มองแบบนี้หมายความว่างัย

มองแบบนี้หมายความว่างัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยังจำเหตุการณ์ตั้งแต่ สิบปีที่แล้วได้ดี ครั้งแรกที่เราและคนคนนี้เจอกันครั้งแรก ชั่งเป็นบรรยากาศที่แสน จะทรมาน ทั้งอึดอัด ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับคนที่ขาดอากาศหายใจ คิดอย่างเดียวเมื่อไหร่เขาจะกลับสักที

เราจำได้ติดตา ท่าทางของคุณหมอขี้เก๊ก บอกได้คำเดียวชื่อนี้เราเป็นคนตั้งให้ (ในใจนะ) ท่าทางของเขาไม่เข้าตากรรมการเอาเสียเลย

ณ...กระทั่งเดียวนี้เวลาล่วงเลยมา สิบปีเขาก็ยังเหมือมเดิม แต่เมื่อใดก็ตามที่เราทั้งสองไปทำงานหรือว่าที่เจอกันโดยไม่มีบุคคลที่สาม เขาจะกลายเป็นอีกคนในทันที

เขาจะชวนคุ่ยโน่นคุ่ยนี้ โดยที่เขามีความสามารถคุ่ยได้จากกรุงเทพจนกระทั่งถึงระยองโดยที่ไม่หยุดนะ แต่เมื่อใดก็ตามที่อยู่ต่อหน้าบุคคลที่สาม ที่รู้จักเราทั้งคนเขาจะไม่คุ่ย ที่สำคัญเราก็เป็นประเภท ถ้าไม่คุ่ยกับเราก่อนเราก็ไม่เคยคุ่ยกับเขาก่อนเช่นกันนะ

เขาคนนี้เราไม่แน่ใจว่าจะเป็นคู่เวรคู่กรรมต่อกันหรือเปล่านะ เพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นครั้งแรกในชีวิตของเราเขาจะอยู่ในเหตุการณ์ทุกครั้ง

เราจำได้ดีผู้ชายคนแรกที่ได้เห็นเราร้องไห้ ก็คือเขาคนนี้ เหตุการณ์คราวนั้น เกิดจากพี่สาวของเขาเป็นก่อขึ้นมา โดยการให้ร้ายแก่เรา โดยที่ลักษณะพูดว่าเราไป

ทำตัวไม่เหมาะสมใส่เขาคนนี้ต่อหน้าผู้คนนับร้อย พี่เขามาพูดกับแมาโทรไปหาเขาทันที บอกว่ามีเรื่องจะถามพอจะว่าง ตอนใหน เขาเลยบอกว่า ทุ่มหนึ่งแล้วกันเพราะเข้าเวรที่โรงพยาบาลเลิกหกโมง เราเลยนัดเจอที่ห้องพี่สาวแถวหน้าราม วันนั้นเราเลยใส่อย่างเดียวเราพูดออกมาหมดทุกอย่าง

เขาก็ได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก เพราะพอเราพูดเสร็จน้ำตาแห่งการณ์แค้นใจ เลยออกมาเหมือนกับทำนบที่พังลงมา สุดท้ายเราก็ถามเขาว่า ตัวเราทำตัวแบบที่พี่สาวเขาว่าหรือเปล่า

เขาก็บอกว่า เราไม่ได้ทำตัวเหมือนที่พี่สาวเขาว่า เราเลยถามกลับ ทำไมต้องพูดให้ร้ายเราด้วย เราก็ไม่เคยทำไม่ดีกับญาติพี่น้องเขาเลย

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เรายิ่งเกลียดเขาคนนี้อีกกระบุงโกย แต่ด้วยภาระของงานทำให้เรากับเขา ต้องไปใหนด้วยกันตลอต ญาติเขาทุกคนจะรักเราและเราก็รู้จักและสนิท มีอยู่ครั้งหนึ่งเราไปหาพี่เราด้วยกัน พอเจอหน้าพี่ชายแกก็ทักว่าเขาเป็นแฟน

เราเฉยเลย เราก็บอกว่าไม่ใช่พี่ชายก็บอกว่าไม่ใช่ได้งัยแต่งเมื่อใด จะเอารถเบนไปรับ

รู้ไหมเขายืนยิ้มเฉยเลย และเขาคนนี้ก็เป็นแฟนคนแรกของเราตามสายตาพี่ชายไปโดยปริยาย

ที่สำคัญอยากจะบอกว่า เขาเป็นคนที่มาสายทุกครั้งที่นัด ร้อยทั้งร้อยไม่เคยมาทัน

แล้วเขาจะรู้ว่าตัวเองผิดก็จะพยายามหาเรื่องตลกมาคุ่ยให้เราขำ นี่คือการยอมรับผิดโดยที่ไม่ต้องพูดถึงกัน

อยากจะบอกว่าเใช้สำนวนไทยคำหนึ่ง เขาบอกว่ารอนะเดี่ยวราชรถจะไปรับนะ ซึ่งตอนนั้นในรถเขาไม่ได้นั่งมาคนเดียว และที่สำคัญทุกคนที่อยู่ในรถรู้จักเราสองคน ไม่อยากบอกพอเจอกันเราก็โดนแซวครั้งในชีวิตและอายด้วยนะ

ที่สำคัญเขาจะชอบมองเราโดยที่เราไม่รู้ตัวพอหันไปเจอเขาไม่เคยหลบ เราพอหันไปเจอหลบแทบไม่ทัน สายตาก็มองแปลกๆ ล่าสุดเขาพาไปพบลูกสาวเพื่อนของแม่เขานะ พอเจอกันก็ไม่แนะนำนะ ต้องให้ผู้หญิงคนนั้นถาม เขาก็ไม่ตอบผู้หญิงคนนั้นก็มองเราแปลกๆ เขาเลยหันมาว่าถามบ้านเราเขาเรียกว่าอะไรเวลาที่เขาพูดกับน้องผู้หญิงคนนี้เขาจะหันหน้ามาทางเราทุกครั้ง เพราะว่าเรานั่งไกล้กันในลักษณะรูปสามเหลี่ยม

น้องผู้หญิงเขาก็จะมองมาทีเราสองคนบ่อยคงคิดว่าทำไมพี่เขาไม่แนะนำเหมือนกับไม่เชื่อที่เราบอก เพราะว่าตั้งแต่ที่เธอเห็นว่ามีนั่งอยู่ด้วยสีหน้าน้องเขาสลดทันที

เราไม่เหมือนกันว่าเมื่อใดที่เราจะหลุดพ้นจากการที่ต้องมาภาระต่อกันสักที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook