นั่นใคร

นั่นใคร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นเวลาเกือบสามเดือนแล้ว ที่ฉันนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องเช่าสี่เหลี่ยมแคบๆตามลำพังอยู่กับความมืด อยู่กับลมหายใจของตนเอง แน่นอนที่หลายคนสงสัยว่าทำไม ฉันไม่ไปทำงานเหมือนเมื่อก่อน ฉันตกงาน ฉันถูกไล่ออกเป็นคำอธิบายกับหลายคนที่คุ้นหน้ากับฉัน มันเป็นเรื่องเศร้าที่การก่อตั้งสหภาพแรงงานของฉัน เพื่อต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในโรงงานเล็กๆแห่งหนึ่ง จะทำให้ชีวิตของฉันต้องตกงาน โดยหาใครๆแม้สักคนเดินเข้ามารับผิดชอบในชีวิตตกต่ำของในครั้งนี้ได้ หลายครั้งที่ฉันย่ำเดินหาสมัครงาน หลายครั้งที่ฉันสมัครงานผ่านโลกออนไลท์ สิ่งที่ฉันได้รับคำตอบคือ คุณอายุมากเกินไป(คุณแก่เกินไป)แน่นอนฉันยอมรับว่าฉันแก่ ฉันแก่แต่ฉันยังต้องกิน ต้องใช้และมีภาระต้องรับผิดชอละที่แน่ๆฉันยังทำงานให้เขาได้ แต่มันอาจเป็นเสียงเดียวที่ยังบ่นอยู่ในสมองของฉัน จากเงินก้อนเล็กของฉันที่ยังมีเหลือไม่ก็ร้อยบาท ในออมสินของฉัน มันถูกหยิบออกไปใช้ซื้อของกินแทบทุกวัน แน่นอนสักวันมันคงเหลือแต่กระปุกออมสินเปล่าๆ หลายคำตอบ หลายคำถาม ของฝ่ายบุคคลงี่เง่า ของผู้จัดการไร้สมอง ทำให้ฉันรู้ท้อแท้กับการจะหางานทำอีกต่อไป

ฉันนอนซอกกายอยู่ในกองผ้าห่มที่ฉันไม่มีอารมณ์จะซักมันมาแรมเดือน เสียงจิ้งหรีดส่งเสียงร้องระงมตรงหลังห้อง แสงไฟนีออนจากหลอดไฟสาดสองสลัวๆข้ามมาทางบานหน้าต่าง จนมองเห็นเก้าอี้สีแดงหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ของฉัน หมุนไปมาเสียงดังอิ๊ดๆ นั่นนะสิ มันคืออะไร เท่าที่เห็นและสัมผัสได้ในห้องนี้ฉันเช่ามันอยู่เพีงลำพัง ไม่มีแม้หนูที่จะวิ่งเล่นแม้ตัวเดียวฉันแน่ใจ ฉันเคยถามแม่ว่าคนตายแล้วไปไหน ไปสวรรค์แม่บอกฉันเช่นนั้น แต่หลายครั้งที่ฉันฝันเห็น ฝันเห็นมัน ไม่ใช่สิฉันไม่ได้ฝัน มันอยู่ตรงนั้น ตรงเก้าอี้ของฉันมันมักจะมาพร้อมกับความมืด ความเงียบ หลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันยังไม่เข้าใจ หลายครั้งที่ฉันยังหลงตัวเองว่าในห้องนี้มีเพียงฉันลำพังคนเดียว แต่ฉันเข้าใจผิดเสมอมา ว่ายังมีสายตาอีกคู่หนึ่งที่กำลังจองมองดูฉัน กำลังจองมองดูฟฤติกรรมของฉันอย่างไม่ละวาง จนบางครั้งฉันรู้สึกกลัว กลัวกับการอยู่คนเดียว กลัวกับการอยู่ในเงามืด กลัวกับสายตาคู่นั้นที่ฉันไม่รู้ว่านั่นคือใคร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook