Eiffel Scholarship 2008/2009
ทุนของรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นทุนแบบ Full Scholarship เป็นทุนเต็มจำนวน ดังนั้น ในแต่ละปีจะมีคนมาสมัครขอทุนกันมาก ประเทศที่ได้รับทุนมากที่สุดคือ จีน เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งรวมแล้วประมาณร้อยละ 44 ของทุนทั้งหมดทั่วโลกที่ฝรั่งเศสแจกให้ การให้ทุนไม่ได้กำหนดจำนวนตายตัวทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละบุคคลว่า ทางคณะกรรมการที่ฝรั่งเศสนั้นตอบรับในการขอทุนของเราหรือไม่ ถึงแม้ว่าคุณสมบัติของเกรดเฉลี่ยของผู้สมัครได้กำหนดไว้ที่ 3.20 ก็ตามแต่ส่วนใหญ่ก็มักมีคะแนนเฉลี่ยที่ยอดเยี่ยมมาก ตั้ง 3.50-3.60 ขึ้นไป ซึ่งบางปีผู้สมัครมีเกรดเฉลี่ย 4.00 ก็มี
Olivier Ribault
Head-CampusFrance Desk Bangkok
ความสวยงามของภูมิประเทศ และคุณภาพทางการศึกษาของประเทศฝรั่งเศส ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักศึกษาชาวไทยและทั่วโลกให้ความสนใจไปศึกษาต่อในสาขาต่าง ๆ ในแต่ละปี มีจำนวนไม่น้อย ดังนั้น เมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศแจกทุนสำหรับนักศึกษาเพื่อไปศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศส จึงได้รับความสนใจมากตามไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยทุนของรัฐบาลฝรั่งเศสนี้มีชื่อว่า
ทุนไอเฟล (Eiffel Schorlarship)
ทุนไอเฟลนี้เริ่มมีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2542 ตามนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงศึกษาธิการของประเทศฝรั่งเศส โดยในแต่ละทางรัฐบาลฝรั่งเศสมีการแจกทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาจากทั่วโลกประมาณ 350-400 ทุน โดยความพิเศษของทุนอยู่ที่ไม่ได้กำหนดจำนวนทุนไว้ตายตัวว่าในแต่ละประเทศจะได้รับทุนเท่าใดหากขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้สมัครเองว่าได้รับการคัดเลือกหรือไม่เท่านั้น และผู้สมัครขอทุนนี้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านภาษาฝรั่งเศสมาก่อน
ดังนั้น นักศึกษาชาวไทยที่สนใจทุนรัฐบาลฝรั่งเศสนี้ สามารถสมัครขอทุนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเราจะติดอยู่หนึ่งในโควตาทุนหรือเปล่า แต่ทั้งนี้ผู้สมัครเองก็ต้องเป็นผู้ที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ข้อจำกัดอีกประการคือทางรัฐบาลฝรั่งเศสมอบทุนให้แก่นักศึกษาใน 3 สาขาวิชาเท่านั้น ดังนี้
1. วิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Engineering and Applied Sciences)
2. บริหารการจัดการและเศรษฐศาสตร์ (Management and Economics)
3. กฎหมายและรัฐศาสตร์ (Law and political Sciences)
สมัครขอทุนอย่างไร
ผู้ที่ต้องการสมัครขอทุนในสาขากฎหมาย รัฐศาสตร์ บริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ สามารถสมัครได้ที่ CampusFrance (EduFrance เดิม) และต้องยื่นเอกสารทั้งหมดก่อนวันที่ 15 กันยายน 2550 โดยต้องนำหลักฐานการสมัครไปด้วยดังนี้
1. จดหมายแสดงเจตจำนงสาขาวิชาที่ต้องการศึกษาต่อ 1 ฉบับ (Motivation Letter or Statement of Purpose)
กำหนด 1-2 หน้า ขนาด A4 เท่านั้น
2. ประวัติการศึกษาและการทำงานโดยย่อ 1 ฉบับ (Resume or Curriculum Vitae)
3. ผลการเรียนและหลักฐานการศึกษา 1 ฉบับ (Transcript)
4. รูปถ่าย 2 รูป
5. ผลทดสอบภาษาอังกฤษ และ GMAT เฉพาะผู้สมัครทุนด้านบริหารธุรกิจโปรแกรมภาษาอังกฤษ
สำหรับผู้ขอทุนในสาขาวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ต้องเข้าไปกรอกใบสมัครผ่านเว็บไซต์ได้ที่ www.nplusi.com โดยสามารถกรอกใบสมัครได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และนำเอกสารมายื่นขอทุนได้ที่ CampusFrance เช่นเดียวกัน โดยต้องยื่นสมัครขอทุนก่อนกลางเดือนพฤศจิกายนปีนี้
คุณสมบัติของผู้สมัคร
ขั้นแรกก่อนตัดสินใจสมัครขอทุนกับทางรัฐบาลฝรั่งเศส เราต้องกลับมาตรวจสอบดูคุณสมบัติส่วนตัวกันก่อนว่าเราสามารถหรือเหมาะกับการขอทุนนี้หรือไม่ เพราะข้อกำหนดของคุณสมบัติในการขอทุนมีอยู่อย่างชัดเจน หากผู้สมัครมีสมบัติข้อใดไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โอกาสของการได้รับทุนนั้นก็หมดลงไปด้วย
ทางรัฐบาลฝรั่งเศสได้กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครไว้ว่า ต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปี มีผลการเรียนดีที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 หรือจบปริญญาตรี ตามสาขาที่กำหนด โดยที่คะแนนเฉลี่ยสะสม 3.20 แต่สำหรับผู้ที่จบการศึกษาในระดับปริญญาโท แล้วสามารถยื่นเสนอโครงการวิจัย หรือ Proposal มาด้วย) ที่สำคัญผู้สมัครที่ต้องการเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย จะไม่ได้รับพิจารณาในการขอทุนนี้ด้วย
เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของการขอทุนกันแล้ว ถ้าเรามีคุณสมบัติทั้งหมดโดยไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่ข้อเดียว ก็ไม่ต้องลังเลในการขอทุนแต่อย่างใด แต่ถ้ายังไม่มั่นใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ CampusFrance หรือหน่วยงาน EduFrance เดิม กันได้เพื่อความอุ่นใจ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
CampusFrance สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ที่ตั้ง : เลขที่ 29 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ 10120
โทรศัพท์ : 0-2627-2113-4 โทรสาร : 0-2627-2111 E-mail : rchorjit@gmail.com Website : www.egide.asso.fr/eiffel
