*จากแอบรัก กลายเป็น..รักเค้าข้างเดียว

*จากแอบรัก กลายเป็น..รักเค้าข้างเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เราก็เคย แบบว่า"แอบรักเค้าข้างเดียว" อะไรประมาณนั้น
เรื่องของเรายาวววววมั๊กมาก ต้องใช้ความอดทนในการกันอ่านหน่อยนะค่ะ คริคริ^^

เรื่องมีอยู่ว่า...เรามาเรียนที่ซิดนีย์ แล้วเราต้องหาห้องใหม่อ่ะค่ะ ก็เลยมาได้แชร์ห้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับพี่คนที่เราชอบ นั่นคือวันที่เราเห็นพี่เค้าครั้งแรกที่ซิดนีย์ ห้องก็เป็นเหมือนคอนโดที่เมืองไทยนั่นแหละมี 3ห้องนอน แล้วก็แชร์กัน

ตอนแรกเราที่เจอพี่เค้า เราก็คิดว่าพี่เค้าก็หล่อดีเน๊อะ ได้ยินคนอื่นเค้าพูดถึง...แล้วพี่เค้าก็เดินเข้าห้องมาพอดี เราก็เลยนึกในใจว่า "อ๋อ!!พี่คนนี้นี้เองที่คนในบ้านพูดถึง" เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก รู้แต่ว่าหน้าหล่อดี แล้วเราก็กลับ
หลังจากเราย้ายเข้าไปอยู่ ก็ไม่ได้คุยไรกะเค้า เจอกันที่จิมบ้าง แต่เราก็ไม่ได้ทัก ต่างคนต่างอยู่
เราชอบเที่ยวแล้วก็ชอบไปจิม เลยไม่ค่อยอยู่ห้อง จำได้ว่าพูดกันแค่2-3ครั้งเองมั้ง

แล้วอยู่ได้ประมาณอาทิตย์นึง ที่ซิดนีย์ปกติจะมีงานปาร์ตี้ไทยไนท์ เราก็ไป(เหมือนทุกครั้ง) แต่คราวนี้เราชวนพี่ที่ห้องนั้นไปด้วย อินคู๊ดพี่คนที่เราชอบด้วยนะ อิอิ
.....พอเลิกเรียน เราก็กำลังจะไปที่งานปาร์ตี้ แล้วพี่คนที่เราชอบก็โทรมาหาเรา บอกว่าเดี๋ยวไปพร้อมกัน แล้วก็จะมีเพื่อนเกาหลีไปด้วยอีก4-5คน เราก็ไปกินข้าว+โซจู รอกะเพื่อนคลาสเมทของเราเอง^^ เอิ๊กๆๆ มาวนิดหน่อย แล้วก็เราก็ไปที่งาน ขากลับเราก็บอกให้เค้ากลับไปก่อน เพราะเราจะอยู่ต่อกะเพื่อนๆ(แต่ตอนนั้นเรายังไม่รู้ตัวนะ ว่าเค้าชอบเค้าอ่ะ)มันก็ยังไม่มีปฏิกริยาอะไรเกิดขึ้นกะตัวเรา
หลังจากวันนั้นเราก็เริ่มคุยกะพี่เค้า แล้วก็เริ่มสนิทกัน ไปทานข้าวเย็นด้วยกันบ่อยๆ

แต่เราอยู่ที่ห้องนั้นแค่ 2อาทิตย์ แล้วก็ย้ายไปอยู่ห้องเพื่อน ก็ไม่ไกลจากคอนโดเดิมเท่าไหร่
แล้วเวลาเราไปไหนด้วยกัน พี่เค้าก็จะมาส่งที่คอนโดประจำ แล้วก็มีครั้งนึงตอนมาส่งเรา พี่เค้าขอกอดเรา แบบกอดลาก่อนกลับคอนโด....แล้วบางครั้งตอนไปเที่ยวก็ถามเราว่าจะนั่งตักเค้ามั้ย แล้วก็มีชวนไปเที่ยวสโนว์ มันคือไปเล่นสกีอ่ะค่ะ แต่ต้องนอนค้างคืน คิดไปคิดมนโดอื่น ซึ่งมันไกลจากที่เดิม
คราวนี้ราก็เริ่มห่างกัน ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย แต่ก็ยังโทรคุยกัน แล้วก็ไปทานข้าวบ้าง ในฐานะพี่น้อง

พอปิดเทอมเราก็ไปบ้านญาติที่เมลเบิร์น คราวนี้ยิ่งห่างกันไปเรื่อยๆ เราไม่ค่อยโทรคุยกัน เราแพลนไว้ว่าจะย้ายไปเรียนที่เมลเบิร์นเลย แต่สุดท้ายเราก็กลับมาเรียนที่ซิดนี่ย์

ห่างหายกันไปพักใหญ่........พี่เค้าก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรหรอก ตามประสาคนหล่อ เสน่ห์แรง ช่วงนั้นเราก็เริ่มไม่แน่ใจว่า...เอ๊ะ!!นี่เราชอบพี่คนนี้รึเปล่าหว่า?? แต่ก็ตัดใจ อยู่ห่างๆดีกว่า ไม่อยากหาเรื่องให้ตัวเองอกหัก

ช่วงที่เรากับมาอยู่ซิดนีย์ เราก็ใช้ชีวิตอยู่กะเพื่อนๆ ไม่ค่อยได้คุยกะพี่เค้า ใน MSNก็ไม่ได้ทัก แล้วพอเราเริ่มไม่ใส่ใจ..พี่เค้าก็เริ่มกลับมาคุยกะเรา(ในฐานะพี่น้อง เหมือนเดิม) แต่เรานี่ซิ!! เริ่มจะหวั่นไหวแล้ววววววว และอีกไม่นานพี่เค้าก็จะกลับไปอยู่ที่ไทย.........แบบว่า อยู่แบบถาวรเลย ทีนี้เราก็เกิดอาการเศร้าอ่ะดิ แต่ยังควบคุมอารมณ์ได้อยู่ พยายามร่าเริ่งเหมือนเดิม.....เพื่อนเพื่อนซี้เราดูออก ว่าพฤติกรรมเราเปลี่ยนไป จนเพื่อนเราถามว่า "มึงโอเคมั้นว่ะ นี่กูว่ามึงเป็นเอามากนะเนี่ย" เอิ๊กๆๆ ....เราก็ยังคงปากแข็งบอกว่าไม่มีไร เพราะปกติเราจะเป็นพวกร่าเริ่งมากกก ซึ่งพี่คนที่เราชอบเราจะเรียกคนแบบเราว่า .."ไฮเปอร์"อ่ะค่ะ;~P ภาษาปกติ คือซนนั่นแหละ

ระยะหลังเราเริ่มอาการหนัก จนเพื่อนๆเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ และบอกให้เรากลับไปอยู่ที่ไทยซักพัก เป็นไปได้ว่าบ้างทีเราอาจจะคิดถึงบ้าน หรืออะไรซักอย่าง พวกเค้ารู้แต่ว่าเราคิดถึงพี่(พวกเพื่อนๆยังคงคิดว่า เราคิดถึงพี่ชายแท้ๆที่คลานตามกันออกมา)

**ลืมบอกค่ะ!! ตอนแรกเราบอกแนะนำพี่เค้ากับเพื่อนๆว่า นี่คือพี่ชายเรา แบบว่าคลานตามกันออกมา อำเพื่อนเล่นอ่ะค่ะ เพื่อนก็ดันเชื่ออีก-_-" แล้วเราลืมอ่ะค่ะว่าเราอำเพื่อนๆไว้ เลยไม่ได้เฉลยอ่ะ

หลังจากที่พี่เค้ากลับไทย 2อาทิตย์ เราก็กลับไทยเช่นเดียวกัน ช่วงนั้นเราได้หยุดฮอร์ลิเดย์คริสมาส&ปีใหม่ พอถึงไทยเราก็นัดเจอกับเค้า ไปเที่ยวกัน โทรุขดี^^

แต่เรื่องมันเริ่มแย่น่ะสิค่ะ ไอ้ตอนที่เรา "เปลี่ยนจากแอบรัก...มาเป็นรักเค้าข้างเดียว"นี่แหละ

คือเราก็ตัดสินใจบอกพี่เค้าไปว่าเราชอบเค้า เป็นไงเป็นกัน! เราบอกทางเมลล์อ่ะค่ะ(เอิ๊กๆๆ เราไม่กล้าพูดต่อหน้านี่นา) แต่เราสุดท้ายก็ได้เรื่องจริงๆค่ะ....คือได้เรื่องเศร้าอ่ะนะ

เค้าก็ถามเราใน MSNว่า ที่บอกอ่ะ หมายความว่ายังไงเหรอ?? เราก็ตอบไปว่า ก็หมายความตามที่บอกนั่นเลยค่ะ(แปลเป็นไทยนะค่ะ) เค้าบอกว่าไม่อยากทำให้เราสับสน (ก็ไอ้ที่ทำมา มันชวนให้สับสนนี่นา) แล้วก็บอกเราว่า...มันมีอะไรซับซ้อนเกินกว่าที่จะอธิบาย..or something like that.

เราก็เลยบอกเค้าไปว่า..."มันแค่เรารู้สึกว่าเราชอบ มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกอ่ะค่ะ ไม่ได้มีอะไรมาก" แต่ดันตอบเรากลับมาว่า..."เค้าไม่อยากเอาความรู้สึกใครมาเล่นๆ ประมาณว่าถ้าล้อเล่นกับความรู้สึกใคร มันจะทำให้คนๆนั้นเสียใจได้" กำ!!-_-" แล้วไอ้ที่ทำมาก่อนหน้านี้ มันไม่ได้เล่นกับความรู้สึกเรางั้นเหรอ??

แล้วๆๆๆๆๆพอเราตัดใจ ก็ดันมาทักทาย พูดดีกะเรา ทำให้เราหวั่นไหวซะงั้น !

ทำเราเซ็งไปนานเลย เซ็งจนถึงทุกวันนี้


สิ่งที่เราพลาดอย่างแรง!! เลยก็คือ..เราเรียกเค้าว่าBro..ซึ่งมาจากคำว่าBrother นั่นเอง เป็นไงล่ะ..เค้าก็เลยเรียกเราว่าSis..เลยอ่ะ (สมน้ำหน้าตัวเอง-_-")
แล้วเราก็เรียกแบบนั้นมาจนถึงทุกวันนี้...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook