เด็กยุคนี้ ไม่สนใจ "เรียนแพทย์" เหมือนเมื่อก่อน งานหนัก เงินไม่ได้ดีไปกว่าอาชีพอื่นๆ

เด็กยุคนี้ ไม่สนใจ "เรียนแพทย์" เหมือนเมื่อก่อน งานหนัก เงินไม่ได้ดีไปกว่าอาชีพอื่นๆ

เด็กยุคนี้ ไม่สนใจ "เรียนแพทย์" เหมือนเมื่อก่อน งานหนัก เงินไม่ได้ดีไปกว่าอาชีพอื่นๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อนาคตจะเป็นอย่างไร เมื่อเด็กยุค 4.0 มีความคิดที่ว่า ขายของออนไลน์สร้างเงินได้เยอะ ไม่สนใจ เรียนแพทย์ เหมือนเมื่อก่อน เพราะงานหนัก เงินไม่ได้ดีไปกว่าอาชีพอื่นๆ

 istock-4705354805555555555555

จากการประชุมคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2561 ได้มีช่วงหนึ่งที่ได้กล่าวถึงแนวโน้มที่น้อยลงของการสมัครเข้าเรียนของเด็กนักศึกษาแพทย์ ที่เรียกว่าค่อยๆ น้อยลงจนน่ากลัวเลยทีเดียว

น.ส.วัฒนาพร สุขพรต ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างน่าเป็นห่วง สหรัฐอเมริกาพบการปิดมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก ส่วนประเทศไทยคาดการณ์กันว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะต้องมีการยุบ ยกเลิกมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอน เพราะการลงทุนสูงมาก ขณะที่เงินในภาคการผลิตบัณฑิตไม่เข้าเป้า แต่จำนวนอาจารย์มากขึ้นเรื่อยๆ

มหาวิทยาลัยในอนาคตจะต้องเหลือการผลิตเฉพาะที่ชำนาญเท่านั้น มิเช่นนั้นจะหาคนเรียนไม่ได้ นี่คือการปรับตัวครั้งใหญ่ การขอจัดตั้งคณะแพทย์ 1 คณะเพื่อเพิ่มการผลิต ก็จะถามทันทีว่าจะเอาคนที่ไหนมาเรียน สิ่งนี้เป็นเรื่องที่มหาวิทยาลัยต้องตระหนัก

น.ส.วัฒนาพร กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องปรับบทบาท โดยขณะนี้เรากำลังจำแนกมหาวิทยาลัยตามบทบาท เช่น มหาวิทยาลัยที่ขนาดใหญ่ๆ อาจต้องเน้นการวิจัยมากกว่าการผลิตบัณฑิต และการวิจัยก็ต้องไม่ได้อยู่บนหิ้ง แต่ต้องลงมาอยู่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่สำคัญก็คือต้องปรับกระบวนการเรียนการสอนควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติจริงร่วมกับภาคเอกชน เพราะหากผลิตขึ้นมาโดยไม่สนใจเอกชน ก็เท่ากับผลิตบัณฑิตออกมาไม่ตรงตามความต้องการของตลาด

 istock-499091162

ทุกวันนี้ google เขาเปิดหลักสูตรเองแล้ว เขาไม่พึ่งมหาวิทยาลัยแล้ว แล้ว google จะรับรองให้ด้วยว่าเด็กจบจากเขา และเขาก็จะรับคนจากหลักสูตรที่เขาผลิตขึ้นมาเอง ประเด็นคือภาคเอกชนสามารถทำบางอย่างตามความต้องการของเขาได้ รวมไปถึงในอนาคตคือเด็กจะไม่มาเรียนในมหาวิทยาลัยหรือในห้องเรียนอีกแล้ว แต่เด็กจะทำงานไปเรียนไป คือเขาอยากรู้เรื่องอะไรเขาค่อยมาเรียน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการปรับกระบวนการสอน และทำให้มหาวิทยาลัยกับภาคเอกชนจับมือกัน

สำหรับภาคสาธารณสุขก็คงไม่แตกต่างกันมาก โดยเฉพาะแพทย์เป็นรูปธรรมที่เห็นชัดว่าจำเป็นต้องลงไปในระดับปฏิบัติ แต่ในอนาคตก็ไม่มั่นใจว่าเด็กจะเลือกเรียนแพทย์เป็นอันดับหนึ่งอยู่หรือไม่ นั่นเพราะเริ่มมีเสียงบ่นว่าเรียนหนัก ทำงานหนัก เงินเดือนไม่ได้ดีไปกว่าวิชาชีพอื่นๆ ทุกวันนี้เด็กสนใจเรื่องผลประโยชน์กับค่าตอบแทน เขาค้าขายผ่านหน้าเว็บเขาก็ได้เดือนละเป็นแสนๆ

ในจุดนี้คงจะสรุปได้ง่ายๆ เลยว่า อนาคตการศึกษาไทยผลิตกำลังคนอาจไม่ตอบโจทย์ เพราะงานหนักแต่เงินน้อยกว่าขายของออนไลน์ แต่เอาเข้าจริงแล้ว การเรียนแพทย์ก็ยังถือว่าเป็นการเรียนที่มีประโยชน์และสร้างบุคลากรที่ขับเคลื่อนประเทศได้เป็นอย่างดี ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าในอนาคตอันใกล้นี้มุมมองของอาชีพแพทย์ของเด็กยุคนี้จะเปลี่ยนไปได้แค่ไหน?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook