รักสุดใจให้นายบอดี้การ์ด

รักสุดใจให้นายบอดี้การ์ด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

1

"พี่มิริน ตื่นเซ่พ่อให้มาปลุกเพราะว่ามีเรื่องจะคุยด้วยน้า~" เสียงร้องอันหนหวยของไอ้เจ้าน้องชายดังขึ้นรู้สึกว่ายังกับเสียงโรงละครโอเปร่ากำลังจะแตกขนาดเสียงผู้ชายน่ะย่ะเนี้ยถ้าเป็นเสียงผู้หญิงแก้วหูฉันคงเละไม่แพ้โจ๊กแน่นอน

"อ่ะมีรายไอ้เจ้าน้องชายร้องลั่นปานโลกจะแตกวันนี้ฮ่ะ" ฉันตะโกนขึ้นบ้างไม่แพ้ไอ้น้องชาย ชิชะ!!ชั่งบังอาจมาปลุกเวลานอนต้องอาภาพรนครสวรรค์กลับคืน(อารมณ์เสียน่ะ)"เชมเปญอยากปลุกตายพี่มิรินล่ะยิ่งอยู่ใก้ลก็อารมณ์เสียชิไปดีกว่า เออ....แล้วอย่าลืมไปหาพ่อที่ข้างล่างล่ะไปและ"เอาล่ะทั้งพี่ทั้งน้องอารมณ์เสียกันแต่เช้า~แล้วฉันก็ลุกจากเตียงไปทำธุระส่วนตัวเพื่อที่จะลงไปหาพ่อ แต็กๆๆ เสียงรองเท้าสุดหรูกำลังย่างก้าวลงบันไดอย่างรีบเร่งเพื่อที่ไปยังจุดหมายคือโต๊ะอาหารพอไปถึงฉันก็นั่งลงอย่างผู้ดี๊ผู้ดี"เชิญนั่งค่ะคุณท่านกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่พอดีคุณหนูมิรินจะรับอะไรดีค่ะ"เสียงพี่คนรับใช้ที่สุดสนิทของฉันเอ่ยถามขึ้น"เออ...งั้นมิรินขอเป็นขนมปังทาทูน่ากับน้ำส้มคั่นล่ะกันน่ะค่ะ"ฉันรีบตอบขึ้นพอพี่คนรับใช้เดินไปที่ครัวเพื่อไปจัดอาหารเช้าให้ฉัน ฉันก็หันไปถามพ่อว่า"พ่อมีธุระอะไรกับมิรินหรอค่ะให้เจ้าเชมเปญไปปลุกถึงเตียงเลยพ่อของฉันเงยหน้าขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า"มิริน ระวังตัวดีๆน่ะลูกช่วงนี้ไอ้พวกบริษัทค่ายเพลงคู่แข่งคิดจะเล่นงานพ่อโดยการโทรมาขู่ว่าจะลักพาตัวลูกไปพ่อต้องหาวิธีอะไรชักอย่างแล้วอย่าลืมนะลูกระวังตัวดีๆ"ฉันรู้สึกไม่ดีกับคำพูดของพ่อชักน่ากังวนใจหน่อยนิดแต่ก็ไม่กล้าที่จะแสดงออกมาฉันกลัวว่าพ่อจะเป็นห่วงอีกอย่างวันี้ฉันมีนัดนี้นา555+ได้เวลาออกลุยช้อปแว้วววววว"เออ ถึงเวลาแล้วพ่อไปทำงานก่อนล่ะระวังตัวดีๆด้วยแล้วกันน่ะลูก"พ่อเตือนฉันก่อนที่จะออกไปประชุมค่ายเพลงของพ่องานยุ่งจังน้า~พ่อเรา จากนั้นอาหารก็เสร็จพอดีพี่คนรับใช้ก็ยกมาให้"ได้แล้วค่ะ คุณหนูมิรินแล้วคุณท่านล่ะค่ะพี่คนรับใช้ถามอย่างสงสัย ฉันเลยตอบไปว่า"เออ คุณพ่อออกไปประชุมแล้วค่ะ แล้วเชมเปญล่ะค่ะไปไหนไม่เห็นตั้งแต่ลงมาแล้วน่ะค่ะ"ฉันถามถึงการหายหน้าไปของไอ้เจ้าน้องชายสุดบ๊อง"เอ...รู้สึกว่าคุณหนูเชมเปญจะขับรถออกไปก่อนที่คุณหนูมิรินจะลงมาอีกน่ะค่ะ"ฉันทำหน้างงสุดๆอะไรกันอยู่บนห้องแค่แป็บเดียวไปได้เร็วแล้วไอ้น้องชายคนนี้ไวจริงจริ๊งแต่ก็ชั่งเหอะไม่มีมารมาขัดว่างอิสระมาแว้วววววจากนั้นฉันก็สวามปามอาหารเช้าแล้วไปช้อปปิ้งต่อ"เออ พี่มีนงั้นฝากเก็บจานด้วยน่ะค่ะเดี๋ยวมิรินจะออกไปข้างนอกหน่อยค่ะ"พี่มีนคนรับใช้ทำหน้างงเพราะคำพูดที่ว่า ฝากเก็บจานเพราะปกติพี่มีนก็เป็นคนเก็บอยู่แล้ว"คุณหนุค่ะออกไปขงนอกระวังตัวหน่อยน่ะค่ะ"พี่มีนพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเอาจานไปเก็บพร้อมกับสีหน้าที่เป็นห่วงฉัน แต่คนอย่างฉันซะอย่างไม่ยอมให้ใครจับง่ายๆหรอกนา จากนั้นฉันก้เดินไปขึ้นรถจากัวร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่คู่ใจขับออกจากคฤหาสถ์หลังโตไปที่ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นเพื่อไปตามนัดของเพื่อนฉันที่ร้านอาหารญี่ปุ่น

ณ หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นใจกลางห้างสรรพค้าฉันก็กำลังเดินเข้าร้านไปก็เผอิญเดินไปชนกับผู้ชายคนหนึ่ง" อุ้ย!!!ขอโทษค่ะเป็นอะไรหรอเปล่าค่ะ " ฉันรีบกล่าวคำขอโทษอย่างหนักกลัวว่าเขาจะโกรธว่าเดินยังไงไม่ดูตาม้าตาเรือก็คนมันไม่เห็นนี้น่าแต่ดูสีหน้าผู้ชายคนนั้นรู้สึกว่าท่าทางแปลกๆแล้วรีบเดินออกไปจากหน้าร้าน"เฮ่!!!..มิรินทางนี้"เพื่อนฉันที่นั่งอยู่ให้ร้านร้องตะโกนเรียกฉันเจ้าพวกนี้ชั่งไม่อายซะมั่งเล้ยคนเต็มร้านหันมาทางฉันกันหมดแล้วฉันก็เดินฉับๆเข้าไปแต่อยู่ๆผู้ชายท่าทางแปลกหันกับมาถามฉันว่า"คุณใช่คนที่ชื่อ พิมพ์นารา หรันกุล หรือเปล่า"ฉันได้ยินชื่อนี้แล้วรู้สึกถึงภัยอันตรายที่จะตามมาทำไมน่ะหรอก็ชื่อ พิมพ์นารา หรันกุล น่ะสิชื่อฉันถ้าคนแปลกหน้ามาถามอย่างนี้นั้นก็แปลว่าคือพวกลักพาตัวฉันแน่เลยพอรู้ดังนั้นระบบประสาทอัตโนมัติสั่งวิ่งทันที อ้าก~ไม่อยู่แว้ววววว พอฉันวิ่งไอ้ผู้ชายคนนั้นก็วิ่งตามมาอย่างกระชันชิดแต่รู้สึกว่าที่ฉันวิ่งไปคนในห้างต่างหันมามองฉันน่าอายแต่ต้องวิ่งเพราะความอยู่รอดอ่ะ"อย่าเข้ามาน้า~"ฉันรีบวิ่งลงชั้นล่างไปที่ลานจอดรถฉันวิ่งไปใกล้จะถึงรถแล้วแต่ไอ้หมอนั้นผู้ชายคนนั้นวิ่งมาจับตัวฉันได้ก่อน" ตายแน่พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยนู๋"ด้วยระหว่างที่ฉันหลับตาพนมมือร้องขอชีวิตแต่หมอนั้นก็พูดเป็นภาษาอังกฤษว่า"นี่คุณจะวิ่งหนีผมทำไมคุณทำบัตรประชาชนหล่นผมเลยถามแต่คุณดันวิ่งหนีมาเนี้ย~"(แปลไทยให้เพื่อความเข้าใจ)ฉันรีบลืมตาทันทีแล้วหยิบบัตรจากมือหมอนั้นมา อ้าก~นั้นบัตรประชาชนของฉันจริงๆด้วยหน้าแตกละเอียดยิบ จากนั้นฉันก็พูดกับเขาเป็นภาษาอังกฤษว่า" แหะๆ ขอบคุณค่ะ"รู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นจะหอบเล็กน้อยแล้วหันหลังโบกมือลา พอเขาเดินไปจนสุดลูกตาฉัน ด้วยความอายกลับสิค่ะจะอยู่ทำไมจากนั้นฉันก็ขึ้นรถจากัวร์ขับกลับมาบ้านแต่ระหว่างทางก็มีโทรศัพท์เข้ามา(ดีย่ะหล่อนเป็นประสาทกับหรือไงทำไมอยู่ดีๆก็วิ่งหนีตะเลินเตินเพิงไปล่ะย่ะ แล้วผู้ชายที่วิ่งตามแกเป็นใครหรอ)

