แตงโม-พงษ์พิสุทธิ์ ลูกไม้หล่นใต้ต้น

พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน (แตงโม) เกิด : 18 ตุลาคม พ.ศ. 2528 อายุ : 22 ปี ปริญญาตรี : คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษสื่อสารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม หน้าที่การงาน : ภาพยนตร์เรื่องฮะเก๋า งานถ่ายแบบ โฆษณา และมิวสิควิดิโอ บุตรชายคนรองของ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และนางสมคิด ผิวอ่อน พงษ์พิสุทธิ์ เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 9 ปี จบจากโรงเรียนเพ็ญสมิทธิ์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และได้รับทุนจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และผลิตภัณฑ์อาดิดาส ไปเรียนและเล่นฟุตบอลที่มิดเดิลสโบรซ์ คอลเลจ ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 3 ปี และเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2547 ระหว่างที่ศึกษาในอังกฤษ ได้ร่วมทีมชุดคว้าแชมป์เคาน์ตี้ คัพ และรองแชมป์อิงลิช คอลเลจ คัพ โดยพงษ์พิสุทธิ์ได้รับรางวัลดาวซัลโวสูงสุด 16 ประตู ปัจจุบัน พงษ์พิสุทธิ์ เล่นฟุตบอลอาชีพอยู่กับสโมสรฟุตบอลกอมบัคยูไนเต็ด ในเอสลีก ประเทศสิงคโปร์

Q : ตอนนี้เรียนอยู่ที่ไหนอย่างไร T : เรียนที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมเอกภาษาอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ ปี3 เกรดเฉลี่ย 3.9ครับ Q :เป็นไงมาไง แตงโม ถึงได้เข้าแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ฮะเก๋า T: พี่เปิ้ล ผู้กำกับฯ ได้โทรติดต่อมายังผู้จัดการของผมให้ลองมาแคสท์ติ้งบทนี้ดู ตัวผมเองก็อยากจะลองเล่นดูเพราะเป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้ว ก็เลยตั้งใจจะมาลองแคสท์ติ้งดูครับ แคสท์แล้วก็รู้ผลเลย พี่เปิ้ล-มารยาทบอกเราได้บทนี้แล้วให้เข้ามาซ้อมได้เลย ตอนนั้นดีใจมากครับ Q : ก่อนหน้านี้ แตงโมเคยมีผลงานอะไรในวงการบันเทิงบ้าง T : ที่คุ้นๆกันก็จะมี งานโฆษณากระทิงแดง กับถ่าย MV ผู้ชายหลายใจ ครับ Q : คุณพ่อว่าอย่างไรบ้างพอรู้ว่าแตงโมได้เล่นหนังแล้ว T : คุณพ่อเขาก็ตกใจว่า เอ๊ะเล่นได้ยังไง(ขำ) Q : มีการเตรียมตัวอย่างไรก่อนที่จะมาถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ฮะเก๋า T : ก็จะมีการ work shop อาทิตย์ละ 3 วัน วันละ 3-4 ช.ม แล้วพอกลับไปบ้านก็พยายามที่จะไปอ่านบท ซักซ้อมเพื่อทำความเข้าใจกับบท พูดได้ว่าผมเหมือนเป็นคนบ้าเลยนะ คือก่อนถ่ายทำ 1 วัน ผมจะตั้งกล้องที่ห้อง เพื่อถ่ายตัวเองเวลาซ้อมการแสดงบทที่จะเล่นในวันรุ่งขึ้นก่อนว่าจะเล่นยังไง เหมือนการซ้อมคนเดียวในห้องจะดูว่าหน้าตา แอ็คติ้งของเราจะเป็นยังไงเวลาออกกล้อง เพื่อที่จะได้มาพัฒนาการแสดงให้ออกมาดีที่สุดครับ เพราะถือได้ว่า ฮะเก๋า เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์ชิ้นแรกในชีวิตของผมด้วย ผมก็เลยอยากทำให้มันออกมาดีที่สุด

Q : จำได้ไหมถึงความรู้สึกของเราในการเข้าฉากถ่ายทำวันแรก T : ตื่นเต้นมากๆครับ เพราะได้เจอกับพี่หม่ำวันนั้นเลย แล้วพี่หม่ำมีการเปลี่ยนบทด้วย อย่างซีนแรกที่เข้าฉากถ่ายทำ เป็นฉากที่ต้องเข้ากับพี่หม่ำสองคน นั่งถ่ายกับพี่หม่ำบนบันไดไม้กันแค่ 2 คน จึงยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากๆ พี่หม่ำมีเพิ่มมุก มีแซวว่าพ่อป็นนักฟุตบอลใช่มั้ย เราก็ต้องรับให้ทันกับพี่หม่ำ ก็กลัวหลุดเหมือนกันครับ ผมเลยว่ายากนะ แต่ตั้งใจมากๆครับ Q : ไหนลองเล่าให้ฟังถึงฉากที่ถ่ายทำในวันนั้นหน่อยที่ต้องเข้ากับพี่หม่ำ เป็นฉากประมาณไหนอย่างไร T : เป็นฉากที่พี่หม่ำมาขอร้องให้ผมช่วยเท็น ซึ่งรับบทเป็นใบหม่อนนางเอกของเรื่อง ที่เป็นทอมให้กลับมาเป็นผู้หญิง ก็จะมีมุกขำๆออกทะลึ่งเล็กๆ ประมาณพี่หม่ำมาขอให้เราเนี่ยะช่วยเป็นนักฟุตบอล แล้วเข้าไปเอเป็นนักฟุตบอลนิ เราก็ต้องลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ประมาณนั้น ก็ขำดีครับ Q : มีหลุดบ้างมั้ยฉากนี้ที่ต้องเล่นกับพี่หม่ำ T : (หัวเราะ)ไม่มีหลุดครับ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีครับ เพราะพยายามจะเกร็งไม่ให้หลุดขำ ซึ่งก็ขำไม่ออกเลย Q : ถ้างั้นแตงโมช่วยพูดถึงบทบาทที่ได้รับในเรื่อง ฮะเก๋า T : ในเรื่องเป็นคนชื่อบุ้ง อยู่ในกลุ่มฮะเก๋า ทำอะไรช้าๆซื่อๆ ชอบรับเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อน แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่ตัวเองเอาตัวไม่รอดต้องคอยไปปรึกษาเพื่อน คือ เรื่องผู้หญิง เพราะเป็นคนขี้อายจีบผู้หญิงไม่ติดก็เลยอาศัยใบหม่อน เพราะใบหม่อนเป็นทอมเจ้าเสน่ห์ มีสาวๆมาชอบเยอะเหลือเกิน เราจึงต้องพึ่งใบหม่อนในเรื่องผู้หญิง แต่เวลาใบหม่อนไม่สบายใจโดนใครทิ้งมา บุ้งก็จะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุด เป็นคนที่ซี้ที่สุดที่ใบหม่อนวางใจมากที่สุดในกลุ่ม Q : ชีวิตจริงบุ้งกับแตงโมมีส่วนที่คล้ายกันไหมในเรื่องสาวๆ T : ในชีวิตจริงก็เป็นเหมือนกันไม่ค่อยกล้าไปจีบผู้หญิงถึงจะเป็นผู้ชายเต็ม 100 แต่ก็กลัวที่จะเข้าหาผู้หญิง เพราะกลัวหน้าแหกครับ

Q : แล้วอย่างแตงโมเวลาจีบสาวมีวิธีการอย่างไง T : ก็ใช้การนิ่งๆเข้ามาเป็นเพื่อนกันไปก่อนไม่เคยเข้าไปจีบเลย อย่างในเรื่องตัวบุ้งก็จะเป็นแบบนี้เหมือนกัน และที่คล้ายกันอีกอย่างก็คือ มีอะไรก็ชอบปรึกษาเพื่อนหรือเป็นที่ปรึกษาเวลาเพื่อนอกหักก็จะถามแล้วคอยเป็นที่ปรึกษากันและกัน Q : พูดถึงการทำงานกับบรรดาเพื่อนนักแสดงกลุ่มฮะเก๋าวัยเดียวกันในหนังเรื่องนี้หน่อย T : รู้สึกประทับใจทุกคนมากๆ เพราะรู้สึกว่าการทำงานเป็นกันเองดี มีอะไรก็สามารถคุยกันได้ ทำงานสนุกมากในกองนี้ไม่มีความลำบากใจอะไรเลยครับ รวมถึงทีมงานด้วย ทุกคนน่ารักกับผมมากๆครับ Q : มีฉากไหนที่แตงโมประทับใจเป็นพิเศษในหนังเรื่องนี้ T : ประทับใจหลายๆฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ขี่มอเตอร์ไซด์สนุกดี แล้วก็ฉากที่บุ้งต้องจูงมือใบหม่อนเดินข้ามถนน เพราะว่าเป็นฉากที่ออกเท่ห์ๆดี แล้วอารมณ์หนังก็จะออกซึ้งๆน่ารักๆด้วย แล้วก็ฉากตอนที่บุ้งขอโทษใบหม่อน เพราะมาวันเกิดใบหม่อนช้าที่สุด แต่ที่จริงเพราะรถเสีย มัวแต่แวะซื้อของขวัญให้อยู่ ใบหม่อนก็เลยว่าเรา เราก็ขอโทษแล้วบอกว่าสิ่งที่นายคิดอาจไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดเสมอไปก็ได้ ผมต้องท่องเป็น10ๆรอบเพื่อให้ได้อารมณ์จริงๆ เป็นซีนอารมณ์ที่ประทับใจครับ Q : เห็นบอกว่าในเรื่องแตงโมต้องมีฉากกุ๊กกิ๊กกับน้องเท็นด้วยใช่มั้ย T : ครับ ก็มีฉากจูบกับเท็นแต่ตอนนั้นเท็นใส่หน้ากาก และเราต้องไม่รู้ว่าเป็นใบหม่อน ตอนสุดท้ายเปิดหน้ากากมาจึงรู้ เท็นก็จะเขิน แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะเพราะเห็นว่าเป็นน้อง แต่พอถ่ายเสร็จก็บอกเท็นว่าอย่าคิดอะไรมากเป็นการแสดงแต่ถ่ายอีกก็ดี (หัวเราะ) Q : สำหรับหนังเรื่องแรกอย่างฮะเก๋า แตงโมคิดว่าฉากไหนยากที่สุด T : คิดว่าฉากที่เข้ากับพี่หม่ำครับ กลัวออกมาไม่ดี กลัวทุกอย่าง เพราะเป็น ซีนแรกตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก Q : ร่วมงานกับพี่เปิ้ล มารยาทผู้กำกับเป็นอย่างไรบ้าง T : พี่เปิ้ลเป็นผู้กำกับที่ดีช่วยบอกทุกอย่างว่าตรงนี้ควรเป็นยังไง ทำแบบนี้ไม่ใช่นะ ต้องทำแบบนี้ มีการลงมาดูเอง เพื่อให้งานออกมาดีผมชอบตรงนี้ครับ พี่เปิ้ลก็บอกว่าการเล่นหนังไม่ใช่ท่อง มันต้องมีความรู้สึกจริงๆเวลาเล่นต้องป็นคนนั้นเรื่องนี้สำคัญ พอผมเชื่อว่าเท็นเป็นทอมก็จะเล่นได้ง่ายขึ้น ถ้าคิดว่าเท็นเป็นผู้หญิงก็เล่นลำบาก เพราะในเรื่องเท็นเป็นทอมจึงเห็นใบหม่อนเป็นทอม พี่เปิ้ลไม่ดุเลยใจดีไม่ว่าเลย ส่วนใหญ่เขาจะสอนมากกว่า Q : มองอนาคตตัวเองกับวงการบันเทิงอย่างไรบ้าง T : อยากทำทุกๆอย่างครับ ทั้งละครทั้งหนังอยากลองทำทุกอย่าง แต่อยากลองยิงปืนมากที่สุด บทบาทที่อยากเล่น ผมอยากเล่น Action เท่ห์ๆ และอยากให้พี่มดทำหนังเกี่ยวกับประวัติของคุณพ่อผม ผมว่าความเป็นพ่อไม่ธรรมดาสำหรับผม ประวัติการทำงานที่กว่าจะเป็นปิยะพงษ์ได้ทุกวันนี้มีความน่าสนใจนะ อย่างตอนที่พ่อผมที่ไปเล่นบอลที่เกาหลีแล้วเกิดเรื่องล้มบอล ผมอยากแสดงเป็นคุณพ่อ อยากลองเป็นคุณพ่อในตอนนั้น ที่สำคัญใกล้บอลโลกแล้วด้วย Q : คุณพ่อได้แนะนำอะไรแตงโมบ้างมั้ย T : สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เคารพคนอื่น ให้เกียรติผู้อื่น นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ แล้วอีกเรื่องนึงก็คือ เรื่องบุญคุณ ต้องกตัญญู รู้คุณคนครับ Q : คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้บ้าง กับงานทางการแสดงบ้าง T : ก็เป็นธรรมดาที่หนังเรื่องแรกต้องคาดหวังแต่ไม่คาดว่าจะขายได้ 100ล้าน แค่หวังให้คนดูชอบและเป็นหนังอีกเรื่อนึงที่อยู่ในใจของผู้ชม อยากให้เก็บเรื่องนี้ไว้ แค่จำได้ว่าผมก็เล่นหนังเรื่องนี้นะ แค่นี้ผมก็ประทับใจแล้ว ส่วนรายได้ถ้าผู้คนชอบรายได้ก็จะตามมาเองอยู่แล้ว สำหรับคำว่า ฮะในหนังเรื่องนี้ก็จะหมายถึงตัวใบหม่อนที่เป็นทอม เก๋าคงเป็นกลุ่มเพื่อนๆ ที่ชอบทำอะไรเก๋าๆ หนังเรื่องนี้ดูได้ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ ตลกแน่นอน เพราะผมเล่นเองยังขำเลย อีกอย่างหนึ่งเป็นหนังวัยรุ่น มีผีนิดนึงด้วย สนุก น่ารัก และตลก มีทุกรสชาติครับ มีความเก๋าระหว่างเรากับเพื่อน กันทุกคน ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.adintrend.com/scoop/1130hakao.html