ปรับทัศนคติให้เข้ากับยุค “งดถุงพลาสติก”

ปรับทัศนคติให้เข้ากับยุค “งดถุงพลาสติก”

ปรับทัศนคติให้เข้ากับยุค “งดถุงพลาสติก”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา แคมเปญ #งดถุงพลาสติก นับว่าเป็นที่คึกคักยิ่ง โลกโซเชียลต่างแชร์ภาพการไปซื้อของโดยใช้อุปกรณ์ทางเลือกที่ไม่ใช่ถุงพลาสติก และในโลกโซเชียลอีกเช่นกันที่แฮชแท็กงดถุงพลาสติก กลายเป็นดราม่า ทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยฝ่ายไม่เห็นด้วยนั้นให้เหตุผลว่า

  • การงดแจกถุงถือเป็นการผลักภาระมาให้ผู้บริโภค ทำไมทางห้างร้านถึงไม่แจกเป็นถุงผ้าหรือถุงกระดาษแทน
  • การงดแจกถุงเพื่อลดต้นทุนในการขายสินค้า บางคนเข้าใจว่าการงดแจกถุงถือเป็นการลดต้นทุนในการค้าขาย โดยการไม่ต้องเสียเงินค่าผลิตถุงพลาสติก
  • การงดแจกถุงนี้มีเพื่อทำให้ห้างร้านขายถุงผ้าได้มากขึ้น
  • บางคนถึงขั้นประกาศว่าจะงดช้อปปิ้งร้านสะดวกซื้อจนกว่าจะมีการแจกถุงผ้าหรือถุงกระดาษให้

ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วยนั้นมองว่าการรณรงค์ในครั้งนี้ต้องใช้เวลาในการปรับตัว และเชื่อว่าเป็นการรณรงค์ ที่มาถูกทางแล้ว เพราะทำให้ลดขยะได้ แม้ว่าจะมีบางเสียงบอกว่าการใช้ถุงผ้า และขายถุงผ้าเยอะๆ ทำให้เกิดขยะมากกว่าถุงพลาสติกอีก ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าวัตถุประสงค์เริ่มต้นของการงดใช้ถุงพลาสติกนั้นเกิดขึ้นด้วยเหตุผลใด

โครงการนี้เริ่มขึ้นตามมติของคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอให้งดให้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป เป็นนโยบายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงานเพื่อลดและเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastic) ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

โดยมีการคาดการณ์ว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ปริมาณขยะถุงพลาสติกหูหิ้วลดลง 45,000 ล้านใบต่อปี ส่งผลให้ปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดลดลง 225,000 ตันต่อปี หน่วยงานภาครัฐประหยัดงบประมาณในการจัดการขยะมูลฝอยได้ปีละ 340 ล้านบาทต่อปี ประหยัดพื้นที่รองรับและกำจัดขยะมูลฝอยในการฝังกลบได้ประมาณ 616 ไร่

ดังนั้นความไม่สะดวกสบายในช่วงเริ่มต้นของการงดใช้ถุงพลาสติกไม่ว่าจะในเมืองไทย หรือในประเทศอื่นนั้น ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เวลาในการปรับความเข้าใจ เพื่อให้ทุกคนมองไปที่จุดหมายเดียวกัน คือการลดขยะ และทำให้สภาวะแวดล้อมดีขึ้น เมื่อพกถุงไปใช้ซ้ำจนเป็นนิสัยก็จะทำให้ขยะที่เกิดจากถุงพลาสติกน้อยลง และยังมีข้อดีข้ออื่นที่ตามมา ทีมงาน Tonkit360 เลยอยากชวนคุณผู้อ่านให้ลองมาคิดตามกัน

ลดขยะที่ย่อยสลายยาก

ถุงพลาสติก 1 ใบ ใช้เวลาในการย่อยสลายนานถึง 450 ปี

ลดการปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมสู่ชั้นบรรยากาศจากการผลิตและทำลายพลาสติกเหล่านี้

การผลิตและทำลายถุงพลาสติกล้วนเป็นกระบวนการที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศทั้งสิ้น ดังนั้นการงดใช้ถุงพลาสติกจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ลดการสูญเสียสัตว์น้ำที่บ่อยครั้งเสียชีวิตจากการกินถุงพลาสติกเข้าไป

ในปีที่ผ่านมาข่าวการเสียชีวิตของสัตว์น้ำมีมากขึ้น และส่วนใหญ่ชันสูตรพบว่ามีสาเหตุมาจากพลาสติกอยู่ในท้อง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือลูกพะยูนที่ชื่อมาเรียมก็เป็นหนึ่งในเคสนั้น หากเราลดปริมาณพลาสติกลงได้ สัตว์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยก็อาจจะเสียชีวิตน้อยลง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook