เทรนด์ (?) หิวแสง เทรนด์อยากมีตัวตนบนโลกออนไลน์

เทรนด์ (?) หิวแสง เทรนด์อยากมีตัวตนบนโลกออนไลน์

เทรนด์ (?) หิวแสง เทรนด์อยากมีตัวตนบนโลกออนไลน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกวันนี้ การใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ นับวันก็ยิ่งอยู่ยากเข้าไปทุกที จากสังคมที่สร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เพื่อให้การติดต่อสื่อสารแบบไร้พรมแดน กลายเป็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่เกรียน กร่าง สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น และแสวงหาซีนโดยไร้พรมแดนเช่นกัน

ตามคอมเมนต์ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เรามักจะเห็นคนเข้ามาแสดงความคิดนู่นนั่นนี่อย่างไม่มีขีดจำกัด ถูกบ้างผิดบ้าง ส่วนใหญ่ก็มีแบ่งปันความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือประสบการณ์ร่วมกัน แต่เมื่อไล่อ่านดู จะพบกับคอมเมนต์ที่ตรรกะวิบัติ โพสต์ชวนหาเรื่อง แล้วก็จะมีคนมาถามว่า “หิวแสงเหรอ?” สงสัยหรือไม่ว่าศัพท์หิวแสงหมายความว่าอย่างไร แล้วทำไมถึงมีคนใช้คำนี้กันมากขึ้นโดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย

คนหิวแสง คือคนที่โหยกระหายหาชื่อเสียง อยากดัง จนสามารถทำอะไรไม่คิด เพราะแค่ต้องการเรตติ้งให้ตัวเอง เพื่อให้ “แสง” สาดส่องมาที่ตัวเอง อยากเป็นที่พูดถึง หรือง่าย ๆ ก็คือ อยากเปลี่ยนตัวเองจาก Nobody เป็น Somebody

โลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วยคนหิวแสง

การกิน เป็นกิจกรรมพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ส่วนอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ถ้าคนหิวอาหาร คนก็จะหาอาหารมากิน เช่นเดียวกันกับคนหิวแสง เขาก็ย่อมอยากกินแสง จึงแสดงความต้องการของตนออกมาว่ากระหายอยากได้แสงสว่างมาประทังชีวิต

ความหมายของคำว่าหิวแสงก็จะคล้าย ๆ กับคำว่า “หาซีน” นั่นเอง แต่ยกระดับขึ้นมามากกว่าเกรียนคีย์บอร์ดที่แค่แซะ ด่า ฉอดคนอื่น แต่หิวแสงเป็นประเภท “อยากดัง” คำนี้จึงใช้สำหรับวิพากษ์วิจารณ์คนกลุ่มหนึ่งในโลกออนไลน์ กลุ่มคนที่จ้องหาซีน แสดงความคิดเห็นผิดประเด็น และสุ่มเสี่ยง (ตั้งใจ) เรียกแขก คนพวกนี้มีจำนวนไม่น้อยที่ใช้แอคเคาท์อวตารเขามาหาแสง อยากเป็นจุดสนใจแต่ไม่อยากให้คนรู้ว่าจริง ๆ แล้วเป็นใคร

วิธีสังเกตคอมเมนต์ของคนหิวแสงนั้นไม่ยาก เพราะการแสดงความคิดเห็นของเขาจะแสดงจุดยืนชัดเจนว่าอยากมีตัวตน อยากเป็นจุดสนใจ แซะไว ฉอดเก่ง ส่วนมากมักใช้วิธีแถข้าง ๆ คู ๆ อ้างเหตุผลที่ไม่ใช่เหตุผลเวลาที่โดนทัวร์ลงออกแนวหมกมุ่น ใครพิมพ์ด่าปุ๊บตอบปั๊บ เห็นข้อความขัดใจไม่ได้ ต้องแย้งเขาตลอด โหยหาแสงสว่าง จนไม่สนว่าใครจะพูด จะเตือน จะเดือดร้อนอย่างไร ขอแค่ตัวเองได้สิ่งที่ต้องการเป็นพอ

เราสามารถจัดคนหิวแสงเข้ากลุ่มเดียวกับคนที่อยากหาซีน แต่ซีนคุณแย่มาก หรือพวกที่อยากดัง คนเหล่านี้เหมือนมีปมบางอย่างในใจ คิดว่าตัวเองคู่ควรกับแสงสว่าง แต่แสงไม่ยอมส่องมาเสียที เพราะฉะนั้นจึงต้องไขว่คว้าหามันเอง แต่ที่น่าแปลกก็คือ คนบางคนแสดงพฤติกรรมหิวแสงออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่กำลังทำอยู่นั้นคือการเรียกร้องความสนใจ

คนหิวแสง ชอบเรียกร้องความสนใจอย่างไร

หิวแสงประเภทโจมตี คนพวกนี้ชื่นชอบการโจมตีผู้อื่น แสดงความเกลียดชัง บูลลี่คนอื่น ยิ่งถ้ามีคนเห็นดีเห็นงามด้วยก็ยิ่งได้ใจ แต่จุดจบมักจะไม่สวยเท่าไรหากเหยื่อไม่ยอม พอโดนฟ้องขึ้นมาก็หงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สำนึกผิดแล้วให้กราบก็ยอม ไม่ก็ไปจบด้วยการยืนเดียวดายอยู่หน้าบัลลังก์ศาล ชื่นชอบความทัวร์ลง เพราะมันวัดผลได้ว่ามีคนให้ความสนใจความคิดแย่ ๆ แบบนั้นจริง ๆ

หิวแสงประเภทขี้อวด เป็นพวกมีปมในใจ รู้สึกดีที่คิดว่าทำให้คนอื่นอิจฉาได้ แต่ที่อวดมาคือมีแต่เปลือก ปลอมทั้งหมด สังเกตง่าย ๆ คนพวกนี้ชอบโพสต์ภาพชีวิตดี๊ดี อู้ฟู่ โชว์ไลฟ์สไตล์กินหรูอยู่สบาย ใช้ภาพแบบทีเผลอแต่พื้นหลังติดความหรูหราแบบที่ดูก็รู้ว่าจงใจ แสวงหาความมีหน้ามีตา มีสถานะทางสังคม จุดจบมักจะโป๊ะแตก เพราะมีคนจับความปลอมได้

หิวแสงประเภททำอะไรไม่คิด ไม่รู้ว่าอะไรเหมาะสมไม่เหมาะสม ไม่รู้ว่าเวลาไหนไม่ควรทำอะไร กรณีล่าสุด เกิดกับคนที่ไปโพสต์ซ้ำเติมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าที่ในเหตุเพลิงไหม้และตึกถล่มที่ผ่านมา ในทำนองที่ว่าสมควรแล้วเพราะทำงานไม่เป็นเอง ไม่นานแสงก็ฉายไปหาสมใจอยาก ทัวร์ลงไปด่า จบด้วยการถูกไล่ออกจากงาน

หิวแสงคอมเมนต์เอาอกเอาใจ มีเส้นบาง ๆ ระหว่างการบ่นกับตัวเองกับการคร่ำครวญเพื่อให้คนอื่นมาสนใจ หรือที่เรียกว่า sadfishing คือชอบบ่นในทำนองว่าตัวเองกำลังเศร้าเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่พฤติกรรมแบบนี้ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีไปด้วย แม้ว่าเรื่องของสภาพจิตใจจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่เราแทบจะไม่รู้เลยว่าใครเศร้าจริง อยากได้กำลังใจจริง ๆ หรือเศร้าเพราะต้องการยอดไลก์ยอดแชร์ ซึ่งการโพสต์เนื้อหาที่สะเทือนอารมณ์แบบนี้ ส่งผลเสียต่อคนที่มีภาวะทางจิตใจจริง ๆ อย่างเช่น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า (จริง ๆ) ที่คนมักเข้าใจว่าทำไปเพราะเรียกร้องความสนใจ

หิวแสงอยากได้รับความนิยม ประเภทที่อยากได้ connection เยอะ ๆ อยากแมส อยากมีคนติดตามมาก ๆ เที่ยวแอดเฟรนด์คนอื่นไปทั่ว โดยเฉพาะคนที่มีชื่อเสียง เพื่อยกระดับตัวเองว่าอยู่ในระดับเดียวกับเขาโดยใช้จำนวนเพื่อนที่อยู่ในโลกออนไลน์มาเป็นตัวชี้วัด ทั้งที่เพื่อนเหล่านั้นไม่สามารถแทนที่เพื่อนในชีวิตจริงได้เลย มักลงเอยด้วยความเครียดเอง ถ้าสู้คนอื่นไม่ได้ เพราะมัวแต่แสวงหาความสนใจ จากผู้ติดตามที่ไม่เปิดเผยตัวตน วนเวียนอยู่กับความชื่นชมจอมปลอม เสพติดจนลืมโลกแห่งความเป็นจริง

รับมืออย่างไรดีกับคนหิวแสง

ทุกวันนี้เราสามารถเจอคนประเภทหิวแสงได้เกลื่อนโซเชียลมีเดีย มีอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม และมักจะไปปรากฏตัวอยู่ในโพสต์ที่ได้รับความสนใจมาก ๆ เพราะคนเห็นเยอะ เมื่อเลือกเวทีซึ่งเป็นที่มีโพสต์ยอดไลก์เยอะ ยอดแชร์เยอะ ยอดรีทวิตเยอะ ยอมคอมเมนต์เยอะได้แล้ว ก็ได้เวลาขึ้นแสดงให้แสงสาดส่องมาที่ตัวเอง

อย่างที่บอกว่าจุดประสงค์ของคนหิวแสงคือ การเรียกร้องความสนใจ ฉะนั้น ยิ่งคนสนใจตัวเองมากก็ยิ่งประสบความสำเร็จ คนเหล่านี้ไม่ค่อยสนใจว่าคนที่เข้าโต้ตอบกลับนั้นจะมาในรูปแบบชื่นชมหรือก่นด่า ขอแค่ให้เข้ามาสนใจก็พอ ถ้าด่ามาก็แค่ด่ากลับเท่านั้น

มีวิธีเอาชนะคนที่ชอบเรียกร้องความสนใจง่าย ๆ เลยก็คือ เลิกให้ความสนใจ เห็นแล้วผ่าน ไม่ต้องไปให้ค่ากับตรรกะที่บิดเบี้ยว ปล่อยคอมเมนต์หาแสงนั้นว่างเปล่าไปประหนึ่งว่าไม่มีคอมเมนต์นี้อยู่ในโพสต์ แม้ว่าความรู้สึกส่วนตัวจะคันไม้คันมือคันปากอยากด่าแค่ไหนก็ตาม แต่อย่าไปสนใจ เมื่อคนเหล่านี้ไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ ก็จะผิดหวังไปเอง

ที่สำคัญที่สุด พยายามอย่าไปเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงกับคนหิวแสง เขาเชื่อเฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่อ รับฟังเฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากฟัง มัวแต่ดึงกันไปดึงกันมา รังแต่จะเสียอารมณ์ เสียเวลา เสียพลังงาน และไม่มีประโยชน์อะไรกับชีวิตเกิดขึ้นเลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook