กระแสนิยมของหรู เมื่อคุณค่าของคนอยู่ที่ของใช้ภายนอก

กระแสนิยมของหรู เมื่อคุณค่าของคนอยู่ที่ของใช้ภายนอก

กระแสนิยมของหรู เมื่อคุณค่าของคนอยู่ที่ของใช้ภายนอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดูเหมือนว่าค่านิยมของคนในสมัยบริโภคนิยมนี้ เกิดการวัดคุณค่าของบุคคลจากสิ่งของเครื่องใช้ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าเหล่านี้มักจะมีราคาสูง อย่างที่เรียกกันว่า แบรนด์เนม นั่นเอง ทำให้กลายเป็นว่าสินค้าข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของคนในสังคมอยู่สูงมากทีเดียว

สิ่งเหล่านี้กลายเป็นปัญหาได้อย่างไร ?

ปัญหาอยู่ตรงที่ผู้คนส่วนมากมองในเรื่องของคุณภาพเป็นเรื่องรอง แต่มองที่กระแสความนิยมและใช้เป็นเครื่องมือในการวัดความมั่งมีของแต่ละบุคคลเสียมากกว่า เกิดเป็นปรากฏการณ์แห่ซื้อตาม ๆ กันโดยเพียงเพื่อสนองความต้องการของตนเอง ไม่สนเรื่องทุนทรัพย์ที่แม้ไม่เอื้ออำนวยแต่อย่างน้อยขอมีของแบรนด์เนมอยู่ในมือก็พอ

ทั้งที่คุณค่าที่แท้จริงของสินค้าต่าง ๆ ที่ราคาสูงลิบจนหลายคนยากที่จะไขว่คว้า ล้วนมีที่มาที่ไปจากทั้งความประณีต สีสันลวดลายที่คิดออกมาอย่างถี่ถ้วน คุณภาพของวัสดุที่เสริมการใช้งาน ทำให้สินค้าเหล่านี้มีราคาที่สูงกว่าทั่วไป แต่ถึงอย่างไรแล้วหลายคนกลับมองถึงเพียงกระแสความนิยมของวัตถุชิ้นนั้น ๆ เท่านั้น

photo-1529025530948-67e8a5c69

กระแสเป็นเหตุให้ของปลอมระบาด

ด้วยความฮิตของสินค้าที่แต่ละแบรนด์สรรสร้างออกมาเพื่อขับเคลื่อนแฟชั่นในสังคม สิ่งที่ตามมาคือของลอกเลียนแบบ ที่ทำลายห่วงโซ่การค้าของแบรนด์ใหญ่อย่างไม่น่าให้อภัย ผนวกกับตรรกะความเข้าใจของคนบางส่วนในสังคมที่ผิดเพี้ยนส่งเสริมของลอกเลียนแบบอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งหากพูดตามตรงของปลอมเท่ากับผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ธุรกิจของสินค้าลอกเลียนแบบนั้นเติบโตและคงอยู่ได้ในทุกวันนี้

ด้วยความเป็น วัตถุนิยม อยู่มากในสังคมสมัยนี้ ที่สนใจเพียงรูปลักษณ์เป็นสำคัญบดบังการมองเห็นถึงคุณภาพของสินค้าที่ดีที่มีอยู่จนมิด ซึ่งคำอ้างคลาสสิคคงหนีไม่พ้นการยกเหตุผลว่า “คนที่ซื้อของแพงนั้นโง่” “ใช้ของปลอมแล้วไง ไม่ได้ขอใครกินแล้วกัน” ซึ่งเป็นเพียงเหตุผลที่ตื้นเขินเกินกว่าจะมีน้ำหนักให้เห็นใจ

ซึ่งอันที่จริงแล้ว คนที่ใช้ของแพงนั้นไม่ใช่คนที่หลงใหลในวัตถุนิยม หากแต่คนที่เป็นวัตถุนิยมนั้นคือคนที่ใช้ของปลอมต่างหาก เพราะหากมองให้ถึงแก่นจริง ๆ คนที่ใช้ของปลอมนั้นเพียงแค่หลงใหลไปกับกระแสนิยมเท่านั้น ไม่ได้มองถึงคุณค่าหรือคุณภาพของงานสร้างสรรค์แม้แต่น้อย ผิดจากคนที่หลีกเลี่ยงสินค้าลอกเลียนแบบ เพราะมองเห็นถึงคุณค่าของสินค้าที่อยู่ในมือทั้งเรื่องของคุณภาพและการสนับสนุนเจ้าของลิขสิทธิ์ผู้คิด

และในความเป็นจริง หากจะบอกว่าสินค้าของแท้นั้นราคาสูงก็ไม่ถูกต้องไปเสียหมด เพราะสินค้าหลากหลายประเภทที่เป็นของแท้แต่ราคาย่อมเยาเข้าถึงง่ายก็มีอยู่ เพียงแต่คนไม่เสาะหากันแบบกระแสสินค้าระดับไฮเอนด์เท่านั้น

photo-1544365820-dc3971d5fd71

ผ่อนซื้อของแท้ระดับ Hi-End ?

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าสินค้าระดับหรู เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ยี่ห้อดัง ๆ ที่ใช้กันอยู่นั้น มีคนจับเอามาสร้างธุรกิจที่ไม่ใช่การหิ้วส่ง แต่เป็นการจัดไฟแนนซ์ผ่อนซื้อนั่นเอง

Tonkit360 ได้สอบถามข้อมูลแนวการทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมแบบผ่อนซื้อจากร้าน SIAM EASY BAGS ได้ข้อมูลเบื้องต้นว่า โดยปกติแล้วแต่เดิมทางร้านขายสินค้าแบรนด์เนมปกติ แต่เนื่องจากมีลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้ากับทางร้านขอซื้อสินค้าโดยผ่อนเป็นงวด จึงมีการริเริ่มจับช่องทางการขายผ่อนสินค้าแบรนด์เนม

โดยขั้นตอนก็ไม่ซับซ้อน เพียงแต่แจ้งความจำนงว่าต้องการสินค้าตัวไหน จากนั้นทางร้านจะเป็นฝ่ายตามหาและสต็อคสินค้าชิ้นนั้นไว้กับทางร้านอย่างดี และประเมินราคาต่องวดและระยะเวลาสำหรับการผ่อนของลูกค้า ซึ่งแตกต่างกันออกไปและขึ้นอยู่กับสภาพคล่องรวมถึงความฮิตของสินค้าในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งมีทั้งแบบ 10, 8, 6 งวดเป็นส่วนใหญ่

โดยสินค้าส่วนมากจะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังอย่าง Louis Vuitton, CHANEL, Gucci ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เกินกว่า 90% นั้นเป็นผู้หญิงในวัยทำงาน อย่างพนักงานเอกชนทั่วไป รวมถึงนักเรียนนักศึกษาก็มีด้วยเช่นกัน

แต่ทั้งนี้ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ไม่ใช่การเชิดหนี เพราะตลอดระยะเวลาการผ่อนชำระสินค้าจะยังอยู่กับทางร้านและเก็บรักษาอย่างดีแบบพรีเมียม แต่ที่พบเจอส่วนใหญ่จะเป็นการเปลี่ยนใจกลางคันของตัวลูกค้าเองเมื่อผ่อนสินค้าไปได้ระยะเวลาหนึ่ง(อยากได้ชิ้นอื่นแทน) แต่เนื่องจากสินค้าทุกชิ้นนั้นมีค่าความเสื่อมของราคาและการขายออกไปจะเป็นการปล่อยต่อในราคามือสองซึ่งราคาจะตกลงไปเยอะ การเปลี่ยนใจกับของชิ้นใหม่จึงเป็นไปได้ยาก

ซึ่งหากมองให้ดี การผ่อนซื้อสินค้าก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สนองความพอใจต่อตัวผู้ซื้อเอง เพราะถึงแม้ของชิ้นนั้นจะราคาสูงแต่ก็สามารถจ่ายผ่อนเป็นงวดได้ ถือเป็นการจัดการการใช้จ่ายของตัวเองไปในตัว และที่สำคัญคือไม่สนับสนุนของปลอมลอกเลียนแบบซึ่งข้อนี้สำคัญ

ความอยากได้อยากมีมันแฝงอยู่ในตัวของทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ควรคำนึงถึงการใช้จ่ายของตัวเองเป็นสำคัญเพราะแน่นอนว่าสภาพคล่องของทุกคนนั้นไม่เท่ากัน จริงอยู่ว่าของบางอย่างดูมีคุณค่าทำให้อยากได้ แต่แน่นอนว่าหากราคานั้นสูงเกินจับต้องก็ใช้ของดีในราคาเท่าที่สู้ไหวก็เพียงพอแล้ว อย่าฝืนตามกระแสเพียงเพื่อให้ได้อวดคนอื่นแต่ตัวเองต้องลำบากจากสถานการณ์การเงินฝืดเคืองเลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook