วิธีรับมือเพื่อนร่วมงานตัวดีที่จ้องเลื่อยขาเก้าอี้คุณอยู่

วิธีรับมือเพื่อนร่วมงานตัวดีที่จ้องเลื่อยขาเก้าอี้คุณอยู่

วิธีรับมือเพื่อนร่วมงานตัวดีที่จ้องเลื่อยขาเก้าอี้คุณอยู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเมืองในออฟฟิศ เป็นสิ่งมาคู่กันกับสังคมการทำงาน ถึงแม้ว่าดูเผิน ๆ หลายคนก็อาจจะทำงานสามัคคีเข้าขากันดี รักใคร่ ปรองดอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่จริง ๆ แล้วเป้าหมายการทำงานไม่มีใครอยากจะย่ำอยู่กับที่ อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากขึ้นเงินเดือน อยากประสบความสำเร็จในการทำงาน เมื่อคุณพยายามทำผลงานของตัวเองให้ดีเพื่อไปจุดนั้น คุณก็อาจสร้างศัตรูในมุมมืดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ใคร ๆ ก็อยากก้าวหน้า แต่เพราะการแข่งขันมันสูง คนที่จะได้ไปต่อคือคนที่เก่ง แกร่ง และยอดเยี่ยม ที่ยืนที่ปลายทางจึงไม่สามารถยืนได้ทุกคน พอคุณกลายเป็นตัวเต็ง ถือไพ่เหนือกว่า ก็อาจจะมีเพื่อนร่วมงานหลายคนรู้สึกอิจฉาอยู่ในใจ แอบหมั่นไส้ และบางทีก็หาโอกาสเอาชนะคุณบ้าง ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงานจึงกลายเป็นศัตรูกันไปโดยปริยาย บางคนแสดงตัวว่าเป็นคู่แข่ง แต่บางคนก็ยังเสแสร้งทำดีด้วย ทั้งที่ลับหลังกำลังคิดจะแทงข้างหลังคุณอยู่ เผลอเมื่อไรเป็นต้องแอบเลื่อยขาเก้าอี้ และไม่ยอมสู้กันอย่างนักกีฬา ซึ่งศัตรูแบบนี้น่ากลัวกว่าแบบแรกมาก

สมรภูมิรบอันดุเดือดได้เริ่มขึ้นแล้ว ถ้าคุณเริ่มรับรู้ได้ถึงบรรยากาศว่าคุณกำลังมีศัตรูในออฟฟิศ มีคนจ้องเลื่อยขาเก้าอี้ หรือมีคนที่แสดงตัวเป็นคู่แข่ง คุณจะรับมืออย่างไรดี

มีสติ เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่บีบคั้น

ถ้าเริ่มรับรู้ได้ถึงเหตุการณ์ที่ไม่ชอบมาพากล อย่าละเลยไม่สนใจสัญชาตญาณของตนเองเด็ดขาด ทางที่ดี หากคุณมีความรู้ด้านจิตวิทยาในการอ่านคนรอบตัวด้วยก็จะดีมาก อย่างน้อยก็พอจะแยกออกว่าใครมาดี ใครมาร้าย และใครเสแสร้ง ถ้าระบุตัวหรือรับรู้สถานการณ์แล้ว ตั้งสติก่อนเลย สติมาปัญญาเกิด จากนั้นรื้อตัวเองออกมาให้หมดว่ามีดีอะไรที่พอจะเอาไปต่อสู้กับเขาได้ ทั้งความรู้ความสามารถแล้ว วิสัยทัศน์ และทัศนคติ เอาออกมาให้หมด เพราะคุณจะต้องเจอสงครามประสาทอย่างแน่นอน สมรภูมินี้วัดกันด้วยสติปัญญา ถ้าสติหลุดเมื่อไรอาจถูกโจมตี

พัฒนาตัวเอง

งานคือผลผลิตสำคัญที่จะทำให้คนทำงานอยู่รอด โดยเฉพาะโลกที่มีการแข่งขันสูงขึ้นแบบนี้ คนที่เจ๋งกว่าเท่านั้นถึงจะได้ไปต่อ การรักษาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของคนทำงานจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยจะต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา อย่าล้าหลังโลกหรือล้าหลังใคร ต้องสร้างความแตกต่างกับการทำงานและผลงานของตัวเอง ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นไปอีกอย่างไม่มีขีดจำกัด เพราะฉะนั้น หากเรามั่นใจว่าตัวเองมีดี (กว่า) ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร เพียงแต่ก็ต้องระวังหลังตัวเองให้ดี เผื่อเจอเพื่อนร่วมงานที่ใช้วิธีสกปรก ถ้าเผลออาจถูกแทงข้างหลังได้

พิสูจน์ด้วยผลงาน

ถ้าสงครามนี้ต่างคนต่างต่อสู้ด้วยผลงาน อาวุธที่จะเอาไปฟาดได้ก็มีแต่ผลงานเท่านั้น หากคุณเป็นคนที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เรียนรู้จากประสบการณ์ว่าต้องวางแผนการทำงานของตัวเองอย่างไร รู้ว่าอะไรคือข้อบกพร่องของตัวเอง อะไรคือช่องว่างที่ต้องไปหามาเติมให้เต็ม อะไรสิ่งที่ต้องแก้ไข และมีความรู้รอบด้านในการจัดการกับปัญหา คุณก็เพียงแต่ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีมาลงมือสร้างผลงานที่คุณคิดว่าสมบูรณ์แบบที่สุด ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี แล้วความตั้งใจจะสะท้อนออกมาเอง สังคมการทำงาน จะอยู่จะไปขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานเป็นหลัก

มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน

อาจจะฟังดูเหมือนการหาพรรคหาพวก แต่มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เพราะการเป็นที่รักของคนอื่น ๆ อย่างไรก็ดีกว่าเป็นคนที่คนอื่นเขารังเกียจไม่ใช่หรือ จะพูดจะคุยจะขอความช่วยเหลืออะไรก็ดูง่ายขึ้น ดีไม่ดีพวกเขาอาจจะเขามาหนุนหลังให้เราเงียบ ๆ โดยที่เราไม่ได้ร้องของเลยก็ได้ ฉะนั้น หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง การมอบมิตรภาพและความจริงใจให้กับทุกคน เคารพและเกรงใจคนอื่น ตั้งแต่แม่บ้าน เพื่อร่วมงาน หัวหน้างาน เจ้านาย จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเยอะ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ให้เขาเอ็นดูเราไว้ดีที่สุด อย่างสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook