แชมป์-พีระพล เอื้ออารียกุล หนุ่มหล่อมากความสามารถเป็นทั้งพิธีกร ผู้ประกาศข่าว คอลัมนิสต์ในนิตยสารคู่สร้างคู่สม นอกจากนี้แชมป์ยังได้มีโอกาสเป็นนักร้องในโปรเจกต์ The Album อยากบอกต้องออกเทป
แต่บทบาทของหนุ่มแชมป์ที่เด่นที่สุดเห็นทีจะเป็นผู้ประกาศข่าวกีฬา ในรายการทันโลกกีฬา หลายคนยกให้เขาเป็นผู้ประกาศหน้าใหม่ที่พลิกโฉมการรายงานข่าวกีฬา แชมป์จึงถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 6 ของนักข่าวที่มาแรงแห่งปีหมู
ทอง (2550) และพิธีกรเลือดใหม่ที่เขย่าเรตติ้งจอแก้ว เรียกว่าเขาคือนักสื่อสารมวลชนตัวจริงคนหนึ่ง
การที่แชมป์ได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้แชมป์บอกว่าส่วนหนึ่งมาจากความสามารถและความตั้งใจ แต่อีกครึ่งหนึ่งที่สำคัญคือพื้นฐานทางการศึกษาของเขาเอง หลังจากที่แชมป์เรียนจบไฮสคูลจากโรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา หนุ่มคนนี้เหินฟ้าไปเรียนต่อยังสหรัฐอเมริกาต่อทันที ซึ่งการมาเรียนต่อยังต่างแดนครั้งนี้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่เขาพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อย่างสวยงาม เรื่องราวจะเป็นอย่างไร แชมป์มาถ่ายทอดประสบการณ์ให้รู้กัน
ลัดฟ้าสู่ Orange, CA (U.S.A.)
ที่ผมเลือกเรียนที่ Chapman University เพราะมหาวิทยาลัยนี้เด่นในด้านของนิเทศศาสตร์ และเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้โอกาสผม บอกตรง ๆ ว่าผมเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งนะครับ ผมเรียนจบเกรด 2.85 ซึ่งเวลาจะไปสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของเขานั้นไม่มีสิทธิ์เลย ผมถูกปฏิเสธมาหลายมหาวิทยาลัย แต่มีที่นี่เขาให้โอกาสผมมาเรียน
ชีวิตเด็กปี 1 ใน Chapman University
ผมไปเรียนตั้งแต่ปีหนึ่งครับ ต้องปรับตัวเยอะมาก เรียกว่าทรมานที่สุดแล้ว เพราะตอนที่ผมบินไปเรียนต่อนั้นผิดหลายขั้นตอนมาก หนึ่ง ผมขับรถไม่เป็น แต่ผมคิดว่าไม่เป็นไร เพราะว่าผมตั้งใจว่าจะอยู่หอ เพราะผมได้ดูภาพหอมาจากในเว็บไซต์แล้ว ทุกหอดูดี เจ้าหน้าที่ถามว่าต้องการอยู่หอไหน ผมก็บอกไปว่าอยู่หออะไรก็ได้ เขาเลยจัดให้ผมไปอยู่หอที่สภาพมันไม่คุ้มกับราคาที่จ่าย ผมเลยตัดสินใจออกมาเช่าอพาร์ตเมนต์ข้างนอก
แต่การมาเช่าอพาร์ตเมนต์นั้นเป็นปัญหาตรงที่มันไกลจากมหาวิทยาลัย และผมขับรถไม่เป็นด้วย ขึ้นรถไปโรงเรียนเองอยู่ได้สักพักครับ แล้วอีกอย่างผมทำกับข้าวไม่เป็น ซักผ้าไม่เป็น ไม่ใช่ว่าผมเป็นคุณหนูอะไรนะ แต่ผมใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป คือผมเป็นผู้ชายด้วย เรื่องแบบนี้เหมือนไม่ค่อยได้สนใจ ลืมคิดไปว่าการเช่าอพาร์ตเมนต์นอกมหาวิทยาลัยต้องมีการเดินทาง ถ้าอยู่หออาหารการกินมีให้อยู่แล้ว แต่เราอยู่เองต้องหากินเอง
อาทิตย์แรก ผมร้องไห้ทุกวันเลยนะ ห้องผมเป็นห้องเปล่า ๆ ผมต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ใส่เอง และต้องมานั่งประกอบเองด้วย ห้องรับแขก ผมซื้อแผ่นรองโยคะมานั่งดูหนัง อีกสองอย่างที่ผมซื้อคือตู้เย็นกับไมโครเวฟ ผมกินซีเรียลธัญพืช กินนม เป็นอย่างนี้ 3 ปีครับ เพราะตอนเช้าผมต้องรีบไปเรียน ตอนกลางวันผมกินในมหาวิทยาลัย ตอนเย็นอาจจะซื้อมากิน ผมจำได้เลยว่าวันแรกทอดไข่ไฟไหม้ทำให้เข็ดไปเลยครับ ทุกอย่างสามารถผ่านไปได้อย่างทุลักทุเล ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ว เพราะผมเจอช่วงที่แย่ ๆ มาหมดแล้ว
เมื่อไม่ได้อยู่หอพัก แน่นอนว่าสังคมเพื่อนฝูงอาจไม่มากเท่าเด็กหอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องการเรียนของหนุ่มน้อยคนนี้
การที่ผมไม่มีเพื่อนทำให้ผมตั้งใจเรียนมาก ผลการเรียนออกมาค่อนข้างดี ผมได้เกรดเฉลี่ยมา 3.85 เรียกว่าการเดินเกมผิดของผมเป็นผลดีนะ (ยิ้ม) และด้วยความที่ผมไม่ได้อยู่หอ ทำให้ผมไม่มี ผมจึงมานั่งคิดว่าทำอย่างไรถึงจะได้รู้จักคนเยอะ วิธีดำความรู้จักคน ผมเลยเล่นการเมืองในมหาวิทยาลัย ผมลงสมัครเป็นวุฒิสมาชิก (Senator) ตอนเรียนอยู่ปี 2
ผมคุยกับคุณพ่อว่าถ้าเราไม่คุยกับใครเราคงไม่มีเพื่อนอยู่อย่างนั้น เราต้องเดินเข้าไปหาเขาเลย มหาวิทยาลัยของผมเป็นสังคมเล็ก ๆ มีนักศึกษาประมาณ 4 พันกว่าคน มีคนลงสมัครเยอะเหมือนกัน ปรากฏว่าผมได้ด้วย และเป็นนักศึกษาต่างชาติคนแรกที่ได้เป็น ผมชูนโยบายด้วยการนำเด็กต่างชาติเข้าร่วมทำกิจกรรมในคอนเซ็ปต์ Find a home away from home ผมได้เสียงโหวตเกือบหนึ่งพันเสียง เกือบประมาณ 25% มีงบประมาณปีหนึ่ง 1 ล้านเหรียญ ให้เราบริหารว่าจะต้องไปทำอะไรบ้าง ซึ่งผมได้ไปเชิญอาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ มาเป็นวิทยากร เพราะเข้าได้ปริญญากิตติมศักดิ์ที่ Chapman University รู้สึกว่าผมได้ทำอะไรเยอะมาก พอมองย้อนกลับไปภูมิใจนะครับ
แชมป์บอกว่าเขาเลือกเรียนนิเทศศาสตร์เพราะเป็นคนชอบเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก และแรงบันดาลใจสำคัญของเขาคือ Sir Alex Ferguson
ตอน ม.5- 6 มีโอกาสได้ไปฝึกงานที่คลื่นวิทยุของสยามกีฬา รายการฟุตบอลยุโรป ประมาณ 2 เดือน ที่เข้าไปได้เพราะผมรู้จักกับผู้ใหญ่ในนั้น และท่านถือว่าเป็นคนผลักประตูให้ผมได้เดินเข้าไปค้นหาสิ่งที่ผมรัก เขามีเทปม้วนหนึ่งมาให้ผมลองพากย์ และผมสามารถทำให้เขาเห็นว่าได้ครับ จากจุดนี้ที่ผมได้ไปฝึกงาน ผมจึงได้บัตรนักข่าวซึ่งทำให้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ Sir Alex Ferguson ถือเป็นวินาทีที่น่าตื่นเต้นและน่ากลัว (ยิ้ม) นักข่าวุถ้าอยากจะสัมภาษณ์ต้องเดินไปถามเขามีไมค์วางไว้ให้ด้านหน้า ซึ่งชาติตะวันออกอย่างเราเป็นสิ่งที่พวกเราไม่ค่อยคุ้นชินกัน เวลาผ่านไป 20 นาที ผมเห็นแต่ชาวต่างชาติถาม ผมเลยคิดว่าสักครั้งแล้วกัน เลยเดินไปถามคำถามเดียวแต่เป็นคำถามที่ยาวมาก ผมถามเขาว่าเขามีความกดดันหรือเปล่า เพราะเป็นปีสุดท้ายที่คุมทีม ผมรู้สึกว่าเป็นวินาทีที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะเขาไม่ได้ตอบผมในฐานะนักข่าวแต่เขากำลังคุยกับผมอยู่ และผมได้ลายเซ็นของ Sir Alex Ferguson มาด้วย รู้สึกว่าเขาให้เกียรติเด็กอย่างผมมากครับ
สีสันของการเป็นเด็กนิเทศฯ ใน Chapman University เรียกว่าไม่ธรรมดาสำหรับเด็กหนุ่มคนนี้เลย เพราะการทำข่าวที่แตกต่างจากเพื่อน ส่งผลให้นักศึกษาสัญชาติไทยคนนี้ได้รับรางวัล Jim Zailian Memorial Scholarship จาก (Radio and TV News Association of Southern California)
ผมเลือกที่จะทำข่าวข้างนอกมหาวิทยาลัยเพราะจะได้อะไรมากกว่า และเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับตัวเองด้วย หลังจากนั้นส่งข่าวนี้เข้าประกวด และผมเป็นคนเดียวจาก Chapman U. ที่ได้รับรางวัลอีกสองคนมาจาก University of Southern California ข่าวที่ผมส่งเข้าไปประกวดเป็นข่าวนักพากย์ฮอกกี้คนหนึ่งชื่อคริสมาสต์ เขาบังเอิญไปรู้จักกับเด็กที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับสมอง ทุกแมตช์สุดท้ายจะเข้ามาในห้องพากย์ วันหนึ่งเด็กคนนี้โคม่า คริสเลยไปเยี่ยมและไปพากย์ในห้อง ICU ด้วยสำเนียงและสำนวนกีฬา ปรากฏว่าเด็กคนนี้ฟื้นเกิดเป็นเรื่องราวมหัศจรรย์ในเมืองแอนนาไฮม์
หลังจากที่แชมป์ได้รางวัล เขาได้โอนหน่วยกิตไปเรียนต่อยัง University of Southern California, LA, CA กว่าจะได้เรียนที่นี่แชมป์บอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่งานนี้มีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น
ผมได้รางวัลข่าวนั้น ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจอยากเรียน University of Southern California เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงติดหนึ่งใน 5 ของประเทศทางด้านนิเทศศาสตร์ ผมเลยโอนหน่วยกิตไปเรียนคณะนิเทศฯ ที่นี่ แต่เป็นเรื่องที่ยากมากครับ ผมส่งเรื่องไปโชว์เกรดเฉลี่ย 3.87 ผมเป็นวุฒิสภาของมหาวิทยาลัย และผมมีรางวัลการทำข่าว ผมยังไม่ได้เลย เขาบอกว่ารับผมเป็นนักศึกษาได้ แต่รับผมเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ไม่มบอกว่าชีวิตผมมาพร้อมกับคำว่ามหัศจรรย์เสมอ ก่อนที่จะเปิดเรียนไม่กี่วัน ผมไปขอร้องเขาว่าถ้าเกิดผมไม่ได้เรียนสาขานี้ผมคงเสียเวลาอีกหลายปี และผมไม่อยากเสียเงินเยอะ บังเอิญว่ามีคนสอบเข้าคณะนิเทศฯ ได้และบังเอิญว่ามีโควตาเปิดขึ้นมา 1 คน เขาเลยรับผมเข้าเรียนต่อ ชีวิตผมคือการผจญภัยมาก
แต่การเรียนที่ USC กับ Chapman U. นั้น ผมว่าไม่ได้ต่างกันเลย วิชาที่ผมเรียนที่นี่ ผมเคยเรียนที่ Chapman U. มาแล้ว ผมคิดว่าตัวเองโชคดีตรงที่เราได้วิชาความรู้ที่แน่นมาจากที่เก่าและใช้ชื่อมหาวิทยาลัย เวลาที่ผมบอกคนอเมริกันว่าผมเรียนที่ USC นะ เขาจะยินดีมาก เพราะคนของเขายังเข้าไม่ได้เลย เป็นความภูมิใจของผมสองเด้ง ผมได้พัฒนาตัวเองเยอะด้วย
การใช้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปด้วย สนุกมากครับ เพราะเมือง Orange ที่ผมอยู่ไม่มีคนไทยเลย เป็นเมืองที่มีบรรยากาศคลาสสิกมาก แต่ผมไปเรียนที่ USC ผมสนุกยิ่งกว่าอยู่เมืองไทยอีก (หัวเราะ) เพราะได้เจอคนไทย ผมได้เจอบ้านที่ 2 ของผม
เรียกว่าเป็นเด็กที่ใฝ่รู้ในสิ่งที่ตัวเองรักอยู่ตลอดเวลา แชมป์เคยไปจัดรายการ Talking with the Champ, Chapman Sports Network เป็นสถานีท้องถิ่นในรัฐ California และรายการทีวี. Nightcap ของ Chapman University
นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลนักศึกษาดีเด่นของคณะ ได้รับรางวัล Outstanding Participation in the Elevator Business Speech Contest รางวัลที่ 1 ในสมาชิกของสมาคมนักเรียนดีเด่น Gamma Beta Phi Society ของ Chapman University ทั้งสองอย่างคือความภาคภูมิใจของเขาในฐานะเด็กไทยที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ
นี่คือเรื่องราวของผู้ชายที่ชื่อ แชมป์-พีระพล เอื้ออารียกุล ต้องบอกว่าแชมป์คือผู้ชนะที่มาจากความสามารถของเขาอย่างแท้จริง อยากรู้จักตัวตนที่แท้จริงของแชมป์คลิกเขาไปได้ที่ www.champch3.com หรืออยากปรึกษาเรื่องเรียนหรือเรื่องทั่วไปกับเขา สามารถเขียนไปได้ที่ E- mail:champch3fanclub@gmail.com ล่าสุดหนุ่มคนนี้กำลังก่อตั้งมูลนิธิเอื้ออารียกุล เพื่อซื้ออุปกรณ์กีฬาและหนังสือให้เด็กด้อยโอกาส
หล่อ ใจดี ความสามารถเพียบ น่าเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะแชมป์คือคนคุณภาพรุ่นใหม่
ที่มา " เรียนรอบโลก "
ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : พี่ดอน
สนับสนุนเนื้อหา
