คูณ-คณิน พระเอก ม.3 ปี 4 ว่าที่ หมอฟัน สุดหล่อ

คูณ-คณิน พระเอก ม.3 ปี 4 ว่าที่ หมอฟัน สุดหล่อ

คูณ-คณิน พระเอก ม.3 ปี 4 ว่าที่ หมอฟัน สุดหล่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หนุ่มคนนี้เป็นว่าที่ทันตแพทย์ในอนาคต แต่ก่อนที่เขาจะไปจับเครื่องมือแพทย์อย่างเป็นทางการ หมอฟันรูปหล่อขอเข้ามาโลดแล่นในแผ่นฟิล์มก่อน กำลังจะลงโรงภาพยนตร์ในวันที่ 30 เมษายนนี้ ผลงานการแสดงเรื่องแรกของเขา ม.3 ปี 4 เรารักนาย เรากำลังเอ่ยถึง "คูณ-คณิน บัดติยา" นักศึกษาทันตแพทย์ ชั้นปีที่ 4 กำลังจะขึ้นปีที่ 5 ม.รังสิต เป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าคอนเซ็ปต์หล่อ ฉลาด มาดดี ซึ่งในอีกไม่กี่ปีหมอคูณจะได้ลงพื้นที่ตรวจรักษาฟันในช่องปากให้กับคนไข้กันแล้ว ใครอยากจะถอนฟัน อุดฟัน กับหมอคูณอดใจรอนิดหนึ่งนะจ๊ะ ภาพยนตร์เรื่องแรก เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของผมครับ ก่อนหน้านี้เคยถ่ายโฆษณา เดินแบบ ถ่ายแบบมาก่อน และที่ได้เข้ามาเล่นหนังเพราะทางค่ายอาวองเห็นผมจากโฆษณาก๊าซโซฮอล์ แต่ตอนนั้นไม่ได้จะมาเล่นเรื่องม.3 ปี 4 นะครับ ไป ๆ มา ๆ บทเขามีปัญหาจึงดร็อปไว้ก่อน ผมก็เดินโต๋เต๋อยู่ในค่ายอาวอง พี่ ๆ ทีมงานเขาเห็นก็เรียกเข้ามาแคสติ้งในบทของธีร์ เป็นนักศึกษาทันตแพทย์ครับ "เป็นบทที่คล้ายกับตัวจริงของผมมาก โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้สะท้อนถึงความเป็นจริงในปัจจุบัน ค่อนข้างเกี่ยวกับเทคโนโลยีในปัจจุบันที่เด็ก ๆ จะเล่นทั้ง hi5 MSN ต่าง ๆ นานา คือเรื่องนี้จะให้คนดูลุ้นว่าเราจะหาเพื่อนแท้ เจอคนพิเศษจริง ๆ ได้หรือเปล่า หรือว่าเป็นแค่การหลอกลวง ต้องไปติดตามดูแล้วกัน" ถึงแม้จะก้าวเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง แต่หนุ่มคูณย้ำหนักแน่นว่าไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน แถมยังทุ่มเทเวลาให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก "ช่วงที่ถ่ายหนังขาดเรียนน้อยครับ เพราะว่าการทำงานเขาเป็นระบบมาก ตารางจะอยู่ในช่วงปิดเทอมและหลังเลิกเรียน พี่ ๆ ทีมงานเข้าใจครับ เพราะว่าคูณเรียนหนักจริง ๆ บางวิชาขาดเรียนไม่ได้เลย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จะมีใบลาไปให้อาจารย์ ผมทุ่มเทในการเรียนให้มากที่สุด โดยเฉพาะการเรียนภาคปฏิบัติ คือผมจะเป็นคนเข้าใจง่าย ผมไม่รีรอในการส่งงาน ถ้าผิดคือผิด เราจะได้ทำใหม่ จะได้จำได้แม่นขึ้น งานผมจึงเสร็จเร็วกว่าเพื่อน แต่วันไหน ถ้าผมขาดเรียน ผมไปตามแล็บจากอาจารย์ซึ่งผมตามได้ทันเสมอครับ (หัวเราะ) อาจารย์น่ารักมากด้วย มาสอนให้ผมเข้าใจตัวต่อตัวเลย (หัวเราะ)" เพราะอะไรถึงเลือกเรียนทันตแพทย์ คูณให้เหตุผลอยากรักษาคนไข้ และจริง ๆ แล้วเจ้าตัวอยากเรียนแพทยศาสตร์ แต่ติดอยู่อย่างเดียว...ส่วนจะเป็นอะไรนั้น เรามีเฉลย "ต้องบอกก่อนว่าตอนม.6 ผมเคยสอบติดคณะเภสัชฯ ม.ขอนแก่น ด้วยความที่ผมเป็นลูกคนเล็ก ผมอยากลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กเกินไปอยากไปเรียนที่ไกล ๆ บ้านดูบ้างจะได้โตเป็นผู้ใหญ่ บ้านผมอยู่แพร่ จากแพร่ถ้าเลือกเรียนที่มช. ยังใกล้เกินไป (หัวเราะ) ผมเลยเลือกที่ขอนแก่นเพราะห่างจากแพร่ 600 กว่ากิโลเมตร ถือว่าไกลใช้ได้เลยครับ (ยิ้ม)" "ตอนนั้นที่เลือกเรียนคณะเภสัชฯ ผมคิดแบบเด็ก ๆ นะครับ (หัวเราะ) คือเราไม่ชอบเลือด คิดว่าเรียนหมอต้องเจอเลือดแน่นอน เลี่ยงไม่ได้ เลยหันมาเลือกคณะเภสัชฯ แทน แต่พอไปเรียนแล้ว มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ไว้เลยนะ ต้องเรียนวิชาเคมี เรียนโครงสร้างยา พอเรียนไปแล้วมึนครับ (หัวเราะ) ประกอบกับวิชาเคมีผมเรียนอยู่ในระดับปานกลาง ถามว่าเรียนให้จบได้ไหม ได้ครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าผมเรียนแล้วไม่มีความสุข ตัวผมต้องการดูแลคนไข้จริง ๆ อยากรักษาคนครับ" เพียงเพราะกลัวเลือดจึงเป็นอุปสรรคให้เขาไม่สามารถเรียนหมอได้ แต่ใช่ว่าเขาจะละความพยายามไป อีกหนึ่งทางเลือกที่เขาจะสามารถรักษาคนไข้ได้ นั่นคือการเป็นทันตแพทย์ "จากนั้นผมไปปรึกษาญาติ ๆ ว่าผมอยากเรียนหมอแต่ว่ากลัวเลือด จะเรียนคณะไหนได้บ้าง พี่ ๆ แนะนำมาว่าให้เรียนทางด้านทันตแพทย์ จะได้เรียนอยู่ในพื้นที่จำกัด คือ ช่องปาก อาจจะเจอเลือดน้อยกว่าเรียนแพทยศาสตร์ครับ หลังจากนั้นผมเอ็นทรานซ์ใหม่อีกครั้ง เลือกเรียนทันตแพทย์ แต่ไม่ได้เลือกที่ม.ขอนแก่นแล้ว เพราะทางบ้านเดินทางมาหาลำบาก อยากให้เรียนที่ใกล้ ๆ แต่พี่ผมเรียนที่มช.แล้ว เห็นมาตั้งแต่เด็ก ไม่อยากไปเรียนที่นั่น คุณพ่อคุณแม่เขาให้ทางเลือกมาว่าจะเรียนที่กทม.ก็ได้ ผมเลยตัดสินใจมาสอบเข้าคณะทันตแพทย์ ม.รังสิต" "ถามว่าเสียดายมั้ย เสียดายเหมือนกันครับ หนึ่งปีในม.ขอนแก่นสร้างประสบการณ์ในการใช้ชีวิตแบบใหม่ให้กับผมเยอะมาก แต่ว่าผมต้องแลกกับความสุขในการเรียน เพราะผมรู้ว่าผมไม่ได้ชอบจริง ๆ ควรเรียนในสิ่งที่เราชอบดีกว่า การเรียนทันตแพทย์ ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เราคิด แต่สามารถเรียนได้ครับ ไม่มีปัญหา เจอเลือดน้อยครับ (หัวเราะ) บุคลิกภาพเราต้องดูน่าเชื่อถือ จะเล่นมากไม่ได้ ต้องทำตัวให้พร้อมอยู่เสมอ" ตอนนี้เรียนกำลังจะขึ้นปี 5 เรียนหนักมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน นอกจากนี้เขายังแปลนอนาคตของตัวเองไว้ว่าจะขอทำหน้าที่หมอฟัน รักษาคนไข้ตามที่ฝันเอาไว้ "ปี 1-3 เรียนวิชาที่นักศึกษาแพทย์เรียนทั้งหมดครับ พอขึ้นปี 4 จะแยกเรียนตามสาขาของแต่ละคน ของผมเรียนเกี่ยวกับคนไข้เฉพาะช่องปาก ดูเรื่องฟันเต็มที่ครับ ใช้ระยะเวลา 1 ปีสำหรับเรียนทฤษฎี พอขึ้นปี 5-6 จะลงคลินิกแล้วครับ" "ผมวางแผนอนาคต ต้องเรียนให้สำเร็จภายใน 6 ปี ถ้าเรียนจบแล้วอยากทำงานในโรงพยาบาลสักระยะหนึ่งก่อน ตอนนี้เรียนหมอไม่ต้องใช้ทุนแล้วครับ พอให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น ส่วนต่อไปจะเรียนต่อหรือเปิดคลินิก ตอนนั้นค่อยคิดอีกที แต่ถึงอย่างไรผมไม่ทิ้งอาชีพนี้แน่นอน แม้จะเข้ามาทำงานในวงการ เพราะความมุ่งมั่นของผมคือเป็นทันตแพทย์" สุดท้ายในฐานะเป็นรุ่นพี่ที่เคยมีประสบการณ์การสอบเข้ามหาวิทยาลัย คูณให้คำแนะนำน้อง ๆ ว่า "ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สามารถพลิกชีวิตเราได้เลย เราเหนื่อยเพียงแค่อึดใจเดียวเอง แต่ต้องรู้ว่าร่างกายเราไหวหรือเปล่าด้วย จุดมุ่งหมายเราเป็นอย่างไร ต้องพยายามให้ถึงจุด ๆ นั้น วันที่ประกาศแล้วมีรายชื่ออยู่ในนั้น วันนั้นเป็นวันแห่งการดีใจ ไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่รวมถึงคนรอบข้างเราด้วย อนาคตอยู่ตรงหน้าตั้งใจไขว่คว้ามาให้ได้ครับ ขอให้น้อง ๆ ทุกคนโชคดี" แน่นอนว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะมี "ทันตแพทย์คณิน" หมอฟันสุดหล่อมารักษาฟัน งานนี้สาว ๆ เข้าคิวรอเพียบ!! ที่มา "การศึกษาวันนี้" ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : นายหรั่ง ภาพประกอบบางส่วนจาก อินเทอร์เน็ต

รวมภาพหล่อๆ ของ คูณ-คณิน บัดติยา (คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ คูณ-คณิน พระเอก ม.3 ปี 4 ว่าที่ หมอฟัน สุดหล่อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook