มิว เดอะสตาร์ เฟรชชี่ นิติฯ จุฬาฯ ฝ่าวิกฤตทางด้านการเรียน

เวทีเดอะสตาร์ จุดนัดฝันของใครหลายคนที่อยากค้นฟ้าคว้าดาว และเส้นทางนี้ได้แจ้งเกิดให้กับสาวน้อยนักล่าฝันคนนี้ มิว-พีรชยา พิณเมืองงาม ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว น้องมิวได้เข้าชิงชัยรายการเรียลิตี้โชว์นี้ และความสามารถในการร้องเพลงได้พาให้เธอได้เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย จึงทำให้ชื่อของมิวเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

กลายเป็นที่มาของผลงานต่าง ๆ มากมาย อาทิ อัลบั้มเดอะสตาร์รวม 8 คน ละคร ?รอยอดีตแห่งรัก? เล่นกับหนุ่มบี้ เดอะสตาร์ ถือเป็นละครเรื่องแรกของเธอ โฆษณาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าคลีนแอนด์เคลียร์ และล่าสุดที่น้องมิวกำลังขะมักเขม้นซ้อมและขึ้นแสดงสดกับละครเวที ?ข้างหลังภาพ เดอะ มิวสิเคิล? มิวรับบทเป็นคู่หมั้นของพระเอกนพพรนั่นเอง ใครยังไม่ได้ไปชมคาดกว่าจะมีการต่อรอบออกไปถึงเดือนตุลาคม รีบหาซื้อบัตรโดยด่วนค่ะ นั่นเป็นความสามารถของน้องมิวในวงการบันเทิง แต่อีกหนึ่งความสามารถ หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ นั่นคือเธอเป็นนักกีฬาระบำใต้น้ำ ระดับทีมชาติ และนักกีฬาเขตประเภทยิมนาสติก กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย จนเพื่อนฝูงตั้งฉายาให้ว่าสาวน้อยนักกีฬา ?มิวเริ่มเล่นกีฬามาตั้งแต่อายุ 6 ขวบค่ะ เริ่มเรียนยิมนาสติกลีลาเป็นกีฬาชนิดแรกค่ะ มิวเรียนที่ กกท. หัวหมาก ต่อจากนั้นได้เป็นนักกีฬาเขตตอนอายุ 11 ขวบ ระหว่างนั้นคุณแม่ส่งมิวเรียนเต้นบัลเลต์ควบคู่ไปกับยิมนาสติกด้วย พอเริ่มอายุ 12 ปี มิวไปเล่นกีฬาระบำใต้น้ำ และอายุ 16 ปี มิวได้เป็นนักกีฬาทีมชาติค่ะ ไปแข่งซีเกมส์และเคยไปปรีโอลิมปิกมาแล้ว ได้มาทั้งเหรียญทอง เงิน ทองแดง มีหมดเลยค่ะ? เป็นนักกีฬาระดับทีมชาติหากคิดจะเอาดีทางนี้คงไปได้อีกไกล แต่ชีวิตของน้องมิวเริ่มหักเหเมื่อเข้ามาร่วมค้นหาความฝัน จนสุดท้ายได้เป็นหนึ่งใน เดอะสตาร์สมความตั้งใจ ?ไม่เคยเรียนร้องเพลงมาก่อนนะคะ ส่วนใหญ่จะร้องแต่คาราโอเกะที่บ้าน คือร้องบ่อยมากเมื่อไม่มีอะไรทำ โดยที่ไม่ได้รู้ว่าตัวเองชอบเลย ตอนนั้นแค่รู้ว่าร้องเพลงแล้วมีความสุขมาก ไม่มีอะไรทำก็ร้องเพลง เรียกว่าร้องเพลงตลอดเมื่อมีเวลาว่าง และเคยไปแข่งตามห้างสรรพสินค้าที่เขาจัดประกวดร้องเพลง ได้รางวัลบ้างไม่ได้บ้างค่ะ จนมาเจอว่ามีโครงการประกวดเดอะสตาร์ มิวก็ไปสมัครเหมือนกัน ไปคัดเลือกที่แกรมมี่ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เข้ารอบลึก ๆ เลยนะ ตอนนั้นที่ได้ตื่นเต้นมากเพราะมิวได้ติดตามเวทีเดอะสตาร์มาตลอดเหมือนกัน คนเข้ารอบต้องเก่งมาก ๆ ต้องเอนเตอร์เทนคนดู แล้วเราจะทำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ด้วยความที่คิดแบบนี้จึงทำให้มิวรู้สึกตื่นเต้นมาก มิวสมัครรุ่นเดียวกับพี่บี้ พี่อาร์ เดอะสตาร์ค่ะ?

ภาพน่ารักๆ ของสาวน้อยนักล่าฝัน มิว-พีรชยา พิณเมืองงาม (คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

เรียกว่าเป็นเด็กที่มีความสามารถรอบตัวจริง ๆ กีฬาเด่น ร้องเพลงดี แถมเรียนเก่งอีกต่างหาก มิวเป็นศิษย์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ช่วงระหว่างม.5 และคาบเกี่ยวกำลังจะสอบเอ็นทรานซ์เกิดวิกฤตทางด้านการเรียน แต่สาวคนนี้เธอพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสค่ะ ?ช่วงตอนม.5 มิวได้เล่นละครเรื่องแรก รอยอดีตแห่งรัก เล่นคู่กับพี่บี้ และมีคอนเสิร์ตเข้ามาด้วย ทำให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนเหมือนกันค่ะ แต่ มิวรู้สึกว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเองมากกว่า ตอนนั้นเริ่มบอกตัวเองว่าเราต้องมีวินัยในการอ่านหนังสือมากขึ้น ทำให้มิวอ่านหนังสือเยอะโดยไม่รู้ตัว ผลปรากฏว่าได้เกรดเฉลี่ยออกมา 3.98 ค่ะ เรียกว่าเยอะมากจนมิวตกใจตัวเองเหมือนกัน แต่ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ด้วยที่ช่วยเหลือในเรื่องของการจดเลกเชอร์ อัดเทปเสียงอาจารย์มาให้ฟัง และท่านอาจารย์ช่วยเหลือในเรื่องของการส่งงานด้วยค่ะ? ?แต่ผิดกับตอนม.6 ซึ่งเป็นช่วงที่ว่างของมิว ปรากฏว่าผลการเรียนออกมาได้ 3.6 คือมาตรฐานของมิวจะมีประมาณหนึ่งนะคะ ตอนนั้นว่างไม่มีละครเข้ามาด้วยซ้ำ รู้สึกเลยว่าตัวเองทำตัวเหลวไหลค่ะ แต่มาดึงตัวเองกลับได้ตอนปลาย ๆ เทอมค่ะ? และเธอก็ไม่ผิดหวังหลังจากดึงตัวเองกลับมาสู่ภาวะปรกติได้แล้ว มิวเริ่มมุมานะอ่านหนังสืออย่างจริงเพื่อพิชิตข้อสอบแอดมิสชั่นส์ วันแห่งความสำเร็จจึงเกิดขึ้น น้องมิวได้เป็นเฟรชชี่ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ?อ่านหนังสือไม่นานค่ะ เพราะมิวจะไปอ่านเตรียมพร้อมตอนใกล้สอบจริง ๆ มิวว่านี่คืออารมณ์ของนักเรียนม.ปลายเลยนะคะ ที่ชอบเก็บอ่านให้หมดตอนจะสอบประมาณ 1 เดือน จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควรเลย เพราะจะเครียดมาก แต่ของมิวโชคดีตรงที่ได้คะแนนสะสมมาตั้งแต่ม.4-ม.5 เรื่องเกรดด้วยสามารถช่วยทำให้มิวได้ผ่อนคลายได้มาก? เป็นสาวที่ชอบความท้าทาย และนี่คือเหตุผลในการเลือกเรียนกฎหมาย ?ตอนม.1-ม.2 มิวได้ดูหนังเกี่ยวกับทนายความ รู้สึกว่าอาชีพนี้ท้าทายมาก เพราะรู้สึกว่าห่างจากตัวเองมาก มิวชอบอะไรที่มันยาก ๆ เหมือนเราไม่น่าจะทำได้ ดูแล้วเป็นการท้าทายตัวเองว่าเราสามารถที่จะทำได้หรือเปล่าค่ะ อีกอย่างมิวเรียนภาษามาบ้างแล้วจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ถ้าจะเรียนอักษรศาสตร์ มิวรู้สึกว่ายังไม่ใช่ตัวเองมากนัก เพราะดูแล้วไม่น่าตื่นเต้น นี่คือในมุมมองของ มิวนะคะ ตอนแรก ๆ มิวเคยให้สัมภาษณ์ไว้เหมือนกันว่าอยากจะเข้าอักษรศาสตร์ ช่วงนั้นยังหาตัวเองไม่เจอค่ะ ไปตามกระแสเพื่อน กระแสครอบครัวด้วย ที่อยากให้เรียน แต่พอวินาทีนั้นจริง ๆ มิวเปลี่ยนใจแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่จะหมดเขตรับสมัคร? ?ติดนิติศาสตร์เป็นอันดับหนึ่งค่ะ ที่เลือกจุฬาฯ เพราะหนึ่งใกล้บ้านด้วย แต่มีหลายคนบอกเหมือนกันว่าถ้าจะเรียนนิติศาสตร์ต้องเรียนที่ธรรมศาสตร์เพราะเด่นเรื่องกฎหมาย ตอนแรกปรึกษาคุณแม่ว่าจะเลือกที่ธรรมศาสตร์ แต่คุณแม่ค่อนข้างเป็นห่วงเพราะมิวเป็นลูกคนเดียว มหาวิทยาลัยค่อนข้างไกลบ้านมาก อยู่หอ คุณแม่ก็กลัว เป็นกังวลอีก จึงตัดสินใจเลือกจุฬาฯ? เทคนิคในการเรียนกฎหมายให้เข้าใจง่ายโดยไม่รู้สึกว่ายาก ?นิติศาสตร์ ถามว่ายากไหม ด้วยความที่มิวมีทัศนคติที่ดีต่อวิชากฎหมายด้วยมั้งคะ จึงทำให้มองว่าไม่ยาก มิวจะบอกตัวเองเสมอว่าไม่ยาก เราไม่ต้องท่องตำราเล่มหนา ซึ่งมิวว่าการเรียนกฎหมายควรใช้ความเข้าใจมากกว่า บวกกับการท่องประมาณหนึ่งแล้วนำมารวมกันทำความเข้าใจในภาพรวมให้ได้ แบบนี้จะทำให้เรียนไม่เครียดด้วยค่ะ? ล่าสุดน้องมิวบอกว่าเหตุการณ์เหมือนช่วงม.5 กลับมาอีกครั้ง เพราะตอนนี้เธอต้องแบ่งเวลาไปซ้อมละครเวทีข้างหลังภาพ คราวนี้น้องมิวจะหาทางออกให้กับตัวเองอย่างไร ?ซ้อมหนักมากค่ะ ทางทีมงานจะนัดตั้งแต่ 10 โมง มิวต้องตื่นเช้าแต่งหน้าทำผมรอเข้าคิวซ้อม จะเลิกอีกทีตอนเที่ยงคืนกว่าค่ะ กลับถึงบ้านประมาณตีหนึ่ง ได้นอนอีกทีตอนตีสอง ตื่นไปเรียนตอนตีห้าครึ่ง เรียกว่าเป็นอะไรที่หนักมาก ๆ ค่ะ โชคดีที่ข้างหลังภาพ มิวไม่ได้มีบทเด่นอะไรมากมาย เลยทำให้มีเวลาอ่านหนังสือบ้าง? ?แต่เหตุการณ์แบบนี้มิวเคยผ่านมาแล้ว มิวจะคิดว่าเหมือนเราอยู่ม.5 ที่เราต้องอ่านหนังสือเยอะ ต้องต่อสู้กับตัวเองว่าถึงยังไงต้องอ่านหนังสือ ห้ามง่วง ปลอบใจตัวเองว่าอีกนิดทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ค่ะ? เชื่อว่าขยันและตั้งใจแบบน้องมิว ทุกอย่างสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแน่นอน ส่วนแผนอนาคตที่สาวคนนี้วางเอาไว้นั่นคือ ?ตอนนี้มิวยังไม่ได้คิดว่าจะเลือกเรียนกฎหมายสาขาอะไร เพราะมิวยังไม่ได้ทำความรู้จักกับสาขาต่าง ๆ มากมายนัก ต้องเรียนไปเรื่อย ๆ แล้วคงจะรู้สึกเองว่าสาขานี้น่าจะเหมาะกับเราและรู้สึกว่าใช่ อีกอย่างที่มิววางแผนอยากสอบเนติบัณฑิตเหมือนกันเพราะว่ายากมาก คนสอบเข้าได้ต้องอ่านหนังสือเยอะ ๆ ชอบอีกแล้วค่ะ เป็นการท้าทายความสามารถว่าเราจะทำได้หรือเปล่า แต่ถามว่าจะไปเป็นผู้พิพากษาหรือเปล่า อยากลองดูมากกว่าค่ะ? ?มิวอยากทำงานในวงการและงานกฎหมายควบคู่ไปด้วย ไม่ชอบทำอะไรสายเดียว ไม่ชอบว่างมากนัก เพราะเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว คุณแม่จับให้เรียนกีฬา เรียนบัลเลต์ จนโตยังไม่ค่อยได้หยุดพักเท่าไหร่ รู้สึกว่าชีวิตนี้มันคุ้มค่ามาก ส่วนอัลบั้มยังไม่ได้เตรียมค่ะ เพราะว่าค่อนข้างเรียนหนักด้วย มิวอยากเรียนเป็นหลัก คงต้องดูก่อนค่ะว่ามิวจะรับไหวหรือเปล่า? สุดท้ายฝากเรื่องเรียนถึงเพื่อน ๆ "เรื่องเรียนในห้อง เพราะบางทีคนที่เรียนผ่านมัธยมปลายมาก่อน เรียนเก่งแต่มองข้ามเรื่องงานในห้อง คะแนนน้อยจริงแต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาสามารถนำไปใช้ได้ ต้องตั้งใจเรียนประมาณหนึ่ง งานที่อาจารย์ให้ทำส่งให้ครบจะเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ" ที่มา "การศึกษาวันนี้" ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : พี่ดอน ++ สาระ ความรู้ การเรียน การศึกษา แฟชั่นอินเทรนด์ คลิก!!! http://campus.sanook.com/