เรื่องของนายบอยตอน1(เชง)

เรื่องของนายบอยตอน1(เชง)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เชงคือผู้หญิงที่สวยที่สุดๆแล้วครับ เชง สูง หุ่นดี มีโครงหน้าที่สมส่วนและเธอเป็นผู้หญิงที่ดูลึกลับ ผู้หญิงลึกลับนี่โคตรจะมีเสน่ห์เลยนะครับ เอาละมาเข้าเรื่องกันดีกว่าคือวันนั้นผมเดินเล่นอยู่แถวเทเวศน์ เคยไปแถวนั้นกันบ้างไม๊ครับผมชอบแถวนั้นมาก ผมเดินไปกลับเทเวศน์บางลำพูวันหนึ่งหลายรอบ ชอบบรรยายกาศ ชอบผู้คน และชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ฝรั่งที่เดินผ่านปผ่านมาสร้างสีสรร ในขณะที่วันนั้นผมกำลังกำลังเดินเล่นแบบไม่ได้คิดอะไรมากแต่ผมก็ไปสะดุดตากับสูงหญิงสูงโปร่ง ผมยาวสลวย ใบหน้าไม่ดูนิ่งแต่มีโครงหน้าที่สวยมาก กำลังจ้องมองเดินตรงมาที่ผม ผู้ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อและถามตัวบ่อยๆว่าทำไมหน้ามันโหดได้ใจอย่างนี้ว่ะ "กระเป๋าสวยมากซื้อที่ไหน?" เธอถาม ผมสะพายกระเป๋าหนังกลับสีนํ้าตาลที่ผมก็เชื่อที่เธอบอกเพราะผมก็ว่ากระเป๋าผมสวย ผมใช้เวลาสั้นๆสำรวจการแต่งกายของเธอ เสื้อกล้ามสีดำ ยีนส์เก่าอย่างเก๋า บูทหนังสีดำ เธอกับผมแต่งตัวสไตล์ใกล้กัน "หลังกระทรวงครับผม" ผมตอบกลับอย่างสุภาพ "ตรงแถวไหนหรอค่ะ" นํ้าเสียงของเธอรักษาความห่างไว้อย่างมีเสน่ห์ "ถ้าไม่รังเกียจ ผมกำลังจะไปหลังกระทรวงครับผม" ผมพูดเชิญชวนเธอด้วยนํ้าเสียงที่สุภาพ "ไปไง" เดินครับ ระยะห่างของผมกับเธอแคบเข้ามาอย่างจงใจ มันน่า สนใจนะที่ผู้หญิงสวยโครตขนาดนี้เดินเข้ามาหาผู้ชายที่สกินเฮด ติดตุ้มหูใส่เสื้อลูกฟูกสีดำตัวเล็ก กางเกงยีนส์ขาม้ารัดรูปและสวมร้องเท้าหนังกลับสีดำ เราสองคนเดินคู่กันไป เราเดินกันเงียบๆ หากว่าเธอให้เกียติผมขนาดนี้ ผมไม่งั่งผลักมันออกไปด้วยการชวนเธอคุยหรอกครับ แล้วเราก็มาถึงหลังกระทรวง "ไม่แน่นะครับว่าจะเจอ ผมจะเดินตามอยู่ข้างหลัง สงสัยอะไรเรียกได้ด้วยความยินดีและเต็มใจครับผม" "เมื่อยไม๊ครับ" ผมเห็นใบหน้าเธอมีพราวหยดเหงื่อเล็กๆตรงหน้าผาก "เดินมาขนาดนี้ถ้าไม่เมื่อยก็ตอแหลแล้วล่ะค่ะ" ผมเงยหน้าหัวเราะอย่างเอ็นดู พาเธอไปนั่งทานนํ้า "ขออนุญาต ด้วยความจริงใจ สนใจกระเป๋าผมจริงๆหรือครับ" ผมถาม "ด้วยค่ะ แต่สนใจคุณมากกว่า" ผมรีบเอาเข็มเจาะเข้าไปที่หัวใจผมที่กำลังพองโต เรื่องนี้น่ากลัวมากกว่าจะยินดี ผมมองเห็นความซวยกำลังกวักมือเรียกผมด้วยรอยยิ้ม เธอคงจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ "กำลังเซ็งกับชีวิตอยู่ค่ะ เซ็งมาก" นํ้าเสียงเธอบอกได้ถึงความรู้สึกเช่นนั้น "ไม่รู้จะทำยังไง เลยมาเทเวศน์ ชอบแถวนี้ค่ะ แล้วก็เลยมาเจอคุณ ท่าทางคุณกวนตีนมากค่ะ ดูไม่แคร์ ไม่สนอะไร ฉันมองคุณอยู่ นานแล้วค่ะ จนคุณเห็นฉัน" "ขอโทษที่จะต้องบอกว่าบอกว่าไม่เชื่อครับผม" ผมพูดอย่างตรงไปตรงมา ผมไม่ต้องการเล่นเกมส์กับเธอ "ขอโทษเช่นกันที่จะต้องบอกว่าเรื่องจริงและเกลียดการตอแหลที่สุดค่ะ" ความซวยฝูงนั้นกำลังหัวเราะแล้วกวักมือเรียกผมกันสลอนเลย "ไม่ว่าจะสนใจกระเป๋า หรือตัวผมหรืออะไรก็ตาม ขอบคุณสำหรับไมตรี ยินดีรับด้วยความเต็มใจ แต่ผมยังยืนยันว่าไม่เชื่อที่ผู้หญิงสวยๆแบบคุณมาสนใจผมได้" "ดูถูกตัวเอง ว่างั้น" "เปล่าครับ เชื่อมือตัวเองด้วยซํ้าแต่ควรเป็นผมเดินเข้าหาคุณมากกว่าคุณเดินมาหาผม" "พูดตรงดีค่ะ ชอบก็รออยู่ตั้งนานไม่ยอมเข้ามาซักทีนี่นา" ความซวยฝูงนั้นหายไปแล้ว แต่แทนที่ด้วยความชิบหายฝูงเบ้อเริ่ม "ชิบหายก็ชิบหายว๊ะ" ผมคำรามอยู่ในใจ แล้วกระโจนเข้าหาความชิบหายฝูงนั้นทันที "ไปหาที่นั่งคุยกันครับ" ผมพาเชงไปนั่งคุยกันที่แถวราชดำเนิน เราสองคนเหมือนกับถูกพลังมหาศาลดึงดูดกันไว้ เราต่อกันติดเร็วมากเรารู้สึกเหมือนกับผูกผันมาแล้วเป็นร้อยๆชาติ ยามเราสบตากันเนิ่นนานเรารู้สึกถึงความอ้างว้าง เจ็บปวดที่เราเก็บไว้ในซอกลึกของหัวใจด้วยความหยิ่ง และความดื้อของสองเรา ผมเองรู้สึงถึงความอ่อนโยนของตัวเองอย่างคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะอ่อนโยนได้ขนาดนี้ ผมรู้สึกไปถึงว่าถ้าชีวิตนี้ผมขาดเชงไปผมคงอยู่ไม่ได้ ขนาดนั้นเลย นับจากนั้นผมกับเชงก็เปรียบเหมือนเงาของกันและกัน เชงออกจากบริษัทโฆษณาอันดับต้นๆของเมืองไทยมาอยู่กับบริษัทโฆษณาที่ไม่มีอันดับ บริษัทที่มีพนักงานขี้เกียจสุดๆ6คน ย้อนกลับไปวันนั้นวันที่เราสองคนได้เจอกันที่เทเวศน์ เชงไม่ไหวแล้วโลกของเชงแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆแล้ว เชงถูกผู้ชายทุกคนจ้องแต่หาโอกาสในร่างกายเธอ แม้แต่หัวหน้างานที่เธอนับถือดุจพ่อก็เอ่ยปากจะมีอะไรกับเธอในวันนั้นที่ผมตัดสินใจกระโจนเข้าหาฝูงความชิบหายฝูงนั้น เพราะผมเห็นความอ้างว้าง โหยหาในแววตาของเชง ผมไปยืนอยู่ตรงที่เชงหมดแรงไปไหนไม่เป็น เธอเสี่ยงที่จะยึดคว้าผมไว้แล้วเธอแล้วเธอก็ไม่ผิดหวัง ผมเป็นผู้ชายที่เชงอยากจะให้ผู้ชายซักคนปฏิบัติกับเธอ เชงต้องการผู้ชายที่ไว้ใจได้ จริงใจและอ่อนโยนซึ่งเธอก็ไม่ผิดหวัง เราสองคนเคียงข้างกันและกันทุกๆสถานการณ์กองถ่ายโต้รุ่ง เหลือบมองเชงกี่ครั้งก็จะเห็นการมองตอบด้วยสายตาผูกพัน ให้ห้องประชุมที่ลูกค้ารุกไล่จะเอาให้ได้จนตรอก เชงวางมือไว้ที่ขาผมตบเบาๆ วันที่ปัญหาส่วนตัวมันรุมกระทืบซะน่วมกระหนัก เชงจะมานั่งอิงอยู่ข้างๆฮัมเพลงอะไร ไม่รู้แต่เพราะเป็นบ้าเลย "อยากมีอะไรกับเชงไม๊" เชงนอนหนุนแขนผมถามเบาๆแต่ชัดเจน "อย่าถามพี่นะครับ พี่ขีดเส้นไว้และพี่ไม่ก้าวข้ามเส้นไป สัญญาด้วยเกียติครับ" "ดีจัง" เชงจะตอบแบบนี้ทุกครั้งแล้วเราก็จะหลับไปพร้อมกันโดยเส้นที่ผมขีดไว้ยังอยู่ คุณผู้ชายท่านใดที่อ่านเรื่องผมแล้วรู้สึกดี ขอบคุณ แต่ใครที่ยังประพฤติตนด้วยการจ้องแต่จะผสมพันธ์อย่างเดียวตามสัญชาติญาณของสัตว์ที่ต้องแพร่พันธ์ละก็
อย่าเสือกมาอ่านเรื่องของกูนะมึง!!!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook