รวม 4 เรื่องเล่าสุดหลอนในธรรมศาสตร์ ถ้าใครแน่จริง เราท้าให้คุณอ่าน!

ทุกๆ สถานที่ย่อมมีประวัติของแต่ละที่อยู่ ยิ่งเป็นสถานที่ ที่มีอายุนานๆ หลายสิบปี ก็ไม่แปลกเลยที่จะมีเรื่องเล่าที่เป็นตำนานของสถานที่นั้นๆ ซึ่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เป็นอีก 1 สถานที่ ที่ขึ้นชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับ ไม่แพ้กับเรื่องการเรียนเลย โดยในครั้งนี้เราก็เลยได้ รวม 4 เรื่องเล่าสุดหลอนในธรรมศาสตร์ ถ้าใครแน่จริง เราท้าให้คุณอ่าน! คุณอาจได้รู้เรื่องที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน จะมีเรื่องอะไรบ้าง เรามาหลอนไปพร้อมๆ กันเลย

หอใน โซน B และ C

หอพักในโซน C มีผู้หญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่ในห้อง แล้วมักจะได้ยินเสียงคล้ายๆโทรศัพท์สั่น แต่เขาก็ไม่คิดอะไร จนวันหนึ่งแม่ของเธอมาที่หอแล้วพาเพื่อนมาด้วย ซึ่งเพื่อนแม่คนนี้เป็นคนที่มีจิตสัมผัส ผู้หญิงเจ้าของห้องก็เลยเล่าให้เขาฟัง แล้วเขาก็ถามเลขห้อง ก็บอกไป เพื่อนแม่บอกว่า” เนี่ย เคยมีคนทำแท้งในห้องเรา แต่ไม่มีอะไรเขาแค่อยากมาเล่นด้วย คุยเล่นกับเขาบ้าง มีอะไรก็เรียกเขากิน แบ่งเขา ซื้อน้ำแดงซื้ออะไรมาวางไว้ให้เขาเล่นหน่อย ก็นั่งคุยๆกันไปจนแยกย้ายกลับบ้าน ตอนนั้นมีกีต้าร์ตัวนึง ยืมเพื่อนมา ผู้หญิงคนนี้ชอบเล่นกีต้าร์ไปร้องเพลงไป จะเล่นบ่อยตอนเวลาได้ยินเสียงอะไรสั่นๆ ก็จะหยิบมาเล่น แล้วคืนนั้นก็จะไม่มีเสียงเลย เลยอุปทานไปว่า น้องเขาชอบฟังเราเล่นกีต้าร์หรอ ทุกวันก็เลยจะนั่งเล่นกีต้าร์หลังจากกลับมาที่ห้อง แต่ระหว่างตอนเล่นกีต้าร์ปกติกีต้าร์จะพาดที่ขาขวา แต่ขาที่ข้างซ้ายดันชาเหมือนมีอะไรมาทับตลอดเวลา แต่พอเล่นจบแล้วพูดว่า เล่นเสร็จแล้วลุกได้แล้ว อาการแบบนี้ก็หายไปเฉย ทำแบบนั้นทุกวันจนเหมือนสิ่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอเป็นเวลาเกือบเดือน แล้ววันหนึ่งเจ้าของห้องก็คอลไลน์คุยกับแฟน อยู่ดีๆ ผู้หญิงเจ้าของห้องก็อยากเล่นกีต้าร์ขึ้นมา เมื่อเล่นไปแล้ว แฟนก็พูดขึ้นมาว่าให้กด mute ก่อน แล้วค่อยเล่นให้จบ เมื่อเล่นจบ แฟนของเธอก็เล่าให้ฟังว่า ฟังไม่ได้ เขาไม่ให้ฟัง ดึงหูฟังออกแล้วก็ยังได้ยินเสียงบาดหูอยู่ ซึ่งนั่นเป็นเสียงของผีนั่นเอง ที่ไม่อยากให้คนอื่นฟังด้วย

หอพักบริเวณโซน B จะมีสนามเด็กเล่นอยู่ มีคนเล่าให้ฟังว่า บางทีก็เห็นเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มาเล่นเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นในตอนดึกๆ ซึ่งได้มารู้ทีหลังว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของคนงานก่อสร้างที่เคยเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เขาจึงสร้างสนามเด็กเล่นนี้ให้

อีกเหตุการณ์เกิดที่โซน B เช่นกัน เป็นโซน B ชาย เรื่องมีอยู่ว่าจะมีผีผู้หญิงคนหนึ่งที่จะมากระโดดตึกฆ่าตัวตายวนเวียนอย่างนั้นทุกปี แต่ละปีจะเลือกห้องไม่ซ้ำกัน โดยเขาจะมาเคาะประตูห้อง แล้วคืนหนึ่ง ผู้ชายเจ้าของห้องมองลอดตาแมวแล้วสงสัยว่านี่หอชาย แล้วผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาได้ยังไง เปิดมายังไม่ทันจะพูดอะไร ก็เห็นผู้หญิงก้มหน้าร้องไห้ แล้วก็กรี๊ดดดดดดดดด!!! จากนั้นก็วิ่งตัดหน้าตรงไปที่ระเบียง แล้วกระโดดลงไปต่อหน้าต่อตาเลย ผู้ชายคนนั้นกลัวมาก เลยจะลงไปถามป้ายามให้รู้เรื่องว่ามันเคยมีอะไรเกิดขึ้นกันแน่ แต่จะให้ลงลิฟต์ก็กลัวเพราะดึกแล้ว จึงตัดสินใจเดินลงบันไดหนีไฟลงไป จนลงไปเกือบถึงชั้นสุดท้าย แล้วเค้าก็ได้เห็นผีผู้หญิงที่กระโดดลงไปต่อหน้าเขาเมื่อกี๊ เดินสวนกลับขึ้นมา

หอพระ

มีคนเล่าว่าเคยเข้าไปไหว้พระที่หอพระตรงข้ามหอสมุดป๋วยแล้วถ่ายรูปมา ในรูปเห็นหัวของผู้หญิงเกินมาหนึ่งหัวซึ่งไม่ใช่เพื่อนที่ไปด้วยกัน พอเอารูปมาลงใน Facebook แล้วมองดูดีๆ ก็เห็นเป็นรูปร่างหน้าตาชัดเจนเลย มีผีอยู่ในหอพระ

และบริเวณใกล้เคียงอีกที่ คือ พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติที่จัดแสดงวัตถุทางวัฒนธรรมต่างๆ ทั้งโบราณและร่วมสมัย มักจะมีเรื่องเล่าแปลกๆ มากมายให้ได้ยินกัน เช่น เคยมีรปภ.ที่เฝ้าตอนกลางคืนคนหนึ่งเล่าว่า บางคืนไฟในพิพิธภัณฑ์ก็เปิดปิดเอง บางคืนก็ได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่น บางคนก็เล่าว่าเคยเห็นชายแก่คนหนึ่งนั่งยองๆ อุ้มตู้พระไตรปิฎกซึ่งเป็นโบราณวัตถุชิ้นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์เอาไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของคนเก่าที่บริจาคโบราณวัตถุชิ้นนี้ให้กับพิพิธภัณฑ์

ทางปั่นจักรยาน บร.1-4

นานมาแล้ว มีนักศึกษาอยู่คนนึง ออกมาขี่จักรยานกลางดึก ซึ่งสายนี้เป็นที่รู้กันว่าเปลี่ยวและมืดมาก แถมไฟก็ดับๆติดๆ ตรงบริเวณบร.1-บร.4 ระหว่างทางที่เขากำลังขี่จักรยาน เขาก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนนั่งซ้อนท้ายๆ ทั้งๆ ที่เขามาคนเดียว แต่เขาก็ไม่ได้หันไป รีบขี่มุ่งหน้ากลับหอ พอพ้นบร.4 แล้วรู้สึกว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างหลัง จนทำให้เป็นเรื่องเล่าขานกันว่า อย่าผ่านสายบร.ในเวลากลางคืนมิเช่นนั้นก็อาจจะมีคนซ้อนท้ายรถจักรยานโดยไม่รู้ตัว!

สะพานดาว

น้องคนนึงเคยเห็นผู้หญิงผมยาวชุดขาวมองหน้า ก่อนที่เธอคนนั้นจะค่อยๆ เดินลงน้ำไปตอนดึก คืนนั้นน้องเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนนั้นมาเข้าฝันให้ไปทำบุญให้และเพื่อนอีกคนนึงที่มีเซนส์ เคยเห็นคนเดินตามตั้งแต่สะพานดาว ขึ้นรถเอนจีวี จนถึงหน้าห้อง ปรากฏว่าเป็นผู้ชายไม่มีขามายืนรอหน้าประตูประมาณ 3-4 วันไม่ยอมไปไหน

เพื่อนเคยเล่าให้ฟังเรื่องตำนานสะพานดาวว่า มีเด็กแพทย์ 3 คนไปเดินเล่นที่สะพานดาวตอนกลางคืน ระหว่างทางเดินสะพานทั้งสามคนเห็นคนกระโดดลงน้ำ และไม่รู้จะทำตัวอย่างไร คนแรกเลยกระโดดลงไปช่วย แล้วคนที่ 2 ก็กระโดดตาม อีกคนโทรเรียกให้เพื่อนมาช่วย สักพักเพื่อนคนที่ 2 ลอยตัวขึ้นมา แต่คนแรกหายไปเลยคิดว่าจมน้ำจึงงมหาต่อ สักพักเพื่อนที่โทรบอกให้เพื่อนขึ้นมาบอกว่าไม่ต้องหาแล้ว เพราะว่าเพื่อนที่โทรหาบอกว่า เพื่อนคนแรกที่จริงแล้วนั่งอ่านหนังสืออยู่ แล้วคนที่เดินมาด้วยตอนแรกคือใคร แล้วเห็นใครกระโดดน้ำ