"ไม่รู้ดิฉันก็นึกว่าเขาจะมาลักพาตัวฉันไปอ่ะดิ"ฉันตอบอย่างหัวเสีย

(555+ แล้วเขาจามาลักพาตัวแกไปทำไมกันย่ะ)เสียงปลายสายหัวเราะอย่างคิดว่าเป็นเรื่องโกหก 

"ก็พ่อฉันมีบริษัทค่ายเพลงคู่แข่งอ่ะดิที่จาลักพาตัวฉันเพื่อขู่ให้พ่อฉันยอมปิดบริษัท"ฉันพูดอย่งกลัวไปหน่อย ตอนที่ฉันกำลังคุยโทรศัพท์มือถืออยู่บนรถแล้วขับรถไปด้วย(ใส่สโมท็อกอยู่น่ะ) ฉันคุยโทรศัพท์เสร็จก็ขับมาเรื่อยๆจนถึงหน้าบ้านแต่ฉันจอดรถไว้หน้าบ้านที่ประตูรั้วคฤหาสถ์ ปี้กๆๆๆ เสียงบีบแตรรถไล่เพราะรู้สึกว่าจะมีรถเลี้ยวมาตามแต่ว่าฉันกำลังหาของอยู่น้า~หาเจอก็รีบขับเข้าบ้านพอถึงบ้านก็มีคนมาช่วยถือของแต่ของไม่มีให้ถือฉันเลยบอกไปว่า"เออ ไม่มีของหรอกค่ะ"พอฉันจะเดินเข้าบ้านก็มีรถมาจอดอีกคันพอดีฉันจึงจะว่าเดินไปต้อนรับในฐานะเจ้าบ้านพอผู้ชายคนนั้นลงจากรถก็ว่าจะเดินเข้าไปหา ปึก (เสียงปิดประตูรถ) ฉันกำลังจะมองหน้าเเขกที่มาแต่เผอิญว่าแขกคนนั้นคือ~

โปรดติดตามตอนต่อไป>>>>

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook