5 สิ่งที่ไม่ควรทำในช่วงเศรษฐกิจถดถอย

เศรษฐกิจถดถอย คือภาวะในช่วงขาลงของวัฏจักรเศรษฐกิจซึ่งสะท้อนผ่านการลดลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่สำคัญ อาทิ การลดลงของภาคการผลิต การใช้จ่ายอุปโภคบริโภค การลงทุน และการส่งออกสินค้าและบริการ และนำไปสู่การลดลงของการจ้างงาน

โดยผลกระทบจากช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้นจะทำให้เราได้เห็นความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มสูงขึ้นจากมูลค่าของกองทุนต่าง ๆ รวมไปถึงการปิดตัวของกิจการรายเล็ก หรือผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ไม่สามารถประคองธุรกิจได้ต่อไป นอกจากนี้แล้วยังเป็นสภาวะที่ทำให้ผู้คนเสี่ยงตกงานกันมากขึ้น ขณะที่เจ้าหนี้ก็ยากที่จะเก็บเงินจากลูกหนี้ได้ เมื่อเข้าสู่สภาวการณ์ดังกล่าว นี่คือ 5 สิ่งที่คุณไม่ควรมีส่วนร่วมหรือลงมือทำ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นมาติดตามกันเลย

1. เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้

ถ้าคิดจะเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ ต้องคิดใหม่อีกหลายๆรอบเลยละในช่วงเวลาแบบนี้ เพราะเศรษฐกิจที่ผันผวนตลอดเวลา หากคุณลงนามเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้มีความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะมีหนี้ก้อนใหญ่โดยไม่รู้ตัว เพราะนอกจากธุรกิจที่คุณไปค้ำประกันเงินกู้อาจจะไปไม่รอดแล้ว หากเป็นการค้ำประกันเงินกู้ให้บุคคลทั่วไป ก็มีโอกาสที่คนที่คุณไปค้ำประกันตกงานได้เช่นกัน ดังนั้นจงคิดหลายๆรอบถ้าต้องเอาเครดิตของตนเองไปค้ำประกันให้ใคร แต่ทางที่ดีที่สุดอย่าได้ค้ำประกันให้ใครเลยจะดีกว่า

2. อย่าเพิ่งลงทุนก้อนใหญ่

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ และมีความคิดจะขยายกิจการในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย ขอให้ชะลอไว้ก่อน อย่าได้เอาเงินสดไปจมอยู่กับการก่อสร้าง หรืออุปกรณ์โดยไม่จำเป็น เพราะความเสี่ยงที่จะไม่มีลูกค้ามาใช้บริการนั้นมีความเป็นไปได้สูง พยายามบริหารต้นทุนที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรอจังหวะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวค่อยว่ากันต่อจะดีกว่า

3. อย่าได้สร้างหนี้ก้อนใหม่ในช่วงเวลานี้

การกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน กู้ยืมเพื่อซื้อรถ ใช้วงเงินบัตรเครดิตในการซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ เป็นสิ่งที่ทำได้หากคุณมีรายได้เพียงพอที่จะจ่ายในแต่ละเดือน และมีเงินเหลือเก็บสำหรับวัยเกษียณ แต่ในสภาพเศรษฐกิจถดถอยนั้น คุณมีโอกาสที่จะตกงานโดยไม่รู้ตัว หรือรายได้ต่อเดือนลดลง การสร้างหนี้ใหม่ทั้งที่รู้ว่าอาจจะไม่สามารถใช้หนี้ต่อเดือนได้นั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมาก ช่วงเวลาเช่นนี้ควรอยู่นิ่ง ๆ จะดีที่สุด ใช้ชีวิตปกติ ยังไม่ต้องอยากได้อยากมี ทั้งที่เงินในกระเป๋ายังไม่พอ หรือแม้จะมีเงินในกระเป๋าอยู่บ้าง ก็ต้องคิดถึงวันข้างหน้าด้วย เพราะการผ่อนบ้าน ผ่อนรถนั้นเป็นหนี้ระยะยาว

4. รักษาหน้าที่การงานให้เหนียวแน่นที่สุด

ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอยการลดต้นทุนของบริษัททั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่ผู้บริหารต้องทำกันเกือบทุกราย ดังนั้นลูกจ้างจึงจำเป็นที่ต้องทำให้นายจ้างเห็นว่าตนเองมีความสำคัญต่องานที่ผลิตออกมาเพียงใด หรือ ทำให้เห็นว่าคุณมีความสามารถที่นายจ้างนั้นขาดคุณไม่ได้ เพื่อให้ตำแหน่งงานของคุณยังคงอยู่กับตัวคุณได้นานที่สุด

5. กู้ซื้อบ้านด้วยอัตราดอกเบี้ยลอยตัว

หลายคนเมื่อตัดสินใจซื้อบ้าน มักจะเลือกอัตราดอกเบี้ยลอยตัว โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยและอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งการจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำก็จะทำให้การชำระเงินกู้ผ่อนบ้านในแต่ละเดือนต่ำลงไปด้วย แต่ระยะเวลาที่เศรษฐกิจถดถอยนั้นกินระยะเวลาประมาณ 1-2 ปี หากการกู้ที่อยู่อาศัยนั้นต้องใช้เวลากันตั้งแต่ 15 -30 ปี ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว โอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นมีอยู่สูงมาก และนั่นเท่ากับว่าคุณต้องชำระค่าเงินกู้ที่อยู่อาศัยสูงขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นก่อนจะเลือกอัตราดอกเบี้ยในเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ต้องตัดสินใจให้ดีว่ารูปแบบไหนที่เหมาะกับคุณ และสถานะการเงินของคุณ