เข้ามาพักในหอใน แล้วไปมีอะไรกับผู้ชายแล้วเกิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมา รู้ตัวเอาตอนท้องได้ 4 เดือนแล้ว แต่มันยังไม่ป่องออกมาจึงปิดเงียบไม่ให้ใครรู้ แม้แต่เพื่อนร่วมห้อง ทำยังไงถึงจะเอาออกได้ พลาดไปแล้ว แต่ไม่อยากเสียอนาคต ไม่มีเงินทำแท้ง แฟนไม่รับผิดชอบ จึงตัดสินใจเอาออกเองในห้องพัก โดยเลือกตอนช่วงที่เพื่อนไม่อยู่ ทำเองคนเดียว โดยไม่ทราบวิธีการ ปรากฏว่าผลร้ายกว่าที่คิด นักศึกษาคนนั้นตกเลือดตายในห้อง เพื่อนมาพบศพตอนเย็น เห็นรอยเลือดกระจัดกระจายติดฝาผนังบ้างก็มี

หลังจากจัดการเรื่องศพเรียบร้อยแล้ว (รวมถึงทำความสะอาดห้อง) โดยที่เพื่อนร่วมห้องของผู้ตายก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด เห็นรอยเลือดสีจางๆ ติดอยู่ที่ผนังสีขาว ก็เลยให้คนเอาสีขาวมาทาทับ วันรุ่งขึ้นเปิดเข้าไปทำความสะอาดรอยเลือดยังมีอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะทำยังไง ทั้งขัด ทั้งถู หรือทาสีใหม่ รอยเลือดนี้ก็ยังไม่หายไป จนสุดท้ายทางหอพักจึงต้องนำสีชมพู ไปทาทั้งห้อง เพื่อไม่ให้เห็นรอยเลือด กลายเป็นห้องสีชมพูตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันเป็นห้องเก็บของที่ปิดตาย เคยมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดที่ห้องนี้ แล้วออกจากห้องไม่ได้ เพราะลูกบิดถูกล็อค (ทั้งที่ตัวล็อคอยู่ในห้อง)

ผีห้องน้ำหอ 7 ญ.

รุ่นน้องอยู่หอ 7 หญิงเหมือนกัน เล่าว่า ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำ (รวมตอนกลางคืน) ชั้น 3 เข้าไปอาบน้ำในห้องที่เขากั้นให้อาบน้ำ โดยไปอาบที่ห้องในสุด สักพักได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาอาบน้ำในห้องข้างๆ ได้ยินเสียงฝักบัว แถมยังมีน้ำกระเซ็นเข้ามาที่ห้องตัวเองอาบอยู่อีกต่างหาก แต่รุ่นน้องอาบน้ำช้า ห้องข้าง ๆ เลยกลับออกไปก่อน พอรุ่นน้องอาบน้ำเสร็จ เปิดห้องออกมา ตอนออกก็ต้องเดินผ่านห้องข้าง ๆ อยู่แล้ว เพราะตัวเองอาบห้องในสุด แต่ห้องข้าง ๆ ไม่มีร่องรอยการอาบน้ำเลย ตรงฝาผนังและพื้นแห้งสนิท

ที่ห้องอาบน้ำชั้น 2 รุ่นพี่ซึ่งแก่กว่าประมาณ 3 ปี เล่าให้ฟังว่า กำลังจะเข้าไปอาบน้ำ ทั้งห้องมีอยู่คนเดียว กำลังจะสระผม รู้สึกว่ามีน้ำกระเด็นมาจากห้องข้างๆ แต่ไม่มีเสียงน้ำ ด้วยความสงสัย จึงหยุดแล้วไปดูห้องข้างๆ ก็ไม่เห็นมีน้ำรั่วหรือซึม ทั้งผนังและเพดาน เรียบร้อยทุกอย่าง พอเข้าห้องมาจะอาบ น้ำก็กระเซ็นมาอีก คราวนี้ไม่อยู่แล้ว เก็บของออกจากห้องน้ำไปเลย

คณะสังคมศาสตร์

ที่ห้องน้ำคณะสังคมศาสตร์ ที่เก่า ๆ หน่อย ลองไปหาดูเอาเอง ลักษณะห้องน้ำคือ ประตูทางเข้าอยู่ตรงกลาง เมื่อเข้าไปแล้วโถฉี่จะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนอ่างล้างหน้า กับกระจกส่องหน้าจะอยู่ทางขวา รุ่นพี่ที่อยู่คณะสังคมฯ เล่าว่ามีคนเล่าให้ฟังว่า ตอนกลางคืนช่วงใกล้สอบ ได้ไปอ่านหนังสือที่คณะสังคมฯ แล้วปวดฉี่เลยไปฉี่ที่ห้องน้ำแห่งนี้ ไปเข้าห้องน้ำคนเดียว คนอื่นๆ ก็นั่งอ่านหนังสือต่อ คนไปฉี่ก็เข้าไปฉี่ธรรมดา ในห้องน้ำมีโถฉี่สองอัน อันแรกติดประตู อันที่สองอยู่ด้านขวา ถัดไปข้างในอีก เขาบอกว่า ตอนจะฉี่ ก็จะฉี่ที่โถแรก เพราะใกล้ แต่ไม่รู้นึกยังไง เลยเดินเลยไปฉี่ที่โถด้านใน ตอนกำลังฉี่ก็ยังไม่มีอะไร แต่ตอนฉี่เสร็จแล้ว มองออกไปที่กระจก ภาพในกระจกสะท้อนให้เห็นว่า กำลังมีคนยืนฉี่อยู่ที่โถฉี่อันแรก! (แต่หันหลังให้) นึกว่าตาฝาดเพราะหันไปดูก็ไม่มีอะไร แต่พอไปดูในกระจก ก็เห็นเหมือนเดิม?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook