เรื่องเล่าจาก

เรื่องเล่าจาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งถ่ายทอดประสบการณ์ ครั้งหนึ่งซึ่งเคยต้องคดี ซึ่งระหว่างที่คดีอยู่ระหว่างขึ้นศาล ก็จะมีการควบคุมผู้ต้องหาในเรือนจำซึ่งเรียกว่าการฝากขัง

ป.เป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวัยที่คึกคะนอง และเป็นวัยเจริญพันธุ์ เป็นเรื่องปกติที่ชายหนุ่มในวัยนี้ที่จะมีความรัก ป.ก็เป็นคนหนึ่งซึ่งไปหลงรัก สาวสวยประจำหมู่บ้าน ชื่ออ. ซึ่งอ.ก็เหมือนจะมีใจตกอยู่ในห้วงความรักเช่นกัน การเยี่ยมเยือนกันถึงบ้านถึงเรือนก็เป็นเรื่องปกติ ของวัยรุ่นหนุ่มสาว ในท้องถิ่นชนบท ถือเป็นการคบค้าพูดคุยในสายตาของผู้ใหญ่ อ.อาศัยอยู่กับป้าซึ่งแต่งงานอยู่ต่างหมู่บ้านกับพ่อและแม่ของอ. ป.รู้ว่านอกจากงานบ้านงานเรือนเล็กๆ น้อย แล้ว อ.มีหน้าที่ดูแลน้องซึ่งเป็นลูกป้ากับลุงเขยซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งลุงเขยก็มีท่าที ที่เอ็นดูและเอาใจอ.เป็นพิเศษอยู่เนืองๆ ในสายตาของป.หลังจากที่ ป.และอ.ได้รู้จักกัน ป.ก็มักจะหาไปพูดคุยกับอ.ที่บ้านอยู่เสมอ วันหนึ่ง ลุงเขยกับปของอ.ไม่อยู่บ้าน ป.ก็ไปหาอ.ตามปกติ หนุ่มสาวเมื่ออยู่กันตามลำพัง วันนั้นจึงมีเรื่องเกินเลยเกิดขึ้น เมื่อลุงเขยกับป้ากลับมาเห็นเข้า ลุงเขยของอ. โกรธมาก จึงแจ้งตำรวจจับป. ว่า ป.ข่มขืน อ. โดยลุงเขยบังคับให้อ.บอกตำรวจว่า ป.ใช้กำลังข่มขืนอ. หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยจากผู้ใหญ่ให้ ป.นำเงินมาทำขวัญ อ. ห้าหมื่นบาท แล้วถ้าป.ต้องการจะอยู่กับอ.ก็ให้หาเงินมาแต่งงานต่างหาก

ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของป.ได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวป.ออกมา เมื่อมีการเจรจาต่อรองกัน คือทางผู้ใหญ่ของป.ว่าถ้าต้องการเรียกเงิน ห้าหมื่น งั้นก็ให้เด็กทั้งสองอยู่ด้วยกันเลย ทำพิธีผูกข้อมือกันถือเป็นการแต่งงานไปเลย แต่ทางผู้ใหญ่ของอ.โดยเฉพาะลุงเขยไม่ยอม จึงตกลงกันไม่ได้ทางผู้ใหญ่ของป.โกรธจึงให้ป.หนีคดีในคืนนั้น โดยไม่ต้องเสียเงินใดๆ ทั้งสิ้น

ป.จึงต้องหนีจากอ. ตั้งแต่คืนนั้น มาอาศัยญาติของป.อยู่ในจังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งในภาคอีสาน เวลาผ่านมาไม่นาน ด้วยความคึกคะนองของป.หลังจากดื่มเหล้าจากเมามายในคืนนึ่ง ที่ป.ไปเที่ยวบ้านเพื่อนต่างอำเภอ ป.ได้เผลอจับเนื้อต้องตัวญาติของเพื่อนเข้าเลยถูกแจ้งความในข้อหาอนาจาร ป.ได้ถูกส่งตัวไปที่เรือนจำประจำจังหวัดแห่งนั้นเพื่อฝากขัง ด้วยความที่กลัวว่า คดีแรกกจะถูกเชื่อมโยงกับคดีใหม่ ป.จึงไม่ได้บอกชื่อและนามสกุลจริงกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ ประกอบกับไม่มีบัตรประชาชนติดตัว

คดีของป.จึงยังไม่เชื่อมโยงกับดคีแรก ในขณะที่ผู้ใหญ่เจรจาตกลงเรื่องค่าทำขวัญคดีอนาจาร ป.จึงต้องถูกคุมขังอยู่เรือนจำจังหวัดนั้น

ในระหว่างที่ถูกคุมขัง ภาพต่างๆ ในอดีตได้ย้อนเข้ามาในสำนึกของป. หลายต่อหลายครั้งที่เขาทำให้แม่ต้องเดือดร้อน ต้องร้องไห้ เวลาที่เขาไปก่อเรื่องก่อราวอยู่เนืองๆ เช่น ยกพวกตีกันระหว่างหมู่บ้านบ้าง ยืมรถพื่อนไปคว่ำบ้าง เขาเรียกร้องค่าเสียหายบ้าง ทำให้เขาเกิดความสำนึกผิดต่อมารดา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook