หนูงง

"หนูงง" เป็นสาวสังคมสมัยใหม่ ของประเทศสารขัณฑ์ วันๆ ชอบพูดคุยเรื่องละคร(น้ำเสีย) ที่ดูมาจากฟรีทีวี(ฟรีจริงอะเปล่า) พูดแต่เรื่องดารา เรื่องแฟชั่น เรื่องกิ๊ก และเรื่องต่างๆที่ได้ยินเขาเล่ามาอีกมากมาย ฯลฯ หนูงงเรียนจบ ป.ตรีจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งแล้ว ด้วยเกรดเฉลี่ยที่พอจบได้ตามเกณฑ์ ที่พอจบออกมาได้ ตามข้อกำหนดของสภามหาวิทยาลัย หนูงง ดีใจมากที่เรียนจบมาแล้ว โชคดีที่มีพ่อแม่มีเส้นสายกับนักการเมืองชื่อดังจึงฝากให้มีงานทำ เป็นเจ้าหน้าที่ทำเอกสารแผนกหนึ่งในบริษัทฯ เกี่ยวกับเชื้อเพลิงระดับประเทศ(มหาชน) ชื่อดังบริษัทฯแห่งนี้แปรรูปมาจากองค์กรของรัฐ โดยการขายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ ให้ประชาชนทั่วไปและเครือญาตินักการเมืองช้อนซื้อหุ้นจำนวนมาก ไปและตั้งคนของตนเข้าไปดูแลจำได้ว่าตอนที่องค์กรแห่งนี้ประกาศขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป(ตามที่สร้างข่าว) มีคุณลุงข้างบ้านข้าพเจ้าไปนอนรอที่หน้าธนาคารตั้งแต่ตี สี่ ปรากฏว่ายังไม่ได้ซื้อเลยสักหุ้น เนื่องจากหุ้นขายหมดไปในเวลา สามนาที(เหมือนอะไรต้มสำเร็จรูปที่เขียนไว้ข้างซองเลยแนะ คุ้นๆ)ทำให้ขณะนี้องค์กรที่ตั้งจากภาษีของชาวเมืองสารขัณฑ์ตกไปเป็นของเอกชนโดยสมบูรณ์ เพื่อนของข้าพเจ้าเปรยๆว่า ทำไมรัด ทะ บาน (ในขณะนั้น)ไม่นำองค์กรของรัฐที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะจำเป็นต้องให้บริการด้านสวัสดิการพื้นฐานต่อประชาชน มาแปรรูปก่อน อ่ะ ชาวเมืองสารขัณฑ์ก็คงพอจะเข้าใจ??. และรัด ทะ บานยุคนั้นก็ยังมีความพยายามที่จะนำองค์กร ต่างๆ(ที่กำไรงาม) มาแปรรูปอีกหลายองค์กรเมื่อให้ประเทศทันสมัยและมีรายได้(ของใคร)มากขึ้นๆ แต่ชาวสารขัณฑ์ประเทศ ที่มีความคิดเริ่มรู้เท่าทัน และได้เห็นตัวอย่างของบางประเทศที่เสียหายมาแล้ว จึงมีการต่อต้านกันพอสมควร จนรัดทะ บาน ถูกประชาชน ร่วมกับขุนทหารยกเลิกไป

บริษัทฯแห่งนี้มีสำนักงานตั้งอยู่กลางเมืองหลวงที่แสนซิวิไลซ์ หนูงง ดีใจมากและตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหน้าที่ให้ทำเป็นอย่างดี เลิกงานทุกเย็นหนูงง ต้องไปเดินเล่นกลางศูนย์การค้า และไปทานข้าวเย็นที่ร้านหรูชื่อดังทุกวัน หนูงงมีรายได้ จำนวนหนึ่ง(ตามวุฒิการศึกษา) เช่าดอนโดพักอยู่กับเพื่อนผู้ฉิง (เป็นเพศที่สาม) เพื่อนของหนูงงทำงานกลางคืน ที่เป็นแหล่งรวมนักท่องราตรีจากต่างชาติและคนเมืองทั้งหลาย ที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ในยามว่าง(เงินเดือนออก) หนูงงก็ติดเพื่อน(ฉิง) ไปเที่ยวด้วย หนูงงชอบดื่มเหล้านอก(ขวด) เป็นประจำตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ที่โรงเรียนชื่อดังในต่างจังหวัด จนกลายเป็นเรื่องปกติ ดื่มจนดึกทุกครั้ง ปล่อยอารมณ์ไปตามฤทธิ์ของสุรา??? หากวันไหนไม่ไต่อวัน เล่นอินเตอร์เน๊ทแช๊ตเอ็มเป็นงานหลัก ส่งผลให้งานที่ทำได้รับความเสียหายเป็นประจำ

จนวันหนึ่งหัวหน้าแผนก(ซึ่งเป็นคนไม่มีเส้นแต่มีความรู้ความสามารถสามมารถ) ย้ายให้ไปทำงานในส่วนที่ไม่สำคัญมาก (เพราะทราบว่าเด็กคนนี้มีเส้นใหญ่ส่งมา) จึงทำให้หนูงงไม่พอใจและโทรไปฟ้องผู้ปกครองซึ่งทำให้ หัวหน้าคนนั้นต้องถูกสั่งย้ายด่วนออกไปอยู่ต่างจังหวัด และตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่มีใครคิดอยากตอแยกับหนูงงอีกเลย

นอกจากหนูงงแล้วภายในองค์กรแห่งนี้ก็มีคนเช่นนี้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเป็นที่รวมเหล่าของลูกท่านหลานไฮโซ จนเต็มองค์กร ทำให้คนดีๆมีฝีมือเริ่มหมดไฟ และกลายเป็นที่ฟอกเงินของลูกผู้มีอันจะกินทั้งหลายไปเกือบทุกแผนก

หลังจากที่บริษัทฯจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี(เป็นสวัสดิการประจำของพนักงาน) ผ่านไป สองสัปดาห์หนูงงได้รับผลการตรวจ(สมุดพก) แสดงผลระบุว่ามีบางอย่างผิดปกติในกระแสเลือด แพทย์แนะนำให้หนูงงไปตรวจซ้ำเพื่อยืนยันผลอีกครั้ง แต่หนูงงเชื่อมั่นว่าตนเองไม่เป็นอะไรมาก เพราะยังรู้สึกเป็นปกติดีอยู่จึงยังไม่ไปตรวจตามที่หมอแนะนำ

ครอบครัวหนูงงที่ต่างจังหวัด ทำอาชีพรับราชการ แม่นิยมเล่นไพ่พ่อชอบตีไก่ (เป็นงานอดิเรก) ครอบครัวหนูงงไม่นับถือผู้ใหญ่ที่ไม่มีฐานะ (แม้กระทั่งญาติสนิท) ชอบนับถือคนรวยเป็นพวก(วัตถุนิยม) และมีอาชีพเสริมอีกอย่างคือเป็นหัวคะแนน ให้กับนักการเมืองใหญ่โดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการเป็นบารมี ทำให้พ่อค้าประชาชนเกรงอกเกรงใจให้ความร่วมมือทุกครั้งและนิยมสวมเสื้อเปลี่ยนสี เมื่อฝ่ายไหนขึ้นสู่อำนาจ ก็เข้าไปอยู่ฝ่ายนั้น ไม่ยึดติดกับขั้วอำนาจใดๆ จึงทำให้ตำแหน่งหน้าที่ราชการไม่เคยสะดุดจนไต่ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งราชการระดับสูงของจังหวัด พ่อของหนูงงเกษียรปีนี้ แม่จะเกษียรปีหน้า พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่สอนให้หนูงงยึดมั่นในความมั่งมี ไม่ส่งเสริมให้คบเพื่อนที่ยากจน ให้แต่งตัวสวยๆ ทำตัวให้เด่นเมื่อเวลาออกงานสังคม เพื่อจะได้มีโมเดลลิ่ง(แมวมอง) มาติดต่อให้เข้าวงการ(ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของพ่อกับแม่) เพราะเห็นว่าได้เงินมากมาย(ดังและรวยเร็ว)

เมื่อเข้าเรียนต่อ ที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังในเมืองหลวง(เนื่องจากสอบเข้ามหาวิทลัยของรัฐไม่ได้) ปีแรกได้รับการโหวตจากเพื่อนๆให้เป็น"ดาวมหาลัย" พ่อกับแม่ภูมิใจมาก รีบขวนขวายเช่าซื้อรถยนต์ป้ายแดงมาให้เป็นของรางวัล จนถึงปีนี้พ่อแม่ ก็ยังผ่อนรถยนต์คันนั้นให้ยังไม่หมด(ถึงแม้ว่าหนูงงเริ่มทำงานและมีรายได้แล้วก็ตาม)

นับตั้งแต่นั้นมา หนูงงก็เริ่มรู้จักคนในวงการฯมากยิ่งขึ้น ทั้งยังคบหากับเพื่อนผู้มีอันจะกินทัเป็นข่าวในบางครั้งที่ตำรวจบุกจับสถานบันเทิงมั่วยา ขึ้นชั้นปีที่สามหนูงงก็ตกชั้นจากการเป็น"ดาวมหาลัย" หลังจากที่ครองตำแหน่งติดต่อกันถึงสองปี จนต้องเบนเข็มไปเข้าสมาคมกับเพื่อนกลุ่มเพศที่สาม(ผู้ฉิง) เนื่องจากกลุ่มนี้มีคอนเนคชั่นกับคนในวงการ(ราตรี) มากมาย และเริ่มคบหากับกลุ่มนี้อย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมา

วันนี้ หนูงง มาทำงานตามปกติ หลังจากที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯได้พาไปดูงานที่ต่างประเทศซึ่งเป็นเกาะที่สวยงามกลางมหาสมุทร (ที่คนสารขัณฑ์ประเทศส่วนมากไม่มีปัญญาไปได้)เป็นเวลาสามสัปดาห์ และด้วยความสามารถเฉพาะตัวของหนูงงในต่างประเทศ หลังจากนั้นอีก หนึ่งสัปดาห์ ผู้บริหารระดับสูงก็ประกาศเลื่อนตำแหน่งให้ หนูงงมาเป็นเลขาส่วนตัว ทำงานใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น จนเป็นเงาตามตัวของผู้บริหารคนนั้นไป ข่าวการออกงานใหญ่ของผู้บริหารระดับสูงกับหนูงง ได้ออกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ทั่วไป

พ่อแม่ดีใจมากที่เห็นและทราบข่าว "หนูงงเก่งจริงๆ" และในระหว่างนั้นหนูงงก็เริ่มมีอาการผิดปกติขึ้นในร่างกายคือมีอาการอ่อนเพลียกินอาหารไม่ได้ และต้องเข้ารักษาพยาบาลเป็นการด่วน ผลการตรวจของแพทย์ยืนยันว่าหนูงงนั้นเป็นโรคร้ายและอาการของหนูงงก็เริ่มผิดปกติมากขึ้นเริ่มเก็บตัวไม่ยอมพบใคร และหายไปจากที่ทำงานในที่สุด

กลุ่มเพื่อน(ผู้ฉิง) เพียรติดต่อกลับไปที่บ้านต่างจังหวัดก็ติดต่อไม่ได้ จึงเดินทางไปตามที่อยู่ที่หนูงงเคยบอกไว้ แล้วก็พบว่า หนูงงไม่เคยกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านต่างจังหวัดเลย และรับทราบจากชาวบ้านว่าพ่อแม่ของหนูงง ได้เสียชีวิตทั้งคู่จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในระหว่างทีขับรถออกตามหาลูกสาว(คนเดียว) อันเป็นสุดที่รักเมื่อวานนี้เองขณะนี้ญาติของหนูงงได้จัดการงานศพให้กับของพ่อแม่หนูงงอยู่ที่วัดใกล้บ้านไม่มีใรติดต่อหรือได้ข่าวของหนูงงแม้แต่คนเดียว ทุกคนคิดว่าแล้วหนูงงละว่าเธอไปอยู่ที่ไหน?....